[รีวิวหนัง] "Ride On ควบสู้ฟัด" แอ็กชันคือน้ำจิ้ม ของจริงคือจิตวิญญาณสตันท์แมน
‘Ride On – ควบสู้ฟัด’ ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ เฉินหลงหรือแจ็กกี ชาน (Jackie Chan) กลับมาส่งมอบความมันส์ คิวบู๊สวยงามสมจริง เล่นจริง เจ็บจริง ให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกอีกครั้ง คราวนี้เป็นการกลับมาพร้อมคู่หูใหม่อย่างเจ้าม้าหนุ่มคู่ใจ ซึ่งหลังเข้าฉายในประเทศจีนก็กวาดรายได้ไปถล่มทลาย ทุบสถิติทำรายได้สูงสุดในจีนไปแบบสมศักดิ์ศรี
ภาพยนตร์ ‘Ride On’ เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ แลร์รี่ หยาง (Larry Yang) ที่มีผลงานเด่นในอดีตอย่าง ‘Adoring’, ‘My Other Home’ และ ‘Mountain Cry’ ได้หลิวฮ่าวชุน (Liu Haocun) มารับบทเสียวเป่า ลูกสาวของเฉินหลง และกัวฉีหลิน (Guo Qilin) มารับบททนายมือใหม่ แฟนหนุ่มของเสียวเป่า ซึ่งทั้งสองก็เข้ามาช่วยสร้างสีสันและสร้างมิติให้กับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
‘Ride On ควบสู้ฟัด’ เล่าเรื่องราวของ เหล่าหลัวหรือปรมาจารย์หลัว (รับบทโดยแจ็กกี ชาน) อดีตสตันท์แมนในตำนานที่ปัจจุบันหาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ แถมยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะนอกจากจะโดนแก๊งนักเลงทวงหนี้อยู่เป็นประจำแล้ว เขากำลังจะโดนยึดม้าคู่ใจผู้เปรียบดั่งลูกรัก “เจ้ากระต่ายแดง” ไปประมูลขาย เรื่องราวใหญ่โตจนถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
งานนี้เหล่าหลัวจึงต้องหันไปพึ่งพา เสียวเป่า ลูกสาวที่ห่างเหินกันไปนานและแฟนหนุ่มของเธอที่เป็นทนายมือใหม่ถอดด้าม เพื่อมาสู้คดีและรักษาเจ้ากระต่ายแดงเอาไว้ แต่ท่ามกลางมรสุมก็ดูเหมือนจะมีโอกาสดี ๆ ซ่อนอยู่ เพราะเหล่าหลัวได้กลับมาสานสัมพันธ์กับลูกสาวที่ครั้งหนึ่งเคยห่างกันไป แถมดูเหมือนเขาจะกลับมารุ่งเรืองในเส้นทางสายสตันท์แมนอีกครั้งด้วย!?
นี่คือกลิ่นอายของ “หนังเฉินหลง” ที่คุ้นเคย เคล้าความดราม่าชวนน้ำตาซึม
เชื่อว่าสำหรับหลาย ๆ คนที่เติบโตมากับหนังเฉินหลง เวลาดูผลงานของเขาแต่ละเรื่องมักจะสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายบางอย่างที่มีความเฉพาะตัวอยู่ ‘Ride On ควบสู้ฟัด’ เองก็เช่นกัน เพราะนี่คือส่วนผสมของแอ็กชันสไตล์กังฟูที่สวยงาม แปลกตา และความฮาที่มาถูกจังหวะ แม้จะไม่ได้บู๊ระห่ำตลอดเรื่อง แต่ทุกฉากที่มีคิวบู๊ก็รู้ได้เลยว่างานคุณภาพและยังคงสร้างสรรค์รูปแบบการต่อสู้เชิงหมัดมวยออกมาได้สวยงามน่าประทับใจ
เรื่องราวในหนังสะท้อนถึงชีวิตและจิตวิญญาณของสตันท์แมนคนหนึ่งที่อยู่ในวงการมานาน จากการรับบทตัวประกอบไร้ตัวตน ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพ ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดในการทำงาน และหวนกลับคืนสู่สามัญอีกครั้งในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาช่วยในการถ่ายทำ จนดูเหมือนการ “เล่นจริง เจ็บจริง” กลายเป็นของเก่าไปแล้ว
ขณะเดียวกันชีวิตครอบครัวก็ไม่ได้สวยหรู เพราะการทุ่มเทให้กับงานก็ส่งผลกระทบตามมามากมาย จนทำให้ความสัมพันธ์กับคนข้างหลังถึงจุดแตกหัก แล้วเมื่อชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งคุณจะเลือกอะไร ระหว่างโอกาสที่จะพาไปสู่ความยิ่งใหญ่อย่างที่เคยคาดหวังไว้ หรือเลือกกลับมาหาครอบครัวที่รักที่สุดแต่ไม่เคยได้แสดงออกไปอย่างเหมาะสม
หนังมีจังหวะสนุก จังหวะฮา มาตัดบรรยากาศดราม่าเป็นช่วง ๆ แต่ซีนอารมณ์หนัก ๆ ก็มีเยอะ โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องที่บิลด์ได้สุดมาก ใครต่อมน้ำตาตื้น อ่อนไหวกับปมพ่อลูกหรือปมเกี่ยวกับสัตว์น่าจะมีน้ำตาซึมกันง่าย ๆ (น้องม้าน่ารักและแสดงเก่งมาก ทำเอาคนดูใจเหลวกันไปเลย)
เต็มไปด้วยการคารวะสตันท์แมน และ Easter Egg หนังเฉินหลงให้แฟน ๆ ได้มองหา
อีกหนึ่งความพิเศษของ ‘Ride On ควบสู้ฟัด’ ที่แฟนเฉินหลงและคนรักหนังจีนไม่ควรพลาดก็คือ หนังเรื่องนี้สร้างเพื่อคารวะผลงานในอดีตของเฉินหลง รวมถึงเพื่อนำเสนอและส่งต่อความสำคัญของอาชีพสตันท์แมนซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพสำคัญที่ขาดไม่ได้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
นอกจากนี้ภายในเรื่องยังเต็มไปด้วยกิมมิก ทั้งนักแสดงแอ็กชันสายกังฟูชื่อดังที่มาร่วมรับเชิญอย่างเช่น อู๋จิง (Wu Jing) ชิงหยู (Xing Yu) อันจื่อเจี๋ย (An Zhijié) หรือหยูหรงกวง (Yu Rongguang) และยังมี Easter Egg ที่เชื่อมโยงไปถึงผลงานของเฉินหลงอีกหลายเรื่อง ใครมีโอกาสไปดูในโรงภาพยนตร์ต้องไม่พลาด ลองหาดูว่ามีซีนไหนอ้างอิงถึงเรื่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็กชัน การแต่งตัว ของประกอบฉาก ขอบอกเลยว่ามีหลายฉากที่แฟน ๆ ต้องร้องอ๋อ ส่วนช่วงท้ายเรื่องไม่ต้องมองหากันให้ยาก เพราะมีการตัดฉากสตันท์สำคัญ ๆ และเป็นที่จดจำมาให้เราได้ดูกันตรง ๆ ไปเลย
นอกจากนี้ ‘Ride On’ ยังเป็นหนังที่ไม่มีตัวร้ายหรือฝ่ายอธรรมแบบโจ่งแจ้ง ในเรื่องนี้ตัวเอกของเราไม่ได้ไปสู้กับวายร้ายหรือคนชั่วที่ไหน แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมาย การต่อสู้กับจิตใจของตัวเองและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมากกว่า ถึงอย่างนั้นตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมง เรื่องราวก็พลิกแล้วพลิกอีกกว่าจะคลี่คลาย จนทำให้คนดูลุ้นตัวเกร็งเหมือนกันนะ
ปมเยอะ ประเด็นแยะ จนดูล้นไปหน่อย
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเรื่องราวของหนังค่อนข้างมีหลายประเด็นที่อยากจะเล่า ไม่ว่าจะเรื่องเบื้องหลังการทำงานและความทุ่มเทของสตันท์แมน ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับม้าคู่ใจ ปัญหาเรื่องการนำสัตว์จริงมาใช้ถ่ายหนัง ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เนื้อหาดูสะเปะสะปะ จับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่บ้าง แต่เคมีที่กลมกล่อมของนักแสดงก็ช่วยให้ภาพรวมออกมาดูดี และช่วยประคองให้เราอยากเอาใจช่วยพวกเขาและติดตามเรื่องราวไปจนจบ
สรุป
‘Ride On ควบสู้ฟัด’ เป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพของเฉินหลงหรือแจ็กกี ชาน ที่ดูแล้วชวนคิดถึงยุครุ่งเรืองของหนังแอ็กชันสายเล่นจริง เจ็บจริง รวมถึงฉากสตันท์สวย ๆ ที่เบื้องหลังคือความทุ่มเทและความเสี่ยงมหาศาลของคนเป็นสตันท์แมน แม้การเล่าเรื่องจะเยอะและล้นไปนิด แต่ข้อความที่ตัวหนังต้องการสื่อสารกับคนดูก็ส่งมาได้ตรงประเด็น ค่อนข้างทัชใจพอสมควร มีความอบอุ่นและซึ้งน้ำตาไหลไปพร้อมกัน สามารถดูเพลิน ๆ พร้อมได้ข้อคิดมาสะกิดใจ ที่สำคัญพากย์ไทยฮาแบบคุณภาพเพราะทีมพากย์พันธมิตรที่เราคุ้นเคย
‘Ride On ควบสู้ฟัด’ มีโปรแกรมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2023 เป็นต้นไป