'ต้น ตระการ' แจงภาพเคียงข้าง 'กระติก' ลั่นไม่ได้เข้าข้าง ผิดจริงพร้อมพาส่งเข้าคุก

'ต้น ตระการ' แจงภาพเคียงข้าง 'กระติก' ลั่นไม่ได้เข้าข้าง ถ้าผิดจริงพร้อมพาส่งเข้าคุก แต่ถ้ายังไม่ผิด อย่าเพิ่งตัดสิน ไม่กังวลกับฟีดแบ็กหลังให้สัมภาษณ์ครั้งนี้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 มี.ค.65 ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ถนนกาญจนาภิเษก ซอย 25 แยก 1 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สถานที่จัดพิธีไว้อาลัย แตงโม นิดา เป็นวันที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี นักแสดงรุ่นพี่และสมาชิกร่วมคริสตจักรเดียวกับแตงโม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมแจงประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าทำไมมีภาพที่อยู่เคียงข้าง กระติก อิจศรินทน์ เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม ตั้งแต่ช่วงวันแรกที่เกิดเหตุ รวมถึงให้ความเห็นถึงกระแสสังคมที่พุ่งเป้าโจมตีกระติกอย่างรุนแรง วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสินหากกระบวนการยุติธรรมยังไม่เสร็จสิ้น ก่อนจะย้ำว่าหากกระติกทำผิดจริง ตนจะเป็นคนเดินพาไปส่งที่ตะรางด้วยตัวเอง

โดย ต้น ตระการ กล่าวว่า จริงๆ ต้องบอกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานจัดงานให้กับแตงโมด้วย เพราะทุกคนรักโมและอยากจะมาร่วมส่งโมงให้ถึงสวรรค์ รวมถึงอยากจะช่วยสานต่อความฝันของโมด้วยเพราะโมเป็นคนหนึ่งที่ทุ่มเทให้กับงานประกาศของพระเจ้า

ตนกับแตงโมถือว่าเป็นสมาชิกคริสตจักรเดียวกัน ก่อนน่าจะมีสถานการณ์โควิดเราจะมีการนัดแนะทุกสัปดาห์ แลกเปลี่ยนถึงประสบการณ์ต่างๆ รวมถึงพูดหนุนใจหากใครมีปัญหาอะไรก็จะมีการแบ่งปันกัน ฉะนั้นสำหรับตนแล้วแตงโมเป็นน้องคนหนึ่งที่ไม่ได้มีบทบาทของการเป็นดารา ไม่มีความเป็นนางเอกในตัวเอง รวมถึงกระติกด้วย

เมื่อถามถึงช่วงที่เกิดข่าวแรกๆ เห็นภาพที่อยู่เคียงข้างกระติก ดาราหนุ่มกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ ต้นก็ต้องดูแลสมาชิกในกลุ่ม แตงโมจากไปแล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าจะช่วยดูแลอย่างไร เหลือแต่กระติก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกของคริสตจักรของเรา กล้าพูดได้เต็มปากว่าเราอยู่เคียงข้างทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนบาป คนไม่ดี หรือดีเลิศประเสริฐแค่ไหน เราต้อนรับทุกคน

ถามว่าทุกวันนี้ได้พูดคุยกับกระติกบ้างไหม ต้น ตระการ เผยว่า ทุกเช้าจะมีการส่งข้อความให้กำลังใจกัน ซึ่งในกลุ่มของเราจะมีกลุ่มที่เรียกว่า “เฝ้าเดี่ยว” คืออ่านพระคัมภีร์ อธิษฐาน และทำอะไรส่วนตัวอยู่กับพระเจ้า ตนก็จะทำและส่งสิ่งเหล่านี้ให้กับกระติก ขณะนี้สภาวะจิตใจของกระติกค่อยๆ ดีขึ้น แต่ไม่สมบูรณ์หรอกเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียอย่างรุนแรงที่สุดในชีวิต ต้นรับรู้ถึงความรู้สึกของกระติกได้ว่าสูญเสียสิ่งที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตเขา เพราะทุกโมเมนต์ของกระติกมีแตงโมเป็นส่วนหนึ่งและเป็นส่วนใหญ่ของชีวิต ดังนั้นตนจึงรับรู้ได้ว่าวันนี้ตนแทบจะทิ้งเขาไม่ได้

สอบถามถึงสภาพจิตใจของกระติก หลังกระแสสังคมที่พุ่งเป้าโจมตีค่อนข้างเยอะ ดาราหนุ่มกล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับปฏิกิริยาของสังคมที่มุ่งเน้นไปในสิ่งที่ยังไม่ได้รับความจริงหรือข้อเท็จจริง ต้นเป็นคริสเตียนมักจะบอกเสมอว่าจริงก็คือจริง ใช่ก็คือใช่ ถ้าไม่ก็คือไม่ ที่เหลือจากนั้นเป็นมารความชั่วที่เกิดขึ้น ตนมีโอกาสได้พูดกับกระติกอยู่เสมอว่าถ้าทุกอย่างเป็นความจริงที่กระติกเห็นก็ขอให้พูดไปตามนั้น แต่ถ้าอันไหนที่ไม่เห็นก็ให้พูดว่าไม่เห็น มันไม่ใช่ความผิดใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอยากจะฝากสังคมว่าสิ่งที่เรายังไม่เห็นขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างกระจ่าง แล้วตอนนั้นค่อยมาต่อว่า

“ผมไม่ได้เข้าข้างแต่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง ถ้าเขาทำผิดผมจะเป็นคนเดินพาไปส่งเขาถึงตะรางถึงโรงพักเลย แต่ถ้าเขายังไม่ผิด อย่าเพิ่งตัดสินเขา ซึ่งไม่ใช่กรณีนี้กรณีแรก หลายกรณีที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราหดหู่ใจว่าคนในสังคมคิดอะไรกันอยู่ มีหลายคนที่ต้องตายทั้งเป็นเพียงแค่คุณพิมพ์อะไรลงไปเท่านั้น ผมอาจจะไม่ได้เห็นทุกขณะว่ากระติกมีความรู้สึกอย่างไร แต่พอจะบอกได้ว่านกระติกก็ไม่แตกต่างจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียใจ เศร้า สูญเสีย อย่างเรื่องการร้องไห้ของเขาต้องบอกว่ากระติกเป็นคนที่แกร่งและผ่านเรื่องราวมรสุมในชีวิตมาเยอะ เพราะฉะนั้นเขารู้ว่าสิ่งที่เขาจะร้องไห้หรือแสดงความอ่อนแอจะแสดงกับใคร ฉะนั้นอย่าไปบอกว่าทำไมอยู่ต่อหน้าแม่ ขอขมาไม่รู้จักร้องไห้ ทำไมไม่รู้จักคำว่าขอโทษ ทำไมไม่รู้จักสัมมาคารวะ ตรงนี้ต้องแยกประเด็นกันไม่ออก นั่นเป็นเรื่องมารยาททางสังคมที่หลายคนคิดว่าการกระทำแบบนั้นจำเป็นต้องอย่างนั้น แต่ทุกคนกำลังลืมไปว่าหากเป็นตัวของคุณเองจะทำยังไง” ดาราหนุ่มกล่าว

ต่อข้อถามว่ากังวลกับฟีดแบ็กที่จะได้รับหลังจากให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ไหม ต้น ตระการ กล่าวว่า ไม่กังวล อย่างที่บอกว่าตนไม่ได้เลือกข้างใคร ตนรักแตงโมงไม่น้อยไปกว่ารักกระติก คนบนเรือมี 3 คนที่ตนรู้จัก อีก 3 คนตนไม่รู้จัก ฉะนั้นตนไม่เข้าข้าง ไม่ตัดสิน หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อน แล้ววันนั้นถึงค่อยมาบอกว่าใครเป็นคนผิด ใครเป็นคนประมาท ควรจะตำหนิหรือใครที่ควรจะถูกต่อว่าจากสังคม

ในทางของศาสนาคริสต์เชื่อว่าตอนนี้แตงโมสู่อ้อมกอดของพระเจ้าแล้วหรือยัง “วันนี้ใจผมอยากให้เลิกพูดถึงเรื่องราวของการค้นหาความจริง เพราะวันนี้โมขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับพระเจ้าแน่นอน ส่วนเรื่องการลงโทษไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์ พระเจ้าเคยตรัสว่าถ้าคุณจะลงโทษใครสักคนหนึ่งต้องไม่เคยทำบาป ถ้าคุณไม่เคยทำผิดบาปใดใดคุณลงโทษเขาได้เลย แต่ถ้าคุณยังเป็นคนที่เคยทำบาปก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกฎหมายเป็นผู้กระทำโดยพระเจ้าจะเป็นคนลงโทษบุคคลเหล่านั้นเอง” ดาราหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย