ไม่จบ! เปิดปากทนาย 2 ฝั่ง “ไมค์-ซาร่า” กับดราม่าแตกหัก
ไม่จบ! เปิดปากทนาย 2 ฝั่ง “ไมค์-ซาร่า” กับดราม่าแตกหัก
เป็นประเด็นกันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ หลังจากที่ดราม่า “ไมค์-ซาร่า” ลากยาวมานานร่วมเดือน จนในที่สุดฝ่ายพ่อได้ตัดสินใจจบทุกอย่างด้วยการถอนคำร้องในการรับรองบุตร ดูเหมือนจะจบแต่ไม่จบ “ดาราเดลี่” เลยไม่รอช้า ต่อสายถึงทนายของทั้งสองฝั่งเพื่อสืบหาจุดจบของเรื่องนี้
อ่านเพิ่มเติม : “ไมค์ พิรัชต์” ส่ง “ทนาย” ยื่นขอถอนคำร้องสิทธิ์ปกครองบุตร
โดยทนาย “เจมส์ นิติธร แก้วโต” ทนายความของ “ไมค์” เผยว่าจุดเริ่มต้นที่ “ไมค์” ยื่นคำร้องขอรับรองบุตรและผู้ปกครองร่วม ลำดับเหตุการณ์คือไมค์อยากให้บุตรของเขาเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย จุดประสงค์ที่ยื่นคำร้องก็แค่นั้นเอง เพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ตกแก่ลูก
เขาเผยอีกว่าที่ “ไมค์” ยื่นคำร้องคือเขาอยากมีอำนาจตัดสินใจชีวิตของเด็ก เขาอยากมีส่วนในการตัดสินใจตัวลูกบ้าง เช่นจะให้ไปเรียนที่ไหน อยู่ที่ไหน ไม่ใช่เป็นพ่อที่จ่ายเงินอย่างเดียว ลำดับเหตุการณ์นี้คือไมค์ได้ยื่นคำร้องนานแล้ว เรื่องเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2563 มีการลดเงินเดือนคนขับรถก่อน เพราะไมค์ได้รับผลประทบจากโควิด เนื่องจากรายได้ของเขาอยู่ที่จีน 100 เปอร์เซนต์ ไมค์อยากลดค่าใช้จ่ายเขาเสนอให้ซาร่าย้ายคอนโดที่ใกล้ๆ โรงเรียนเลิศหล้า คือมีคอนโดให้เลือก 4 ที่ แต่ “ซาร่า” เลือกที่จะพูดเรื่องคอนโดที่ราคาถูกไปออกรายการ ก็ว่าไมค์ไปลดคุณภาพชีวิตของเขา ก็มีการขอเจรจา แต่ซาร่าบ่ายเบี่ยงเลี่ยงไปเลี่ยงมาจนทะเลาะกัน จนเข้าเดือนพฤษภาคมไมค์เลยตัดสินใจปรึกษาทนายความ
วันที่ 19 มิถุนายน 2563 ไมค์ขอยื่นคำร้องรับรองบุตร เพราะรู้สึกว่าถูกกีดกันลูก
วันที่ 14 กันยายน 2563 เป็นวันไต่สวนนัดแรก “ซาร่า” ไม่มาแต่ส่งทนายคัดค้าน จากตรงนั้นจึงมีข้อเสนอ 6ข้อจากซาร่า วันนั้นซาร่าก็โพสต์ในไอจีว่าไมค์จะพรากลูก ทัวร์มาลงทั้งไมค์และทนายเจมส์ เพราะตอนนั้นทุกคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าไมค์จ่ายค่าใช้จ่ายของลูกมาตลอด จนวันนั้นมีข้อมูลหลุดไปที่สื่อว่าค่าใช้จ่ายของลูก ที่ไมค์จ่ายต่อปี ปีละ 2 ล้าน ค่าเทอม 8 แสน สังคมเริ่มรู้ว่า 6 ปีที่ผ่านมา ไมค์จ่ายฝ่ายเดียว
วันที่ 16 กันยายน 2563 ซาร่าไปออกรายการโหนกระแส
วันที่ 17 กันยายน 2563 ไมค์ไปออกรายการโหนกระแส และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต
“ทนายเจมส์” ยังเล่าต่ออีกว่า ทนายของทางฝั่งซาร่าไม่เคยติดต่อมาเลย ส่วนเรื่องที่คิดว่าทนายเจมส์ทำเพื่อความสะใจ “ถามว่าผมทำไร ไม่มีอะไรเพื่อสะใจ หนึ่งเหตุที่ผมขอถอนคำร้องเพราะไมค์ตัดสินใจแล้ว เขาดูต้นเหตุที่วุ่นวาย ต้นเหตุที่วุ่นวายทั้งหมดมาจากคำร้องก็ถอนคัดค้าน สองไมค์ตัดสินใจเอาเงินใส่บัญชีเพราะซาร่าอ้างว่าดูแลลูกได้ บ้านมีฐานะ ไม่จ่ายเงินก็ไม่กระทบ ต้นเหตุที่คำร้องนี้เกิดคือคำร้องฉบับนี้ ก็เลยอยากถอน ซึ่งหลังจากนั้นไมค์ไม่เคยเจอลูกนะ ไมค์ไม่ต้องทำไรปล่อยให้ฝั่งนั้นเขาวิ่งตามผม แต่ตอนนี้ ถ้าเงินไม่สำคัญก็อย่าวิ่งตามผม”
ทางด้าน “ทนายประมาณ เลืองวัฒนวณิช” ทนายความของ “ซาร่า” เผยแก่ดาราเดลี่ว่าซาร่าได้มาปรึกษาข้อกฎหมาย หลังจากออกรายการโหนกระแส ซึ่งตนและซาร่าไม่ได้รู้จักผมมาก่อน มาเล่าข้อเท็จจริงให้ผมฟัง เหตุที่ไมค์ขอถอนคำร้อง ผมอยากเป็นบิดาโดยชอบชองบุตร ก็ไม่เอาแล้ว ไม่มีหน้าที่เลี้ยงลูก ตอนที่ซาร่ามาปรึกษา ก็เท่ากับเขาไม่เอาแล้ว ไม่รับหน้าที่ดูแลลูกตามกฎหมาย ตอนนี้เขาอยากถอนคำร้องคืออยากกลับไปสภาพเดิม แต่มันกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เพราะครอบครัวไม่ได้อบอุ่นเหมือนเดิม กลายเป็นเรื่องแตกร้าวไปหมดแล้ว
ถามว่าแล้วมันจะจบเรื่องไหม แตกร้าวนะ ความจริงที่สังคมเข้าใจตอนนี้กำลังรุมประณามซาร่า0oเขาไม่ที่จะยืน ถึงถอนคำร้องไปแล้วก็ไม่กลับสภาพเดิม ผมอาจจะคัดค้านหรือไม่ การที่เด็กจะมีพ่อที่ชอบโดยกฎหมายเป็นผลดีกับเด็ก
“ทนายประมาณ” เล่าต่อว่า “การไลฟ์สดกับซ่าร่าวันก่อนก็ทำ ทัวร์ลงผม ลงก็ลง คนที่มาว่าผมก็คือไม่เข้าใจ ไปตามอารมณ์ เข้าข้างไมค์ ไม่ว่าอะไร ลงก็ลงผม คือไมค์จะเอาเงินเข้าบัญชี 20 ปี แล้วตอนลูกอายุ 6-20 ปี คุณจะไม่ส่งเสียเลี้ยงดูเลยเหรอ พอลูกโตแล้วถ้าลูกถามว่าจะมาให้ผมทำไมในวันที่ผมบรรลุนิติภาวะ หาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ไมค์จะตอบลูกว่ายังไง ตอนนี้เด็กไม่รู้เรื่องอะไร ตัวผมไม่ได้เป็นศิลปิน ผมเป็นคนว่าความเราเน้นเรื่องความยุติธรรม ที่ต้องขึ้นศาลก็ยังต้องเจอกันอยู่ จะให้ไมค์เป็นบิดาตามกฎหมาย ให้ช่วยค่าใช้จ่ายคนละครึ่งเพราะไมค์มาถอนคำร้องแบบนี้ไม่ถูก สำหรับทนายเจมส์ ฝั่งไมค์ก็ยังไม่ได้โทรหาเพราะดันมีเรื่องถอนคำร้องก่อนผมเลยไม่มีอารมณ์โทรไป มีคนว่าผมเข้ามาจะทำให้เรื่องไม่จบ ไม่ใช่ไม่จบ เพราะผมนี่แหละที่จะทำเรื่องให้มันจบ เพราะผมทำงาน ชอบทำให้เรื่องกระชับ ให้ได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายกับเด็ก ส่วนทางแม่ก็ให้แม่มีที่ยืน ให้ได้ทำมาหากินเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก