เปรียบกับอาหารหนังเรื่อง Lady Bird ถือได้ว่าครบรสไม่ว่าจะตลก ซึ้ง เศร้า หรือเหงา ช่วงเวลาในหนังย้อนกลับไปประมาณค.ศ. 2001 – 2003 กำกับโดย เกรต้า เกอร์วิค (Greta Gerwig) และแสดงนำโดย เซอร์ชา โรนัน (Saoirse Ronan) รับบท คริสทีน (Christine) หากหนังเรื่องนี้ธรรมดาคงไม่น่าสนใจแต่อะไรทำให้หนังกวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนรวมถึงได้เข้าชิงในเวทีออสการ์ ?เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงชื่อคริสทีนอาศัยอยู่ในเมืองซาคราเมนโต เธอกำลังจะอายุครบ 18 ปี และก้าวสู่รัวมหาลัย จึงเป็นช่วงที่เธอต้องตัดสินใจในชีวิตว่าจะเลือกเดินทางใด ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างต้องรับชมต่อในหนังนะครับ...รีวิว NO SPOILดูง่าย เพราะเป็นชีวิตวัยรุ่นที่กำลังก้าวสู่รัวมหาลัยเธอจึงอยู่ในช่วงอยากรู้อยากลองและตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อในชีวิต เธอเป็นคนที่มีความเป็นตัวเองสูงแม้กระทั่งตั้งชื่อให้ตัวเองใหม่ว่า Lady Bird ชื่อของเธอนั้นสามารถตีความได้หลากหลายสำหรับผมแล้วอาจจะหมายถึงหญิงผู้ต้องการอิสระเพื่อจะได้เลือกชีวิตที่ใฝ่ฝัน ในหนังคริสทีนไม่ชอบเมืองซาคราเมนโตเนื่องจากเธอชอบความหรูหรา สวยงาม ชีวิตคนเมือง รวมถึงเรื่องศาสนาซึ่งสังคมที่เธออยู่เคร่งศาสนามาก คริสทีนจึงทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้ออกไปจากเมืองนี้ ระหว่างที่เธอหาทางให้ตัวเองหลุดพ้นจากเมืองนั้นชีวิตของเธอก็ยังคงเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเจอกับเพื่อน แฟน ความสวยความงาม หรือความอินเทรน พฤติกรรมการต่อต้านของเธอส่งผลให้คนอื่นไม่เข้าใจสิ่งที่คริสทีนทำครอบครัวของครีสทีนไม่ได้มีฐานะรวยมาก แต่เธออยากใช้ชีวิตหรูหราจึงติดนิสัยหลอกลวงคนอื่นหรือทำพฤติกรรมที่ไม่น่ารักกับครอบครัวอยู่บ่อย ๆ เธอต้องฟาดฟันกับแม่ตลอดทั้งเรื่องหากใครที่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับแม่จะเข้าใจสิ่งที่คริสทีนเป็นและคุณจะแอบยิ้มกับร้องไห้ไปพร้อมตัวละครโดยไม่รู้ตัว ส่วนพ่อนั้นก็เป็นรูปแบบของพ่อในอุดมคติคือไม่จู้จี้จุกจิกกับลูกตามใจเป็นส่วนใหญ่ นอกจากพ่อแม่ยังมีพี่ชายของเธอที่เรียกเสียงหัวเราะได้เช่นกัน หลงรักตัวละครพี่ชายดูอึน ๆ ดีหัวเลี้ยวหัวต่อ หลาย ๆ คนต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่อยากรู้อยากลอง คริสทีนเธอก็เช่นกันเธอมีพลาดเหมือนคนปกติแต่คริสทีนเป็นผู้หญิงแข็งแกร่งและมุ่งมั่นที่จะออกไปจากเมืองซาคราเมนโตแห่งนี้ให้ได้ทำให้เธอค่อนข้างมีสติ เรียกว่าอยากรู้อยากลองแบบฉลาดไม่ได้หลงขนาดนั้น ความรักที่ผ่านเข้ามาก็ได้มอบความอบอุ่น ข้อคิดและสร้างภูมิคุ้มกันให้ก้าวไปสู่วัยผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบเพื่อนหรือแฟนสรุปเป็นหนังที่ดูง่ายแต่แฝงไปด้วยสัญญะให้เราวิเคราะห์ เช่น ฉากเลือกเสื้อผ้าไปงานพรอมกับแม่ ( ผมชอบมาก) ฉากคุยกับแม่บนรถยนต์ ฉากในโรงพละ ฯ ล ฯ นอกจากรอยยิ้มกับน้ำตาที่ได้จากหนังแล้ว คุณจะได้ข้อคิดและแรงบันดาลใจกลับไปด้วยหลังจบการรับชม ดังนั้นจึงอยากให้รับชมเพราะดูสบาย ได้สาระ ถ้าไม่ดูถือว่าพลาดนะครับ ตอนนี้มีฉายทาง Netflix แล้ว สำหรับวันนี้ขอบคุณครับขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก YouTube ช่อง A24