เมื่อซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ นอกจากความหล่อของคิมซูฮยอน และก็งานซิกแพค ที่ทำสาว ๆ กรี๊ดสลบกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง บวกกับความสวยงานดีของนางเอกซอเยจี และความรักขอทั้งคู่ที่สุดแสนจะฮาร์ดคอ (มากกกกกกกกกก) เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่นางเอกเต๊าะผู้เยอะมาก แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงความรักของพระนาง แต่จะมาพูดถึงนิทานที่ถูกสอดแทรกไปในเรื่องนี้ เพราะนิทานแต่ละเรื่องให้แง่คิดที่ดีมาก เป็นนิทานสอนใจที่มากกว่าให้เด็กอ่านอย่างเดียว โดยเราจะรวบรวมเรื่องราวนิทานในซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay EP1-4 ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย -------------------------------------- EP 1 (เปิดเรื่อง) จุดเริ่มต้นเรื่องราว ในปราสาทแห่งหนึ่งในป่า มีสาวน้อยโฉมงามอาศัยอยู่คนเดียว วันหนึ่งเธอรู้สึกเบื่อ และเหงาจึงออกไปในหมู่บ้านเพื่อไปเล่นกับเด็กในหมู่บ้าน เธออยากที่จะเล่นกับเด็กเหล่านั้น จึงมอบของขวัญให้กับพวกเขา แต่ของขวัญที่มอบให้กลับทำให้เด็กเหล่านั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทำให้สาวน้อยได้ล่วงรู้ว่ามีปีศาจเงาแห่งความตายตามติดเธอ หลังจากนั้นผู้คนในหมู่บ้านจึงเรียกเธอว่า"สัตว์ประหลาด" สาวน้อยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เธอจึงเกลียดทุกคนบนโลกใบนี้ เธออยากระบายความโกรธนี้กับใครสักคน และความบังเอิญทำให้เธอได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และช่วยชีวิตเขาจากความตายโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เกิดสิ่งที่น่าประหลาดขึ้นกับเธอ นั่นก็คือ เงามืดนั้นได้หายไป แต่กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มที่เธอช่วยชีวิตกลับตามติดชีวิตเธอแทน เขาติดตามเธอไปทุกที่เหมือนเฉกเช่นกับเงานั้น ในวันที่อากาศแจ่มใสสาวน้อยได้ถามเขาว่า "นี่ นายจะอยู่ข้างฉันตลอดไปใช่ไหม" เขาตอบ "แน่นอนฉันจะไม่หนีเธอไปไหนเด็ดขาด" สาวน้อยจึงฉีกผีเสื้อที่มีชีวิตออกเป็นชิ้น ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เด็กหนุ่มกลัวมาก จึงวิ่งหนีไป ปีศาจเงาแห่งความมืดได้กลับมาหาสาวน้อย แล้วกระซิบบอกเธอว่า "ไม่มีใครอยู่เคียงข้างแกได้หรอก เพราะแกเป็นสัตว์ประหลาด"คติสอนใจคนที่แตกต่างกับคนอื่นด้วยลักษณะท่าทาง กิริยา หรือการกระทำที่ไม่เหมือนคนปกติทำกัน ทุกคนอาจจะกลัวกับคนที่มีลักษณะแบบนี้ เพราะภาพลักษณ์ที่แตกต่างและการกระทำที่ไม่ปกติ คนส่วนใหญ่เลือกที่จะกีดกั้นและปิดกั้นการอยู่ร่วมกับคนลักษณะนี้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่จะสามารถปกป้องตัวเองจากอันตราย การแตกต่างของเด็ดหญิงอาจจะเกิดขึ้นจากการเลี้ยงดู และการที่ต้องอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน ทำให้เธอไม่ได้เรียนรู้พฤติกรรมจากภายนอกEP 1 (ท้ายเรื่อง) เด็กชายผู้โตมากับฝันร้ายวันนี้หนุ่มน้อยตื่นเพราะฝันร้ายที่น่าหวาดกลัวอย่างเช่นเคย เพราะความทรงจำในอดีตที่อยากลืมมาหลอกหลอนในฝันทุกคืน หนุ่มน้อยเลยต้องทุกข์ทรมานไม่สิ้นสุด หนุ่มน้อยกลัวการนอนหลับอย่างยิ่ง วันหนึ่งเขาจึงไปหาแม่มดแล้วขอพร "ท่านแม่มดได้โปรดเถอะเพื่อไม่ให้ผมฝันร้าย ท่านช่วยรบความทรงจำทั้งหมดในหัวผมที แล้วผมจะมอบทุกอย่างที่ท่านต้องการให้ "วันเวลาผ่านไปหนุ่มน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเขาไม่ฝันร้ายอีกต่อไป แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด เขาไม่มีความสุขเลยสักนิด คืนที่จันทร์เต็มดวงสีเลือดลอยเด่น แม่มดปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง เพื่อรับสิ่งตอบแทนจากพรที่ให้ไว้ เขาตะโกนใส่แม่มดด้วยเสียงของผู้ใหญ่ที่คับแค้นใจ "ลบความทรงจำเลวร้ายของผมไปหมดแล้ว แต่ทำไมผมยังไม่มีความสุขอีก" จากนั้นแม่มดก็เอาวิญญาณของเขาไปตามสัญญา แล้วพูดแบบนี้ "ความทรงจำที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ความทรงจำที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง ความทรงจำที่ทำให้คนอื่นและตัวเองเจ็บปวด ความทรงจำของการถูกทอดทิ้ง มีแค่คนที่เก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในใจและใช้ชีวิตต่อไป ที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มุ่งมั่นมากขึ้นและสุขุมกว่าเดิมได้ ความสุขน่ะมีแต่คนเหล่านั้นที่จะได้มันไปครอง เพราะงั้นอย่าลืม อย่าลืมแล้วผ่านมันไปให้ได้ ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ เธอก็จะเป็นแค่เด็กน้อยที่จิตวิญญาณไม่เติบโต" คติสอนใจความทรงจำทุกความทรงจำ ไม่ว่าจะร้ายหรือดี มันเป็นความทรงจำที่มีค่าทั้งสิ้น เพราะมันทำให้เราโตขึ้นในทุก ๆ วัน ความทรงจำที่เลวร้าย เป็นความทรงจำที่จะทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบEP 2 รองเท้าแดง โดย ฮันส์ คริสเตียน (Hans Christian)สาวน้อยรองเท้าแดงหรือ The Red Shoes เป็นเทพนิยายฝีมือฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นักเขียนสายดาร์ค มีสาวน้อยคนหนึ่งเธอสวมรองเท้าสีแดงไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ควรสำรวมก็ตาม แม้กระทั่งโบสถ์ที่ต้องยำเกรงต่อพระเจ้าก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่เธอสวมรองเท้าแดงคู่นั้น เท้าทั้งสองข้างเหมือนกับกำลังเต้นรำอยู่ เธอจึงไม่สามารถที่จะถอดรองเท้าสีแดงคู่นั้นได้อีกเลย สาวน้อยยึดติดกับรองเท้าสีแดงคู่นั้นเป็นอย่างมาก จนเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นทำให้เพชรฆาตตัดเท้าทั้งสองข้างของเธอ แต่ถึงแม้เท้าของเธอจะถูกตัดออก เธอก็ยังคงใส่รองเท้าสีแดง และมันยังคงเต้นรำต่อไปคติสอนใจสิ่งของบางอย่างที่เราชอบ หรือมีความผูกพันธ์ทางด้านจิตใจ เรามักจะนำมันมาใช้ตลอดเวลา ไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ได้EP 3 เจ้าหญิงนิทรา โดย ชาร์ล แปโร (Charles Perrault)ในปราสาทแห่งหนึ่งลึกเข้าไปในป่า มีเจ้าหญิงที่หลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน มีคำทำนายว่า เด็กคนนี้จะต้องตาย เพราะโดนเข็มปั่นด้ายแทง เพราะในวันที่เจ้าหญิงประสูติ มีแม่มดตนหนึ่งได้สาปเธอไว้ พระราชารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากว่าเจ้าหญิงจะเกิดอันตราย จึงสั่งให้เผาปั่นด้ายทั้งหมดที่พบเจอภายในอาณาจักร เพื่อป้องกันไม่ให้คำสาปนั่นเป็นจริง แต่ท้ายที่สุดเจ้าหญิงก็ถูกแม่มดชั่วร้ายแทงด้วยหนามกุหลาบอยู่ดี คติสอนใจไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถทำให้เราหนีจากโชคชะตาได้ เพราะไม่ว่าจะเร็วหรือช้าเราก็ต้องตายอยู่ดีEP 4 เด็กน้อยซอมบี้ เด็กชายคนหนึ่งเกิดที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เขาเกิดมามีลักษณะผิดแปลกจากเด็กทั่ว ๆ ไป เขามีผิวขาวซีดแล้วก็ลูกตาโตมากผิดปกติ เมื่อเด็กคนนั้นโตขึ้น แม่ของเขาก็รู้ว่าลูกของเธอไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป เด็กคนนี้เหมือนกับซอมบี้ที่ต้องการแค่เพียงอาหารเท่านั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนในหมู่บ้านล่วงรู้และสงสัย แม่จึงเอาเขาไปขังไว้ที่ห้องใต้ดิน ทุกคืนเธอจะแอบขโมยสัตว์ในหมู่บ้านไปให้ลูกของเธอกิน เธอแอบเลี้ยงเขาอยู่อย่างนี้เป็นเวลาหลายปี จนวันหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เกิดโรคระบาดในหมู่บ้านแห่งนี้ทำให้ผู้คนและสัตว์ตายจำนวนมาก ส่วนคนที่รอดชีวิตก็ย้ายถื่นฐานไปอยู่ที่อื่นกันหมด เหลือแต่เธอคนเดียว หญิงสาวที่ไม่สามารถทิ้งลูกของเธอได้ ในที่สุดเธอก็ตัดขาของตัวเองให้ลูกของเธอ เพราะเธอไม่สามารถทนเสียงร้องที่เกิดจากความหิวของลูกน้อยได้ วันต่อมาก็ตัดขาอีกข้าง ตัดแขนและก็ส่วนอื่น ๆ ในที่สุดเมื่อเธอเหลือเพียงแค่ลำตัว เธอก็โผเข้ากอดลูกน้อยเป็นครั้งสุดท้าย ลูกน้อยกอดลำตัวของแม่ไว้แน่ แล้วพูดออกมาเป็นครั้งแรกว่า "แม่ช่างอบอุ่นเหลือเกิน" ลูกต่างจากคนอื่น ลูกพิเศษมาก ลูกเป็นผลงานชิ้นพิเศษของแม่ สิ่งที่ลูกต้องการคือ กินให้หายหิว หรือโหยหาความอบอุ่นจากแม่กันแน่คติสอนใจความรักที่แม่มีต่อลูกนั้นยิ่งใหญ่ แต่บางครั้งสิ่งที่ลูกต้องการอาจจะไม่ใช่ข้าวของมากมายที่แม่สรรหามาให้ แต่เพียงแค่ต้องการอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของแม่เพียงเท่านั้นซีรีส์เรื่องนี้นอกจากเนื้อเรื่องจะโดดเด่นและเข้มข้นมากๆ แล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างก็คือ นิทานที่สอดแทรกอยู่ในแต่ละตอน มันเป็นนิทานที่เราหลายคนมองข้ามและคิดว่ามันเป็นเรื่องสำหรับเด็ก แต่เอาเข้าจริงความคิดเหล่านั้นผิด เพราะนิทานเหล่านี้ มันให้แง่คิดสำหรับคนทุกคน เป็นเรื่องราวที่ดีมาก ๆ สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูซีรีส์ It's Okay to Not Be Okay ต้องรีบไปดูอย่างด่วน และสามารถดูได้ที่ Netflix เพราะซีรีส์เรื่องนี้มีมากกว่าความสนุก ทุกการแสดงออกของตัวละคร นิทานที่แทรกระหว่างตอน ทุกอย่างมีความหมายแฝงหมด ถ้าดูดี ๆ วิเคราะห์เนื้อหา คุณจะได้ความรู้ทางด้านจิตวิทยาจากเรื่องนี้มากมายจริง ๆ บทความแนะนำจากผู้เขียนรวม 6 ซีรีส์ได้รับรางวัลจาก Baeksang Arts Awards 2020ซีรีส์ Birth Of A Beauty ซีรีส์ยอดนิยมใน VIU" กว่าจะมาเป็น กงยู (철地哲) สมบัติแห่งชาติเกาหลี "ไอเดียการแต่งห้องตามซีรีส์ The King Eternal Monarch ใน Netflixตามรอยซีรีส์ดังกับ 5 สถานที่ถ่ายทำที่สวยจนเหมือนต้องมนตร์ 'The World of the Married 'Vs'Doctor Foster' การสิ้นสุดของโลกการแต่งงานประเด็นทางสังคมจากซีรีส์ A World of Married Coupleวิเคราะห์ตัวละครจีซอนอู นางเอกจาก A World of Married Couple7 ซีรีส์ของ โซจีซบดูยาว ๆ 7 วัน 7 เรื่องภาพโดย Netflix และ TvN