รีเซต

เอมิลี่ บลันต์ เผย "Edge of Tomorrow 2" ต้องทะเยอทะยานมากขึ้น และยังรอเล่นภาค 2 อยู่

เอมิลี่ บลันต์ เผย "Edge of Tomorrow 2" ต้องทะเยอทะยานมากขึ้น และยังรอเล่นภาค 2 อยู่
แบไต๋
20 มิถุนายน 2566 ( 15:30 )
305

เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) นักแสดงสาววัย 40 ปี ที่หลายคนจำฝีมือการแสดงของเธอได้จาก ‘A Quiet Place’ ทั้ง 2 ภาค และเจิดจรัสมากกับภาพนตร์ไซไฟฟอร์มดีอย่าง ‘Edge of Tomorrow’ (2014) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Deadline เกี่ยวกับการสร้าง ‘Edge of Tomorrow 2’ ที่ทิ้งห่างจากภาคแรกมากว่า 10 ปี แล้ว

เธอได้ให้ความสำคัญการประเด็นที่ว่า จำเป็นต้องมีการสร้างสิ่งใหม่ที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นเป็นสำคัญ

“ฉันยินดีที่จะเล่นอีกสักภาคนะ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไรและจะสร้างออกมาแบบไหน แต่ฉันก็ยังเฝ้ารออยู่ แม้จะไม่แน่ใจว่าร่างกายของฉันจะรับไหวไหมเมื่อถึงเวลานั้น เพราะฉันต้องใช้เวลาทั้งหมดในการถ่ายทำฉากต่อสู้ไปกับการคาดหวังว่าชุดสูทที่สวมนั้นจะมีน้ำหนักเบาลงกว่านี้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย

ฉันรักประสบการณ์ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้มาก และชื่นชอบที่ได้ร่วมงานกับดั๊ก (หมายถึง ดั๊ก ไลแมน ผู้กำกับภาพยนตร์) มันเหมือนกับว่าเราต้องสร้างสิ่งที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นก่อน ดูว่าเราจะไปไกลจากเรื่องราวที่วนลูปแบบเดิมได้ขนาดไหน และมีโครงสร้างภาพยนตร์ที่ใหม่มากขึ้นอย่างไรบ้าง”

‘Edge of Tomorrow’ เป็นภาพนตร์ไซไฟที่สร้างกระแสความนิยมและฐานผู้ชมได้อย่างเหลือเชื่อด้วยความสดใหม่และการเดินเรื่องที่เร้าใจระดับบล็อกบัสเตอร์ โดยฝีมือกำกับของไลแมนจาก ‘The Bourne Identity’ (2002) แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะทำรายได้ทั่วโลกเพียง 370 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญ ก็ตาม

ทั้งนี้ได้มีการประกาศสร้าง ‘Edge of Tomorow 2’ มาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็เงียบหายไป โดยมีการเปิดเผยว่าครูซมีไอเดียมากมายมาใส่ในภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีความคืบหน้าในขั้นตอนการเขียนบท จนกระทั่งโปรเจ็กต์นี้ได้เงียบหายไป

ต่อมา ไลแมนได้เซ็นสัญญาเป็นผู้กำกับ ‘Edge of Tomorrow 2’ ในปี 2016 และได้มีการประกาศต่อมาในปี 2019 ว่า บทภาพยนตร์ได้เขียนเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเขากล่าวว่าเป็นเหมือนกับ “A Sequel that’s a Prequel” (ภาคต่อที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดก่อนหน้าภาคแรก) ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างไปถึงแนวคิดของการเดินทางท่องกาลเวลาที่ล้ำไปกว่าภาคแรก

นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับการพัฒนา ‘Edge of Tomorrow’ ในเวอร์ชันซีรีส์ แต่บริษัท Village Roadshow ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ ได้มีคดีฟ้องรองกับต้นสังกัดอย่าง Warner Bros. Pictures ซึ่งอาจส่งผลทำให้โปรเจ็กต์ซีรีส์นี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อไปในอนาคต

ที่มา : ScreenRant