The Worst Witch คือผลงานจาก Netflix ประเทศอังกฤษ เป็นหนังที่สร้างมาจากวรรณกรรมของ Jill Murphy ซึ่งเคยนำมาสร้างเป็นหนังแล้วสามเวอร์ชันคือเวอร์ชันของปี 1986 1998 และ 2017-2020 ที่ได้น้องแรมซีย์ เบลลา ตัวละคร ลีอานนา มอร์มอนต์ จาก Game Of Thrones มารับบทนำ ก่อนจะเปลี่ยนตัวนักแสดงนำหลักเป็น Lydia page ในซีซันที่สี่เพราะปัญหาสุขภาพจิตของแรมซีย์ เบลลา ซึ่งน่าเศร้ามากเลยเพราะเรามองเห็นแรมซีย์ เบลลาในบทบาทของมิลแดร็ก ฮับเบิลมาสามปี ความรู้สึกที่ได้ดู The Worst Witch ss 1 The Worst Witch ซีซันแรกนั้นเราจะได้มองเห็นมิลแดร็ก ฮับเบิล คนที่ไม่มีเวทมนตร์อะไรเลยได้เข้าเรียนโรงเรียนแคร็กเกอร์ ที่ไม่มีใครต้อนรับเธอเพราะเธอไม่ได้มาจากครอบครัวพ่อมดแม่มด และทุกคนยังมองว่าเธอเป็นแม่มดที่แย่ที่สุดในโรงเรียนอีกด้วย แต่ที่นี้เธอมีเพื่อนแท้ที่คอยช่วยเหลือเธออยู่นั้นคือม็อด สเปลบอดี้ และอีนิต ไนท์เชด การดู The Worst Witch แทบจะเป็นเหมือนการมองหนังสือเรียนก่อนจะเป็นวรรณกรรมพ่อมดแม่มดของเจเคโรว์ลิงเรื่อง Harry Potter เลย CG ในเรื่องค่อนข้างคุณภาพกลางๆ แสงสีเสียงองค์ประกอบในหนังค่อนข้างดี โดยรวมก็ตกหลุมรักการแสดงที่เป็นธรรมชาติ น่ารักสดใสสมวัยของตัวละคร ความรู้สึกที่ได้ดู The Worst Witch ss 2 ตัวละครทุกๆคนมีพัฒนาการขึ้น และการเข้ามาใหม่ของซีบิล ฮอล์โลว์ น้องสาวของของอีเธล ฮอล์โลว์ในปีแรกก็น่าสนใจมากๆ เมื่ออีเธล ฮอล์โลว์ ตั้งใจจะคืนพลังเวทมนตร์ให้กับพี่สาวคนโตจากผลึกหินศิลาเวทมนตร์ จนกระทั่งศิลาเวทมนตร์พังลง และทำให้โรงเรียนทั้งโรงเรียนถูกแช่แข็ง มิลแดร็ก ฮับเบิล จึงตัดสินใจสละเวทมนตร์ทั้งหมดที่มีของตระกูลตัวเองเพื่อช่วยเหลือโรงเรียน ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์แทน ภาพ CG ในซีซันนี้สมจริงขึ้นจากภาคที่แล้วเป็นอย่างมาก acting สีหน้า ท่าทาง สายตา การวิ่ง น้ำเสียง สำเนียงการพูด และการร่ายเวทมนตร์ และ CG ควันผสมการปรุงยา ทุกอย่างดูสมจริงขึ้นมากๆจากภาคที่แล้ว คิดว่าเหมาะมากๆสำหรับคนที่อยากจะฝึกฟังภาษาอังกฤษสำเนียงบริติช ส่วนตัวคิดว่าภาษาอังกฤษของ UK มีสำเนียงที่ฟังยากนิดหนึ่งถ้าเทียบกับเวอร์ชันของอเมริกาที่มีภาษาและการใช้คำที่ฟังทันสมัยกว่าแม้จะพูดรัวๆเร็วๆก็ตาม ความรู้สึกที่ได้ดู The Worst Witch ss 3 เรียกได้ว่ามิลแดร็ก ฮับเบิลกลายเป็นฮีโร่คนใหม่ของโลกเวทมนตร์ผู้ปกป้องโรงเรียนที่ทุกคนมองว่าเป็นไอดอลเลย แต่เพราะเธอสร้างปัญหาอีกครั้ง เธอจึงกลายเป็นแม่มดที่แย่ที่สุดของโรงเรียนและทุกคนก็ลืมเรื่องดีๆที่เธอทำไป เพราะในภาคนี้ มิลแดร็ก กลับมาอีกครั้งกับการแอบขโมยน้ำยาปรุงเวทมนตร์มาปรุงยาและเสกให้คนธรรมดามีพลังเวทมนตร์เหมือนกับพ่อมดแม่มด ซึ่งเป็นความผิดพลาดแบบเดียวกับที่เฮคคาที จอย ฮาร์ดบลูมเคยทำพลาดและเสกให้เพื่อนของตัวเอง อินดิโก้ มูน กลายเป็นหินมาแล้วกว่าสามสิบปี และมิลแดร็ก ฮับเบิล ต้องหาทางทำทุกทางเพื่อไม่ให้แม่ของตัวเองกลายเป็นหินแบบเดียวกับอินดิโก้ มูน และเธอก็เจอปัญหาใหม่ที่เธอต้องแก้ด้วยตัวเองด้วย ในขณะเดียวกัน อีเธลก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาเช่นกันในฐานะแม่มดที่ดีที่สุดของโรงเรียน ซึ่งทำให้โรงเรียนแคร็กเกอร์ เจอปัญหาอีกครั้ง ซึ่งบอกตรงๆว่าภาพลักษณ์ของมิลแดร็ก ฮับเบิลในซีซันนี้แตกต่างจากสองซีซันที่แล้วเลย เธอดูโตขึ้น แสดงออกอารมณ์มากขึ้น มีความมั่นใจ ความภูมิใจ และความกล้าหาญเพิ่งมากขึ้น พร้อมๆกับความทระนงตนในฐานะของแม่มดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดในเวลาเดียวกันด้วย หลังจากผู้เขียนดูซีซันนี้จบ ผู้เขียนคิดว่ามิลแดร็ก ฮับเบิลคงเป็นเพื่อนในแบบที่จะทำให้เรารู้สึกปวดหัว เอือมระอาและคงรู้สึกสนุกที่ได้ใช้เวลาร่วมกันในเวลาเดียวกัน และเอาจริงๆ CG เสียง แสง สี องค์ประกอบ ฉาก อากาศ การบินบนแข่งกันบนไม้กวาด และการแสดงอย่างเป็นธรรมชาติของนักแสดงหลักในเรื่องทุกๆคน ทุกอย่างทำออกมาได้สมจริงและน่าประทับใจมากๆ จนผู้เขียนกลายเป็นแฟน The Worst Witch และแอบติ่งซีรีส์เรื่องนี้เลยค่ะ ความรู้สึกที่ได้ดู The Worst Witch ss 4 ในซีซันนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เริ่มเรื่องมาด้วยการปรุงยาผิด และกลับคืนใบหน้าเดิมไม่ได้ของมิลแดร็ก ฮับเบิล ซึ่งเกิดจากการถอนตัวของนักแสดงหลักน้องแรมซีย์ เบลลา เพราะเธอต้องการโฟกัสไปที่การรักษาสุขภาพจิตเป็นน้อง Lydia page แทน ที่บอกตรงๆว่าอารมณ์เหมือนดูหนังคนละเรื่องที่มีนักแสดงหลักคนละคนกันเลย แน่นอนว่า Lydia page เองก็ทำได้ดีเช่นกันในการมารับบทมิลแดร็ก ฮับเบิล แม่มดที่แย่ที่สุดในโรงเรียน แต่ผู้เขียนแอบคิดถึงการแสดงของแรมซีย์ เบลลา ในบทบาทของมิลแดร็ก ฮับเบิลมากกว่าหลังจากมองเห็นการแสดงของเธอมาสามซีซัน แต่ร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า แค่แอบรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่เนื้อหาของ The Worst Witch และการดำเนินเนื้อเรื่องถ่ายทำ ก็ยังคงสนุกเหมือนเดิม นักแสดงหลักและนักแสดงสมทบดูเต็มที่กับการแสดงมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากปรุงยา ฉากรับนักเรียนใหม่ที่มีเวทมนตร์ แต่ไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนที่เคยเป็นพ่อมดแม่มดหรือมีสายเลือดแม่มดมาก่อนข้ามาในโรงเรียน สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจมากที่สุดในเรื่องคือมิตรภาพของกลุ่มเพื่อนๆสามคน ซีบิล บี และแคลรีช ก็ทำออกมาได้ หรือมิตรภาพระหว่างเฮคคาที จอย ฮาร์ดบลูมและอินดิโก้ มูนก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน รู้สึกเหมือนมองเห็น ศจ.สเนปในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่มีมิติมากขึ้นดีในฐานะของพ่อมดแม่มดที่มีหัวใจของมนุษย์ คะแนนรีวิว 100/10 เพราะการได้เข้าไปในโรงเรียนโลกเวทมนตร์และใช้เวลาว่างไปเที่ยววันหยุดในทะเลสาบสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาหรือการขี่ไม้กวาดคงเป็นความฝันของใครหลายๆคนเลย จบไปแล้วนะคะกับ The Worst Witch 4 ซีซันที่ผู้เขียนนำมารีวิว หากใครดูจบแล้วชอบฉากไหนหรือซีซันไหนมากที่สุดก็คอมเมนท์กันเข้ามาได้เลยจ้า บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflix รีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ รีวิว Link : Eat Love Kill (2022) ซีรีส์แฟนตาซีที่ไว้ใจใครไม่ได้เลย 10 ซีรีส์/หนังโปรดของผู้เขียนที่สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix ปี 2022 รีวิว Hurt Like Hell เจ็บเจียนตาย (2022) ตีแผ่วงการมวยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย IG : _jennyrichardson / 2 โดย IG : bellaramsey รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 โดย IG : _jennyrichardson / 4 โดย IG : trixiehyde *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565