รีเซต

รีวิวหนัง "Transformers One" ถ้าทำได้ถึงมาตรฐานนี้มาตั้งแต่แรก ก็เรียกว่าเทพไปแล้ว

รีวิวหนัง "Transformers One" ถ้าทำได้ถึงมาตรฐานนี้มาตั้งแต่แรก ก็เรียกว่าเทพไปแล้ว
Jeaneration
17 กันยายน 2567 ( 18:00 )
199

ก็ไม่ต่างกับการยื้อลมหายใจให้กับแฟรนไชส์หนังหุ่นยนต์ต่อสู้จากจักรวาลฮาสโบร ที่เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับบรรดาหนังแอคชันสไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมที่เปิดฉากมาตั้งแต่ปี 2007 สร้างต่อเนื่องออกมาก็หลายภาค จนกว่านิยมก็ค่อย ๆ ลดทอนลงไปตามกาลเวลา และบัดนี้ก็ถึงแก่เวลาที่จะมาสปาร์กเครื่องกันใหม่ ที่ไม่ต่างกับการยกเครื่องใหม่ รีบูตเครื่องใหม่ กลายมาเป็น "Transformers One" หนังทรานส์ฟอร์เมอร์สฉบับแอนิเมชันอย่างเต็มตัว ที่มาพร้อมกับการเล่าย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของตำนาน

Transformers One เป็นเรื่องราวต้นกำเนิดของ อ็อพติมัส ไพรม์ และ เมกะทรอน ที่ยังไม่เคยเปิดเผยมาที่ไหนก่่อน ทั้งคู่เป็นที่รู้จักกันดีในนามศัตรูคู่อาฆาตของกันและกัน แต่หากย้อนไปในวันวานพวกเขาเคยเป็นเพื่อนที่ผูกพันกันมาเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา และนี่คือเรื่องราวจุดกำเนิดที่สำคัญที่มาทำการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมแห่งไซเบอร์ทรอนไปตลอดกาล

"ไมเคิล เบย์" ขึ้นชื่อหราอยู่ในหนังเรื่องนี้ แต่อย่าเพิ่งประหลาดใจไป เพราะลุงไมเคิลไม่ได้กลับมารับหน้าที่สร้างหนังการ์ตูนเรื่องใด ๆ เพียงแต่เขามาเป็นเพียงหนึ่งทีมอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ให้เฉย ๆ ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ก็คือ "จอช คูลีย์" นักแอนิเมเตอร์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมายาวนาน แจ้งเกิดมาจากหนัง Toy Story 4 นั่นเอง และหนังเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นโปรเจกต์หนังใหญ่เรื่องที่ 2 ของเขาอย่างเป็นทางการ ที่นับว่าเป็นหนังคนละม้วนกับงานสร้างที่ผ่าน ๆ มาภายใต้ชายคาดิสนีย์เลยทีเดียว แต่ทว่า..เขาทำได้ถึง

ขอสารภาพกับคุณผู้อ่านตรง ๆ เลยว่า Transformers One เป็นหนังที่แทบจะไม่สร้างแรงดึงดูดใจให้ผู้เขียนอยากจะไปดูเลย ไม่ว่าหนังจะปล่อยทีเซอร์ปล่อยภาพโปรโมตออกมาเยอะแยะ อาจจะด้วยเหตุผลส่วนที่เคยเทหนังชุด Transformers ไปแล้วตั้งแต่ทศวรรษที่แล้ว ด้วยการหยุดบริโภคตั้งแต่ภาคที่ 2 เป็นต้นมา ทำให้เสน่ห์และความเย้ายั่วต่าง ๆ ที่มีในเนื้อหาของหนังเรื่องนี้แทบจะหมดเกลี้ยง และกลายเป็นว่าหนังแอนิเมชันเรื่องนี้มาจุดประกายไฟและเติมเชื้อศรัทธาให้กับแฟรนไชส์หนัง Transformers ให้กับผู้เขียนได้อีกครั้ง

ต้องปรบมือให้ดัง ๆ กับงานสร้างและวิสัยทัศน์ของ จอช คูลีย์ และทีมงานนักแอนิเมเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังงานสร้างหนังเรื่องนี้ เพราะงานโปรดักชันเรื่องนี้เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายจริง ๆ พลิกโฉมเป็นคนละเรื่องกับฉบับไลฟ์แอคชัน แต่งเติมจักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์สให้มีสีสันและจินตนาการแบบไร้ขอบเขตมากยิ่งขึ้น เป็นงานสร้างที่มอบความตื่นตาตื่นใจในลักษณ์อารมณ์แบบเดียวกับเมื่อครั้งได้ดู Spider-Man: Into the Spider-Verse เป็นครั้งแรกอะไรทำนองนั้น

การดีไซน์ฉากและแวดล้อมต่าง ๆ ของหนังทำออกมาได้ตระการตา โดยเฉพาะงานออกแบบฉากบู๊ในท่วงท่าต่อสู้ต่าง ๆ ให้ฟีลแบบในคอมมิกที่เสริมอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง แล้วต้องเรียนบอกตรง ๆ เลยว่าขนลุกทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสเห็นฉากการแปลงร่าง (Transform) ของตัวละครต่าง ๆ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟนเดนตายของจักรวาลนี้ต้องห้ามพลาด เป็นอีกหนึ่งซีนที่เวอร์ชันไลฟ์แอคชันก็ยังทำไม่ได้เท่านี้

อีกองค์ประกอบที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็คือบทหนังของ "อีริก เพียร์สัน" (จาก Thor: Raknarok และ Godzilla vs. Kong) ที่กลายเจ้าพ่อมือผลิตบทหนังฮีโรประจำยุคนี้จริง ๆ เขาสามารถปรุงแต่งและปั้นเรื่องราวตำนานภาคต้นออกมาได้อย่างมีรากฐานที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าทิศทางการเล่าเรื่องในช่วงแรก ๆ จะค่อนข้างชวนหาวไปบ้าง แต่พอเข้าสู่ลำคลองท้องเรื่องได้แล้ว ก็จุดไฟสปาร์กได้ต่อเนื่องแบบโชติช่วงที่เป็นบทหนังและการเล่าเรื่องที่ไปได้สุดทางจริง ๆ

และไฮไลต์ที่เป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มและเป็นแรงขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ได้อย่างทรงคุณค่า ก็ต้องให้เครดิตกับทีมนักแสดงซุปตาร์ที่มาให้เสียงพากย์ในแอนิเมชันเรื่องนี้ บอกได้เลยว่าเป็นทีมพากย์ระดับคุณภาพยกชุดจริง ๆ "คริส เฮมสเวิร์ธ" ที่มาแค่เสียง แต่น้ำเสียงของเขาเหมาะเจาะกับตัวละครนำเป็นอย่างดี โทนเสียงสไตล์ฮีโร่เป็นแน่แท้ เป็นอะไรที่เข้ากับบุคลิกและอัตลักษณ์ของคาแรกเตอร์นี้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับ "ไบรอัน ไทรี เฮนรี" ถือว่าเซอร์ไพรส์เบา ๆ ที่น้ำเสียงของเขาจะสามารถไล่ลำดับและสร้างมิติให้กับบทบาทนี้ได้อย่างมีกึ๋นระดับคุณภาพเต็มเปี่ยมเพียงดี แล้วยังสมทบด้วยเสียงของ "สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน", "คีแกน-ไมเคิล คีย์" และ "จอน แฮมม์" ที่ทำให้เราสัมผัสได้ว่านักแสดงมืออาชีพเขาสามารถคอนโทรลให้อยู่ในบทบาทได้เจ๋งแค่ไหน แม้ว่าจะโผล่ออกมาเสียงให้คนดูได้ยินเท่านั้นเอง

บัดนี้ Transformers One ได้กลายเป็นหนึ่งในหนังเรื่องโปรดของผู้เขียนประจำปีนี้ไปอีกเรื่องแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจากหนังที่ไม่ได้ใส่ใจที่อยากจะดูเลยด้วยซ้ำ กลับให้ผลลัพธ์แบบเหนือความคาดหมาย เป็นคอนเทนท์ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่ชวนประทับใจในทุก ๆ โมเมนต์ ตั้งแต่ฉากเปิดไปจนถึงเอนท์เครดิตนาทีสุดท้ายของเรื่อง แอบคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าถ้าหากหนัง Transformers เริ่มด้วยแอนิเมชันเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก ด้วยงานสร้างระดับมาตรฐานนี้ เชื่อเหลือเกินว่ามันจะต้องรุ่งเรืองได้ยิ่งกว่านี้ และบัดนี้ พาราเมาท์ กับ ฮาสโบร ก็ดูเหมือนจะค้นพบอีกเส้นเรื่องในจักรวาลนี้ของพวกเขาเข้าให้แล้ว

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Transformers One

  • ประเภท: แอนิเมชัน / แอคชัน / ไซไฟ / ผจญภัย
  • ผู้กำกับ: จอช คูลีย์
  • ให้เสียงพากย์โดย: คริส เฮมสเวิร์ธ, ไบรอัน ไทรี เฮนรี, สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน
  • ความยาว: 104 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 26 กันยายน 2024 (ในโรงภาพยนตร์) [เปิดฉายรอบพิเศษวันที่ 20-22 กันยายนนี้]

Movie.TrueID METRIC: Transformers One

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.0/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10)
  • การพากย์เสียง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.3/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.6/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.6/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa