แน่นอนว่าอินฟลูเอนเซอร์บางครั้งก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างสำหรับใครหลายคน พวกเขามักจะเป็นคนที่คอยชักจูงผู้ติดตามและผู้ไม่ได้ติดตามให้คล้อยตามไปกับพวกเขาด้วยคอนเท้นต์ประจำตัวของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละสาย แล้วคุณล่ะ ? คิดว่าอินฟลูเอนเซอร์แบบไหนที่จะสามารถครองตำแหน่งผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดไปได้รับชมรายการวาไรตี้ “The Influencer - อินฟลูเอนเซอร์” ได้ทาง Netflix (มีพากย์ไทย)https://youtu.be/5HFxfzknfAg?si=gLQ0SdSHCscWvRM4 รูปแบบรายการรายการวาไรตี้แนวแข่งขัน งัดทุกสกิล ทุกกลยุทธ์ที่อินฟลูเอนเซอร์เรียนรู้กันมาใช้ในการแข่งขัน โดยรายการจะเชิญอินฟลูเอนเซอร์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการร้องเพลง , ด้านการทำอาหาร , ด้านความสวยความงาม , ด้านการเต้น , ด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างศิลปิน หรือสตรีมเมอร์ต่าง ๆ กว่า 77 ชีวิต ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดค่ะ 77 คน มาอัดอยู่ในรายการเดียวกัน เพราะทางรายการพยายามรวบรวมอินฟลูเซอร์ที่มีฝีมือทั่วเกาหลีและมีชื่อเสียงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube , TikTok และ IGซึ่งแต่ละคนจะได้รับบางอย่างที่คล้ายกับปลอกคอ (ดูแล้วอึดอัดแทนผู้เข้าแข่งขันมาก) ซึ่งปลอกคอที่ว่าจะแสดงจำนวนผู้ติดตามจากแพลตฟอร์มหลักของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านเกมการแข่งขันจะมีทั้งหมด 5 เกม เดี๋ยวเราจะมาอธิบายไปทีละเกมว่าแต่ละอันมีความเกี่ยวข้องกับอินฟลูเอนเซอร์ยังไงบ้าง บอกเลยว่าบางคนที่ผู้ติดตามเยอะก็ไม่ได้หมายความจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มากความสามารถเท่าทีควร จะเห็นได้จากผลลัพธ์จากการแข่งเกมได้ชัดเจนเลย เกมแข่งขันภายในรายการทั้งหมด 5 เกม การถูกใจ และ การไม่ถูกใจแน่นอนว่าการกดถูกใจเป็นอะไรที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะใคร ๆ ก็อยากให้มีคนชอบ คนรัก และมีคนมาคอยกดถูกใจ ดังนั้นกติการเกมนี้ง่ายมาก ผู้เข้าแข่งขันจะมีจำนวนการกดถูกใจและไม่ถูกใจอย่างละ 15 อัน แต่ละอันจะมีคะแนนอย่างละ 1 คะแนน ใครได้คะแนนมากที่สุด 30 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบต่อไปใครที่คิดว่าโดนกดถูกใจแค่อย่างเดียวก็ผ่านแล้ว คุณอาจกำลังคิดผิด (รวมถึงเราด้วย) บางทีการโดนกดไม่ถูกใจก็ถือว่าเป็นการเรียกกระแสของอินฟลูเอนเซอร์ด้วยเหมือนกัน เพราะสิ่งที่เกมนี้กำลังปิดบังเราอยู่ก็คือ การกระตุ้นความสนใจให้มาที่ตัวเอง ยิ่งเราทำตัวน่าสนใจมากขนาดไหน คนก็มองเรามากขึ้น แต่ถ้าเรายิ่งทำตัวน่าทัวร์ลงล่ะ มันก็ยิ่งเพิ่มทวีความสนใจต่ออินฟลูเอนเซอร์ยิ่งขึ้นไปอีก กว่าผู้เข้าแข่งขันจะเข้าใจรูปแบบเกมก็มาเกือบนาทีสุดท้าย แต่ก็ยังมีอินฟลูเอนเซอร์บางคนที่มองว่าทำไมการกดไม่ถูกใจถึงเป็นการเพิ่มความสนใจกับตัวเอง ในเมื่ออินฟลูเอนเซอร์ทำตัวให้ทัวร์ลงจนเกิดกระแสด้านลบ ทำไมต้องให้ค่ากับคนเหล่านั้นด้วย ตอนแรกเราก็เห็นด้วยนะ แต่พอมาคิดอีกทีบางทียิ่งโดนทัวร์ลงมันก็ยิ่งจะโดนสนใจด้วยเหมือนกัน บางครั้งอินฟลูเอนเซอร์ที่โดนทัวร์ลงก็มีงานเข้ามาเหมือนเดิม แถมเยอะกว่าตอนที่ยังไม่โดนทัวร์ลงอีก เพราะผู้คนกำลังสนใจอินฟลูเอนเซอร์คนนี้อยู่ไงล่ะ การไลฟ์สดตรงตัวเลย คือการให้ผู้เข้าแข่งขันไลฟ์สดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยจะแบ่งเป็น 2 รอบ ผู้เข้าแข่งขันคนไหนที่สามารถรักษาจำนวนคนดูได้เยอะสุดเป็น 5 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบ ไม่ต้องเล่นรอบที่ 2 เพิ่ม และรอบแรกใครที่อยู่ 5 อันดับสุดท้าย จะตกรอบทันทีโดยไม่มีการเล่นรอบที่ 2 และรอบต่อไปก็ใช้กติกาเดิม 5 อันแรกเข้ารอบ 5 อันดับท้ายตกรอบส่วนตัวรู้สึกชอบเกมนี้มาก มันทำให้เราได้เห็นว่าบางทีผู้ติดตามก็เหมือนเป็นแรงกระเพื่อมหรือกำลังใจให้กับอินฟลูเอนเซอร์ด้วยเหมือนกัน ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนคือรู้เลยว่ากดดันกันมาก บางคนอยู่แต่ TikTok หรือทำแต่คลิปสั้นเป็นส่วนใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นงานหินเลย บางคนก็ไม่มีประสบการณ์เลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับสายสตรีมเมอร์แน่นอนว่าสบายมาก แต่พวกเขาจะทำยังไงให้รักษาระดับคนดูที่ตัวเองต้องการได้ล่ะ เราจะได้เห็นวิธีต่าง ๆ ของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ว่าจะการตั้งชื่อไลฟ์ให้น่าสนใจ ทำให้คนกดเข้ามาดู หรือจะเป็นการหยั่งเชิงคนดู ทำตัวให้น่าสงสัย อยากบอกความลับบางอย่าง เพื่อให้คนดูไลฟ์ต่อไปเรื่อย ๆ ใครมันสายอินฟลูเอนเซอร์ลองเอาวิธีพวกนี้ไปลองใช้ดูได้นะ การสร้างโพสต์ฟีดให้สะดุดตาไลฟ์สดผ่านไปแล้ว ต่อมาก็เป็นการสร้างโพสต์หรือรูปภาพนิ่งอัพลงแพลตฟอร์ม แน่นอนว่าผู้เข้าแข่งขันบางคนอาจจะเน้นทำคลิปเป็นส่วนใหญ่ อาจจะยากสำหรับหัวข้อนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านผู้เข้าแข่งขันผู้ชายซะมากกว่า ผู้เข้าแข่งขันผู้หญิงเรียกได้ว่ามั่นใจกับหัวข้อเกมนี้มาก ซึ่งกติการเกมนี้ก็คือ จะให้เล่นกันเป็นทีมละ 2 คน แต่การจับคู่จะต้องประมูลกันเองด้วยเงินรางวัลที่ตัวเองมี (ลืมบอกไปว่าผู้ติดตามของผู้เข้าแข่งขันจะถูกแปลงเป็นเป็นเงินรางวัล หากใครตกรอบก็จะถูกแชร์ให้กับผู้เข้าแข่งขันอัตโนมัติทันที) หากใครไม่ถูกประมูลจะมีสิทธิ์ที่จะตกรอบสูงเมื่อเลือกทีมได้แล้ว ทางรายการก็จะมีฉากสำหรับให้ผู้เข้าแข่งขันได้ถ่ายรูป แต่ละฉากคืออลังมาก ฉากสวย ๆ ทั้งนั้น เรียกว่าทำถึงมาก ส่วนรูปแบบการตัดสินคือจะมีการสุ่มกรรมการทั้งหมด 100 คน คละเพศ , อายุ และอาชีพให้มีความแตกต่างกัน การนับคะแนนจะนับจากสายตาที่มองโพสต์หน้าฟีดทั้งหมด 9 ช่อง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละทีมก็ต้องแย่งช่องที่ดีที่สุดเพื่อดึงดูดสายคนดูให้ได้ ใครที่ถ่ายรูปเร็วที่สุดก็จะได้เลือกลำดับโพสต์ก่อน เกมนี้เราจะได้เห็นเคล็ดลับของแต่ละคนเลยว่าจะทำยังไงให้โพสต์น่าสนใจได้บ้าง บางคนก็สร้างสรรค์ แต่บางคนก็ทุ่มทุนโชว์เนื้อหนังกันเลยทีเดียว สำหรับเราแอบรู้สึกไม่ดีนิดหน่อย มันกลายเป็นว่าผู้เข้าแข่งขันผู้หญิงบางคนต้องมาโชว์เนื้อหนังเพื่อสร้างจุดสนใจให้กับตัวเอง เข้าใจแหละที่บางทีมันเป็นงานที่เขาทำเป็นประจำ แต่แค่คิดว่าบางทีอาจจะไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ วิเคราะห์รูปแบบคอนเทนต์ชื่อดูน่าเบื่อ แต่เป็นเกมที่สนุกเหมือนกัน เพราะผู้เข้าแข่งขันจะต้องมาโต้เถียงกันว่าใครเหมาะกับแบบไหน ซึ่งจะเล่นทั้งหมด 4 รอบ แน่นอนว่าแต่ละรอบหัวข้อคือจริงจังสุด ๆ แต่รายการก็สามารถทำออกมาให้เรารู้สึกสนุกกับเกมได้ โดยที่เราไม่รู้สึกเครียดกับมันมาก แต่มันจะสร้างความกดดันให้กับผู้แข่งขันเองรอบแรกจะเกี่ยวกับ “แฮชแท็ก” จะมีแฮชแท็กต่าง ๆ ปรากฏออกมาให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกมาอันหนึ่ง และโน้มน้าวให้ได้ว่าตัวเองมีคอนเทนต์รูปแบบไหนหรือสไตล์อินฟลูเอนเซอร์แบบไหนที่เหมาะกับแฮชแท็ก จะสะสมแฮชแท็กไปเรื่อย ๆ ใครที่ไม่ได้แฮชแท็กมาครอบครองเลยจะตกรอบ และใครที่ได้แฮชแท็กเยอะที่สุดก็จะเข้ารอบชิงทันทีโดยไม่ต้องเล่นรอบที่เหลือรอบ 2 จะเกี่ยวกับการคอมเมนท์ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องสร้างโพสต์ขึ้นมา จะเป็นรูป คลิป หรือข้อความก็ได้ ไม่จำกัดจำนวน โพสต์กี่ครั้ง กี่แพลตฟอร์มก็ได้ เพื่อให้มีคนมาคอมเมนท์ให้เยอะที่สุด ใครที่ได้คอมเมนท์น้อยสุดจะตกรอบไป และผู้ที่ได้คอมเมนท์เยอะสุดจะผ่านเข้ารอบชิงทันทีโดยไม่ต้องเล่นรอบที่เหลือรอบ 3 จะเกี่ยวกับโน้มน้าวใจกรรมการจากข้างนอก จะมีคนดูที่คัดมาฟังความเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนด และผู้เข้าแข่งขันต้องพูดโน้มน้าวยังไงก็ได้ ให้กรรมการรู้สึกเห็นด้วย การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับการโหวต ใครได้โหวตน้อยสุดจะตกรอบ และใครที่ได้โหวตเยอะสุดจะผ่านเข้ารอบชิงทันที โดยไม่ต้องเล่นรอบที่เหลือรอบ 4 จะเกี่ยวกับการวิเคราะห์ยอดคนดูจากคอนเทนต์อีกฝ่าย เพราะจะเหลือแค่ 2 คนสุดท้าย ดังนั้นกติกาคือ จะมีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับคนดูไม่ว่าจะเป็น เพศ , ยอดจำนวนผู้ติดตาม , ความน่าสนใจของภาพปก ซึ่งผู้เช้าแข่งขันจะต้องเลือกหัวข้อถึงจะมีโจทย์ขึ้น โดยโจทย์นั้นจะเกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขันของอีกคน ก็คือต้องตอบคำถามให้ถูก การตอบก็ต้องมีการวางจำนวนเงินเดิมพัน หากตอบผิดเงินจะตกเป็นของอีกฝ่าย และหากตอบถูกเงินอีกฝ่ายจะถูกหักตามจำนวนที่วางเดิมพัน การแสดงศักยภาพบนเวทีกติกาเกมนี้คือ จะมีเวทีทั้งหมด 4 เวทีอยู่แต่ละมุมของห้อง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันมีหน้าที่แค่แสดงศักยภาพ ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพื่อให้กรรมการกว่า 500 คนมาดูเวทีของตัวเอง แน่นอนว่าแต่ละคนต้องงัดทุกสกิลที่ตัวเองมี ความถนัดที่ตัวเองชอบมาดึงดูดผู้คนจำนวนหนึ่ง ซึ่งกรรมการ 500 คนที่ว่าก็เป็นการสุ่มมา พวกเขาจะไม่รู้เลยว่าอินฟลูเอนเซอร์คนไหนที่ผ่านเข้ารอบมาบ้าง จะรู้ด้วยกันหน้างานเลย และมีเวลาอยู่บนเวทีทั้งหมด 1 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2 รอบ เพื่อหาคนตกรอบ 1 คนก่อนที่จะเล่นรอบต่อไป ซึ่งรอบสุดท้ายนั้นก็จะเป็นการหาผู้ชนะเลิศแล้วนั่นเอง รีวิวหลังจากดูจบเป็นรายการแรกเลยที่เรารู้สึกว่ามันมีความจริงจังนะ แต่ทางรายการสามารภทำมันออกมาให้รู้สึกสนุกตามไปได้ เพราะแต่ละหัวข้อเกมต่าง ๆ คือแบบว่าถ้าเห็นแค่ชื่อคือน่าเบื่อเลย แต่มันคือข้อเท็จจริงที่พวกอินฟลูเอนเซอร์ต้องเจอ นี่คิดว่าใครสนใจอยากจะเริ่มต้นเป็นอินฟลูเอนเซอร์มาลองดูรายการนี้ก็น่าจะได้อะไรติดตัวไปบ้าง วิธีการสร้างตัวตน การสร้างโพสต์ให้เป็นที่สนใจ การไลฟ์สดให้คนเข้ามาดูเยอะ ๆ คือผู้เข้าแข่งขันทุกคนทำเหมือนกับว่ามันง่ายมาก แต่จริง ๆ แล้ว แต่ละคนก็ผ่านอุปสรรคการเป็นอินฟลูเอนเซอร์มาหลายอย่างจนเกิดการเรียนรู้ นั่นเลยทำให้พวกเขามีความรู้มากพอที่จะรู้ว่าผู้ชมของตัวเองเป็นแบบไหน ต้องทำยังไงคนถึงมองมาที่เราเป็นรายการที่สนุกมากเลย แถมมีพากย์ไทย ยิ่งสนุกขึ้นมาก ส่วนที่ชอบก็ชอบเลย ส่วนที่ไม่ชอบก็มีเหมือนกัน รู้แหละว่าสไตล์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่แค่รู้สึกบางคนก็ไม่ต้องถึงขั้นโชว์ด้านที่มันดูไม่ดี หรือผู้หญิงไม่ต้องโชว์เนื้อหนังมากก็ได้ มันเหมือนกลายเป็นว่าพวกเขายอมทำ ยอมแลกทุกอย่างเพื่อคนดูจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เลยเถิดตามในหนังหรือซีรีส์หรอกนะ เพียงแค่มันเรียลมาก เรียลมากจนแบบใจหนึ่งก็ว่าดี อีกใจหนึ่งก็ว่าไม่โอเค ความรู้สึกตีกันจนมั่วไปหมด สรุปคะแนนองค์ประกอบโดยรวม : ⭐⭐⭐⭐การดำเนินรายการ : ⭐⭐⭐⭐⭐งานภาพ : ⭐⭐⭐⭐การแคสติ้ง (การพากย์) : ⭐⭐⭐⭐ความรู้สึกร่วมในการรับชม ⭐⭐⭐⭐รวม : 4.2 ⭐ สนุกมาก เอ็นจอยกับทุกตอน ได้รู้ทริคหลายอย่างเลย ยิ่งใครกำลังสนใจเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ควรดูไว้เพื่อเป็นการศึกษาเบื้องต้นได้ แต่ก็ตามวิจารณญาณด้วยนะ เพราะประเทศเขากับเรามันต่างกัน เครดิตรูปภาพภาพปก มีรูปภาพที่ 1 , รูปภาพที่ 2 , รูปภาพที่ 3 และ รูปภาพที่ 4 จาก netflixkrรูปภาพประกอบที่ 1 (Thumbnail VDO) จาก netflixkrรูปภาพประกอบที่ 2 , รูปภาพประกอบที่ 5 , รูปภาพประกอบที่ 6 , รูปภาพประกอบที่ 7 , รูปภาพประกอบที่ 8 , รูปภาพประกอบที่ 9 , รูปภาพประกอบที่ 11 จาก Netflixkcontentรูปภาพประกอบที่ 3 , รูปภาพประกอบที่ 4 , รูปภาพประกอบที่ 10 , รูปภาพประกอบที่ 12 จาก netflixkr จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !