สำหรับคอหนังสายรางวัลไม่ควรพลาด ช่วงนี้ใน Netflix ก็ทยอยขนหนังรางวัล หนังชิงรางวัลมามากมาย รวมถึง "Three Songs for Benazir" หนังขนาดสั้น ที่น่าจับตามองที่สุดอีกหนึ่งเรื่องในตอนนี้ เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขา Documentary (Short Subject) : รางวัลภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม ร่วมกับหนังสั้นเรื่องอีกๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "Audible" "Lead Me Home" "The Queen of Basketball" และ "When We Were Bullies"ภาพยนตร์สารคดี Three Songs for Benazir ได้ Gulistan และ Elizabeth Mirzaei คู่รักชาวอัฟกานิสถาน มากำกับและเป็นโปรดิวเซอร์ให้ นอกจากในมุมมองของสงครามและความยากลำบากที่มีต่ออัฟกานิสถาน และในสารคดีสั้นชุดนี้จะถ่ายถอดอัฟกานิสถานในแง่มุมที่ผู้คนไม่เคยได้เห็น ที่สำคัญคือผู้กำกับ Gulistan Mirzaei เป็นชาวอัฟกันคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ด้วย ซึ่งเป็นการถ่ายทอดและนำเสนออัฟกานิสถานผ่านคนอัฟกันจริงๆ และในเรื่องนี้ Gulistan ได้ใช้เวลาถึง 4 ปีในการสร้างสรรภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้ขึ้นมา “ภาพยนต์ที่เกี่ยวกับอัฟกานิสถานส่วนมากไม่ได้ถ่ายทอดจากคนอัฟกานิสถานเลย ผมต้องการเล่าเรื่องราวในอัฟกานิสถาน ในมุมของความรักบ้าง และบางสิ่งที่ผู้คนยังไม่เห็นเคยในอัฟกานิสถานบ้านเกิดของผม จึงอยากเล่าเรื่องจากเสียงของตัวเอง ผ่านเลนส์ของตัวเอง” ㅡ GulistanElizabeth Mirzaei ได้กล่าวว่าถึงแนวคิดสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่ามันเกิดขึ้นขึ้นโดยธรรมชาติ เริ่มต้นจากการเจอกันโดยบังเอิญที่ค่ายอาสาสมัครองค์กรพัฒนาเอกชนที่แจกจ่ายอาหารในค่ายแล้วค่อยๆพัฒนาและก่อตัวเป็นรูปร่างจากความสัมพันธ์ที่ทั้งตัวผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ได้เรียนรู้ และได้ใช้เวลากับชาอิสตามากขึ้น เรื่องย่อว่าด้วยเรื่องราวของ "ชาอิสตา" และ "เบนาซีร์" คู่รักหนุ่มสาวที่พยายามจะใช้ชีวิตร่วมกันในค่ายสำหรับผู้พลัดถิ่นชาวอัฟกันในกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน กับเป้าหมายการเป็นทหารของชาอิสตา เพื่อสลัดทิ้งคราบความยากลำบาก ในระหว่างความเป็นไปของทั้งคู่เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ความรัก ความฝัน กับการใช้ชีวิตที่อัฟกานิสถาน ผ่านบทสามเพลงของชาอิสตาที่ส่งถึงเบนาซีร์ การดำเนินเรื่องภายในสามสิบกว่านาทีนี้ที่ถูกบรรจุอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ของความรักและความสวยงาม นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ท้าทายและสวยงามมาก ตอนที่ได้ดูเราสัมผัสได้ถึงความตลบอบอวลในความรักของทั้งคู่ แม้มันจะไม่แสดงออกอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาเหมือนหนังรักหรืออะไรที่เราคิดว่ามันควรจะเป็น แต่ผ่านบทเพลงที่เกิดขึ้นภายในเรื่องมันสามารถตอกกลับความรู้สึกทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญที่ชัดเจนคือตัวผู้กำกับ ได้ใช้เวลาเรียนรู้ รู้จัก และสร้างความสัมพันธ์กับตัว Subject ("ชาอิสตา" และ "เบนาซีร์") ได้ดีมาก จึงส่งผลให้สารคดีที่ออกมามีความเป็นธรรมชาติมาก แทบไม่รู้สึกเลยว่ามันเป็นการตามติดชีวิต มันเหมือนเราเป็นสายตาอีกคู่หนึ่งที่ได้มองชีวิตของพวกเขาโดยที่พวกเขาเองก็ไม่ได้อึดอัดเลยแม้แต่น้อยและจุดที่ชอบอีกอย่างคือความเรียบง่ายของสารคดีเรื่องนี้ มันเล่าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโอนต่อชีวิตมาก การถ่ายทอดความสวยงาม ความเจ็บปวด และความยากลำบากของสงครามไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในทุกๆมุมใดมุมหนึ่งของก้นบึ้งในใจ ดนตรีก็ยังคงช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตให้ดำเนินต่อไป ซึ่งจะสัมผัสได้อย่างชัดเจนภายในเรื่อง แต่ที่สำคัญที่สุดคือ สงคราม ไม่เคยส่งผลดีต่อใครเลย มีแต่สร้างความเจ็บปวดสร้างความเสียหายไว้ทุกอณู เหลือไว้แต่เศษซากของความสุขที่ยังลอยเคว้งอยู่ในอากาศ ในค่ายมีความเศร้าและชีวิตที่ยากลำบาก มีสงคราม มีความทุกข์ ไม่มีงานทำ แต่ยังมีอย่างอื่นอีก แต่ยังมีบทกวี… มีความรัก การถ่ายทอดเรื่องราวความรักจากค่ายนี้และจากประเทศของฉันเป็นสิ่งสำคัญ ㅡ Elizabeth Mirzaei สรุปเป็นภาพยนต์สารคดีอีกหนึ่งเรื่องที่งดงามมาก เหมือนกวีบทหนึ่งบท ที่มีครบทุกสัมผัสของความรัก ความเจ็บปวด ความผิดหวัง และสงคราม ที่ถูกอัดแน่นมาในเรื่องนี้ ดังนั้นไม่ต้องลังเลที่จะดู รับรองว่าใครที่ได้ดูไม่ผิดหวังแน่นอน สารคดีเรื่องนี้จะพาคุณไปเรียนรู้แง่มุมใดมุมหนึ่ง ซอกหลืบแห่งความสุขของคู่รักชาวอัฟกานิสถาน ผ่าน สามบทเพลง Three Songs for Benazir (ลำนำรักแห่งอัฟกัน)https://www.youtube.com/watch?v=A51kP2EjuG0 อ้างอิงข้อมูล จาก ommercato / Imdb - Three Songs for Benazir / threesongsforbenazir.comขอบคุณวิดีโอ Three Songs for Benazir | Official Trailer จาก Netflixขอบคุณรูปภาพปก และ ภาพประกอบ 1/2 จาก Three Songs for Benazir และ ภาพประกอบ 3 จาก @mirzaeifilmsอัปเดตข่าว ดูหนังละครซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!