สวัสดีครับผม น้องฟักทองอีกเช่นเคยวันนี้จะมารีวิวภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ภาคใหม่ล่าสุดที่คอหนังทั่วโลกรอคอยในภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Rise of the Beasts กันนะครับTransformers: Rise of the Beasts จะพาคนดูเข้าไปในยุค 90 บนโลกมนุษย์เป็นเรื่องราวของ นอาห์ ดิแอซ (แอนโธนี รามอส) อดีตพลทหารกองทัพสหรัฐฯ ที่เขาพยายามทำหน้าที่เป็นพี่ใหญ่ที่สุดในบ้านเพื่อดูแลครอบครัวของเขาให้ดีที่สุดเท่าท ทำได้ แต่เขากลับไม่เคยเจอเรื่องดีๆ เอาชะเลย จะไปสัมภาษณ์งานก็ถูกคัดออก น้องชายก็มีอาการป่วยที่ไม่สามารถหายขาดได้พร้อมติดค่ารักษาหลายบาทหลายสตางค์ จนทำให้เขาเกิดท้อขึ้นมาจนอยู่ดีๆเขาก็ต้องไปอยู่หลังพวงมาลัยของพวกออโต้บอททีมีนิสัยฝืปากกล้ากันสุดในนามชื่อว่า มิราจ (พากย์เสียงโดยพืท เดวิดสัน) พร้อมเจอกับเหล่าพวกออโตบอททั้งหลายอาทิเช่น อ็อพติมัส ไพรม์ (พากย์เสียงโดยปีเตอร์ คัลเลน), บัมเบิ้ลบี และอาร์ซี (พากย์เสียงโดยลิซา โคชี) และในขณะเดียวกัน เอเลน่า วอลเลซ (โดมินิค ฟิชแบ็ค) นักวิจัยวัย 25 ปี ได้เปิดเครื่องส่งสัญญาณของมนุษย์ต่างดาวที่ซ่อนอยู่ภายในรูปปั้นเก่าแก่เข้าโดยไม่รู้ตัว และถูกเทอร์เรอร์คอนส์ผู้ชั่วร้าย สเกิร์จ (พากย์เสียงโดยปีเตอร์ ดิงค์เลจ) พุ่งเข้าโจมตี โนอาห์และเอเลน่าก็จะต้องร่วมมือกับพวกออโต้บ็อทส์เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้โลกนี้ถูกถล่มจนสิ้นซากพร้อมพาเหล่าออโตบ็อทกลับดาวบ้านเกิด ก่อนที่เจ้ายูนิครอน (พากย์เสียงโดยโคลแมน โดมิงโก้) สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่โตมโหราฬและพลังทำลายล้างดาวโลกให้สิ้นซากความรู้สึกหลังดูจบ - ถ้าจะบอกว่า Transformers ภาคนี้จะสามารถกอบกู้แฟรนไซสนี้อีกครั้งได้ไหม ผมว่าพอได้นะแต่อาจจะสู้เวอร์ชั่นเบย์ใน 3 ภาคแรกไม่ค่อยได้มากนัก ก่อนจะบอกสาเหตุว่าทำไมยังสู้ของป๋าเบย์ยังไม่ได้ ขอเริ่มที่ข้อดีของหนังก่อน ข้อแรกเลย ตัวหนังสามารถเล่าบทของฝั่งมนุษย์ได้ดีเกินคาดมาก มันจะทำให้คนดูรู้สึกน่าเอาใจช่วยมากว่าจะรู้สึกรำคาญใจ ช่วงการดำเนินเรื่องก็จะมีความหลากลายอยู่พอสมควร นอกจากจะได้เห็นเหล่าหุ่นต่างดาวตีกันตลอดทั้งเรื่องแล้วแล้ว ยังมีความเป็นแนวตามล่าสมบัติโบราณพอสมควร พร้อมฉากเชอร์วิสแฟนๆตั้งแต่วิแรกยันวิสุดท้ายของหนังที่ทำให้แฟนๆอยากดูภาคต่อไวๆ แล้วยังไม่พอหนังเรื่องมีความเป็นจัพม์สแกร์สยองขวัญด้วยนะ รวมก็ถือว่าครบรสเลยส่วนข้อเสียของเรื่องคือถึงแม้จะได้บทตัวละครฝั่งมนุษย์ได้ดี แต่พอมาฝั่งหุ่นยนต์กลับรู้สึกว่ายังไม่น่าตื่นเต้นมากพอสมควรเกือบออกแนวจืดซืดชะด้วยซ้ำแถมบทของอ็อตติมัส ไพรม์ ที่ครั้งนี้ทัศน์คติของนางจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่แล้วพอสมควร กลายเป็นคนหัวโบราณไม่ไว้ใจมนุษย์ แทนที่จะเขียนบทให้ดูน่าเห็นใจกลับออกมากลายเป็นความรู้สึกที่ตั้งแต่ดูภาคแรกๆไม่เคยอยากหยุมหัวนางขนาดนี้มาก่อน ฮ่าๆ แล้วฉากดราม่าที่ต้องกระแทกใจคนดูกลับไม่รู้สึกอินหรือสะทกสะทานอะไรเลย ทั้งๆที่มันเกิดจากตัวละครที่ผมชอบมากๆด้วยซ้ำ แล้วฝั่งหุ่นสัตว์ป่าตัวละครใหม่ของภาคนี้ดูบทน้อยกันมากๆ ดูใช้ไม่ค่อยคุ้มสมกับที่บิ้วกันในตัวอย่าง ส่วนในด้านฉากแอ็คชั่นถึงทำออกมาสนุกจริง แต่มันขาดความสดแปลกใหม่ที่ทำให้รู้สึกหวือหวามาก และเพลงประกอบกลับทำออกมาไม่จดจำเอาชะเลยถึงแม้จะพยายามเอาเพลงฮิปฮอปมาใส่มันก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังดีขึ้นเลย เอาเพลงแนวร็อคอัลเทอร์เนทีฟเหมือนสามสี่ภาคแรกมาใส่เหมือนจะดีกว่า จนเกือบรู้สึกว่าหนังสนุกน้อยกว่าเดอะฟาสภาคใหม่จนน่าใจหาย สรุป - ภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Rise of the Beasts เป็นอีกภาพยนตร์ที่อาจจะพอจะกอบกู้แฟรนไซส์ได้พอสมควร ถึงแม้ตัวหนังจะไม่เต็มไปด้วยฉากถล่มวินาศสันตโรมีฉากเชอร์วิสแฟนที่ดี บทฝั่งมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจเกินคาดและมีความหลากหลายอารมณ์ที่ครบรส แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ขาดหายไปหลายอย่างทั้งฉากแอ็คชั่นที่ดูไม่หวือหวา บทฝั่งหุ่นยนต์ที่ดูจืดชืดทำให้เสนห์มันหายไปจนน่าใจหาย แต่ก็ยังดีที่ตัวหนังปูไปยังจักรวาลใหม่เรียกเสียงกริ๊ดจากแฟนๆจนทำให้อยากดูภาคใหม่ไวๆ ถึงแม้อีกใจจะไม่ชอบภาคนี้มากนักก็ตาม ฮ่าๆTransformers: Rise of the Beasts เข้าฉายแล้วในโรงภาพยนตร์เท่านั้นเครดิตภาพ- Paramount Pictures Thailand Official Twitter- Transformers Official Twitterภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6 คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน