ทำความรู้จัก ”ศิตา“ นางร้ายป้ายแดง 7 สี กับชีวิตสีชมพู ที่ถูกหล่อหลอมโดย “คู่รักหญิงหญิง”
ทำความรู้จัก ”ศิตา“ นางร้ายป้ายแดง 7 สี กับชีวิตสีชมพู ที่ถูกหล่อหลอมโดย “คู่รักหญิงหญิง”
กำลังมาแรงเลยเดียว สำหรับ “ฟองฟ้า“ จาก ขวัญหล้า ที่ดีกรีความร้ายกำลังทะยาน จนชาวบ้านออกปากว่าจะร้ายไปถึงไหน สำหรับนางร้ายหน้าใหม่ ป้ายแดงของวิก 7สี อย่าง “ศิตา ชู” หรือ “ศิตา ชู ชุติภาวรกานต์” เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของแบรนด์ BCHU RUNWAY แล้ว ฝีไม้ลายมือการแสดงก็ไม่เป็นสองรองใคร เริ่มจากการแสดงจากละเวที สู่จอทีวี รวมไปถึงไลฟ์สไตล์สุดชิคที่ลัคชูสมชื่อ
โดย “ศิตา” ยังเล่าถึงเส้นทางการใช้ชีวิต จากเด็กผู้หญิง ที่เติบโตมาท่ามกลางความรัก จาก “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” พร้อมกับแฟนของแม่ ที่เป็น “ผู้หญิง” เจ้าตัวเล่าไปยิ้มไปว่าโดนหล่อหลอมด้วยความรักที่อัดแน่นชนิดที่ว่า เพิ่งมารู้ว่าความรักของ “คู่รัก” ไม่ได้มีแค่ “หญิงกับหญิง” เท่านั้น
“ศิตาเริ่มจากเดินแบบ ถ่ายแบบก่อน ซึ่งก็เป็นหนึ่งเส้นทางในการทำงานในอาชีพนี้ แต่สิ่งที่จริงจังก็คือการแสดงละครเวทีเรื่อง “หยุดภพ” เป็นเรื่องแรก หลังจากนั้นก็เข้ามาแคสละคร กับทางช่อง 3 ศิตาคิดว่าเสน่ห์ของวงการนี้คือการที่เรามาสวมบทเป็นใครก็ตาม ตามคาแรคเตอร์ที่เราได้รับมานั้น ได้ลองสุข ได้ลองทุกข์ ได้ลองเป็นใคร ซึ่งในชีวิตจริงเราอาจจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อนเลยก็ว่าได้ พอเราได้ลองเป็นคนๆ นั้น ในโลกของเขา ศิตาคิดว่ามันได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทาย ซึ่งเราคิดว่านี่เป็นเสน่ห์ของวงการนี้
ส่วนความคาดหวังในเส้นทางนี้ หลายคนที่ได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ เขาก็คาดหวังว่าจะได้เห็นตัวเองกระโจนเข้าไปในบทบาทบทนึง และเราได้เห็นว่าเราสำเร็จในบทบาทอันนั้น แล้วได้รับคำชม ได้รับโอกาสที่ได้เล่น ซึ่งคนดูได้เห็นว่าเราเหมาะสมกับโอกาสนี้ อีกอย่างเราคาดหวังว่า เราจะได้อยู่ในโอกาสที่จัดวางให้เราได้ถูกจังหวะกับบทบาทนั้นๆ เพราะว่าเราทำงาน เราก็อยากจะประสบความสำเร็จในเส้นทางของอาชีพที่เราทำอยู่
และกับบทบาทละครเรื่องล่าสุด ขวัญหล้า เป็นความยากมากๆ เป็นบทร้ายเรื่องแรก ซึ่งศิตาเอง ในชีวิตจริง เราไม่คิดร้ายกับใครเลย แต่เป็นคนที่มักจะเข้าใจคน เข้าใจมนุษย์ ซึ่งเราเกิดมาเป็นลูกคนเดียว ที่บ้านเราหญิงล้วน คุณแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่บ้านเป็นคู่รักหญิงหญิง เลี้ยงมาเหมือนมาตาลดาเลย แต่มาตาลดาเขาเป็นผู้ชายผู้ชาย แต่บ้านศิตาเป็นคู่รักผู้หญิงผู้หญิง คุณแม่มีแฟนเป็นผู้หญิง คุณป้าคุณอาก็มีแฟนเป็นผู้หญิง ช่วยกันเลี้ยงศิตามา ผู้หญิง 2 คู่เลี้ยงเด็กผู้หญิงคนนึงมาตั้งแต่เบบี้เลย ซึ่งศิตาอยู่ในโลกใสๆ เขาพยายามสอนให้เรามองโลกในแง่ดี ทุกอย่างมันสีชมพูไปหมด ศิตายังไม่รู้เลยว่าในสังคมมีเพศอะไรอีก มารู้ตอนอายุ 15-16 คือรู้ช้ามาก มันเลยทำให้เราไม่เคยมองใครในแง่ร้ายเลย กลับมาบ้านแบบทุกคนรุมเลี้ยงเรา รุมให้ความรักเรา แต่พอเรามารับบทเป็นนางร้าย ต้องการความรักจากผู้ชายคนนึงมากๆ มีผู้ชายคนนี้แค่คนเดียว พอเราได้มารับบทนี้ เราก็รู้สึกว่ามันจะมีใครที่มีชีวิตแบบนี้ รักคนๆ นึงแบบยอมตายได้ แต่เราก็ต้องคิดว่าเราเป็นคนๆ นั้นตามบทบาท ไม่ใช่คิดเอาตัวเองเข้ามาในคาแรคเตอร์ มันคือความยากตรงนี้ มันไม่สามารถเอาความเป็นตัวเองลงไปในคาแรคเตอร์นี้ได้เลย เพราะเราไม่เคยต้องเจอเหตุการณ์เหมือนที่ตัวละครต้องเจอ ชีวิตส่วนตัวไม่มีอะไรคล้ายคาแรคเตอร์เลย
ตอนนี้ก็มีธุรกิจส่วนตัว พอกระแสดี เราก็เริ่มทำร้านอาหารต่อ และช่วยธุรกิจที่บ้านด้วย ส่วนเรื่องเล่นดนตรีไทย เพราะที่บ้านอยากให้เราเรียบร้อย (ยิ้ม) แต่พอไปอยู่เมืองนอก เราก็อยากออกนอกกรอบ จนกลับมาเมืองไทย แม่ก็พูดว่าฉันเลี้ยงเธอแบบลูกปลาวาฬ เพราะลูกปลาวาฬฉันกัดฟันมาก คือปล่อยลงไปในทะเล ว่ายๆ ไปไกล สักวันนึงลูกมันจะว่ายกลับมาเอง มันจะเก่งขึ้นมาเอง แต่พอเธอกลับมา เธอกลับมาเป็นปลาฉลาม ฉันรู้สึกปล่อยผิดตัวไปเลย (ยิ้ม) เราไม่ได้ทำตัวเป็นเลดี้ อะไรแบบเป็นเลดี้แล้ว แต่กลับทำอะไรที่เอ็กซ์ตรีมเกินไป ในส่วนของยูทูปก็เพิ่งเริ่มทำ เพราะเราอยากให้ทุกคนรู้จักไลฟ์สไตล์ของเรา เราอยากแชร์ในเรื่องที่เราได้เจอมา ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์”