อีกซีรีส์คุณภาพจากNetflix ที่เต็มไปด้วยประเด็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ ด้วยการเล่าเรื่องที่แต่ละตอนไม่ได้มีความต่อเนื่องกันแต่อย่างใด แต่เป็นเหมือนหนังสั้นหลากเรื่อง จากหลากผู้กำกับ ที่ทุกเรื่องนั้นมีประเด็นเดียวกันด้วยการพูดถึงเรื่องราวของเทคโนโลยี และชีวิตคน โดยแต่ละเรื่องแต่ละตอนนั้นก็นำเสนอและตีความออกมาได้อย่างเฉียบ คมคาย โดยในซีซั่นแรกนั้นจะมีทั้งหมดด้วยกัน 3 ตอน ซึ่งผมจะพูดถึงเรื่องราวเพียงสังเขป ให้พอเข้าใจภาพรวมของเนื้อหานะครับEp.1 : The National Anthemเมื่อนายกรัฐมนตรีถูกปลุกในตอนกลางดึกคืนหนึ่ง เพราะองค์หญิงประเทศของเขาถูกผู้ก่อการร้ายถูกจับเป็นตัวประกัน โดยผู้ร้ายได้ถ่ายคลิปข่มขู่ออกมาเผยแพร่ พร้อมข้อแลกเปลี่ยนสุดบ้าบิ่น ด้วยการให้นายกฯ มีอะไรกับหมูพร้อมไลฟ์สดให้ทั่วประเทศได้ดูเพื่อแลกกับชีวิตองค์หญิงEp.2 : Fifteen Million Meritsในโลกอนาคตที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทค ทุกคนต้องทำงานด้วยการปั่นจักรยานไฟฟ้าเพื่อเก็บระยะทางที่จะสามารถนำมาใช้แทนเงินในการซื้อสิ่งต่างๆ บิง (แดเนียล คารูย่า) ได้ไปแอบชอบ อาบี (เจสสิก้า บราวน์ ฟินด์เลย์) หญิงสาวผู้มีความฝันว่าจะเป็นนักร้อง ด้วยการเข้าไปประกวดรายการโชว์ที่ต้องใช้ค่าสมัครเข้าแข่งขันเป็นเงินจำนวนหลายล้าน บิง ก็ได้เอาเงินจากการปั่นจักรยานของเขาทั้งหมดมาให้ อาบี เพื่อให้เธอได้ไปตามความฝันครั้งนี้ ก่อนที่การตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของ บิง ต้องเปลี่ยนไปEp.3 The Entire History of Youในโลกอนาคต(อีกแล้ว) ที่ผู้คนทุกคนจะมีเมมโมรี่ ฝังอยู่ในร่างกาย เพื่อให้สามารถบันทึก ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนๆ นั้นพบเจอมาตลอดวัน แถมยังสามารถเลือกที่จะเปิดดูย้อนหลังได้อีกต่างหาก คู่รักคู่หนึ่งที่คบกับมานาน จนกระทั่งฝ่ายชายได้จับพิรุธแฟนสาวของเขาว่าเธอได้เคยแอบคบชู้กับเพื่อนชายของเธอ การสืบชู้ในครั้งนี้จึงเป็นการสิบจากความทรงจำที่ผ่านมาของทั้งแฟนสาวและชู้ ก่อนที่เขาจะพบความจริงที่เจ็บปวดใน Black Mirror เราจะพบว่าส่วนประกอบที่สำคัญของทั้ง 3 Ep. ที่ว่านี้คือ เทคโนโลยี ความรัก และเซ็กซ์ ทั้ง3 องค์ประกอบข้างต้นล้วนแต่เป็นตัวที่คอยขับเคลื่อนเนื้อเรื่องและเป็นประเด็นสำคัญที่แต่ละเรื่องต้องการจะสื่อสารกับคนดูซีรีส์ได้ใช้เทคโนโลยีและเซ็กซ์ มาเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้งต่างๆ ในเรื่อง ใน Ep.1 คือการใช้สื่อ โซเชียลเนตเวิร์ค มาเป็นตัวกดดันตัวละคร ทั้งการเผยแพร่คลิปตัวประกันลงอินเตอร์เน็ต และการเผยแพร่คลิปนายกฯมีอะไรกับหมูทั่วประเทศ ส่วนใน Ep.2 คือการสร้างโลกสมมติที่ไม่มีอยู่จริง ทั้งการซื้อผลไม้ผ่านตู้อัตโนมัติ การปั่นจักรยานเพื่อเก็บเงิน และสิ่งบันเทิงล่อใจต่างๆ Ep.3 คือการย้อนความทรงจำเพื่อหาความจริงถึงการคบชู้ของแฟนสาว และย้อนดูตอนที่เธอมีอะไรกับชู้ส่วนที่สองคือความรัก เป็นส่วนที่ทำให้เรื่องราวดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครทุกตัวดูมีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจมากยิ่งขึ้น โดยใน Ep.1 จะเป็นความรักของนายกฯและภรรยาท่ามกลางความรับผิดชอบของประเทศชาติ ใน Ep.2 เป็นความรักแรกพบของตัวละครก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ และการพร้อมทำทุกอย่างของบิง เพื่อคนที่เขารัก ใน Ep.3 เป็นการพูดถึงความรักที่ต้องเผชิญกับเรื่องของมือที่ 3 จนไปสู่การไม่ไว้ใจกันของคู่รักในซีซั่นแรกที่แม้จะมีเพียง 3 Ep. ที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน แต่ทุกตอนก็ถือว่าสามารถแสดงถึงคอนเซ็ปต์ของซีรีส์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถทำให้คนดูรับรู้ถึงเรื่องราวที่ผู้ทำต้องการจะสื่อได้เป็นอย่างดี จนทำให้เราสนใจในซีซั่นต่อๆ ไป ที่จะมี Topic ที่ต่างกันไป โดยในซีซั่นแรกจะเน้นพูดถึงเรื่องเซ็กซ์เป็นหลัก ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือเหล่านักแสดงที่มาร่วมแสดงในแต่ละตอนนั้นล้วนแต่เป็นนักแสดงมากฝีมือ ที่เคยโด่งดังจากหนังและซีรีส์เรื่องต่างๆ ทั้ง แดเนียล คารูย่า ที่เล่นซีรีส์เรื่องนี้ก่อนจะไปโด่งดังใน Get Out , เจสสิก้า บราวน์ ฟินด์เลย์ จาก Downton Abbeyความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่การที่เราจะต้องติดตามเรื่องราวในทุกๆ ตอน แต่เป็นการที่เราจะได้เห็นโลกอนาคต และมุมมองเทคโนโลยีของผู้กำกับแต่ละคนที่เลือกมานำเสนอ เราจะได้เห็นทั้งด้านดีและด้านเลวร้ายของคำว่าเทคโนโลยีสามารถรับชม Black Mirror ทั้ง 5 ซีซั่นบน Netflix ผ่านทางกล่อง True-ID ได้แล้ววันนี้ Cr. รูปภาพจาก https://www.netflix.com/title/70264888