ถ้าหากให้พูดถึงอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี ลายเซ็นต์ที่เด่นชัดในสูตรการสร้างหนังและตัวซีรีส์คือการสะท้อนชนชั้นฐานและการตีแผ่สันดานดิบของมนุษย์ ดูจะเป็นจุดขายหลัก ๆ ของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีที่ทำมาดีเยี่ยมและถูกชื่นชมอยู่บ่อยครั้งมาโดยตลอด และเจาะลึกลงไปอีกด้วยประเด็นต่าง ๆ ในสังคมจริงที่สามารถหยิบมาใช้เป็นพล็อตเรื่องได้ แต่พล็อตที่ดีมากพอจะหยิบมาดึงกลุ่มลูกค้าวัยทำงานให้มาสนใจโปรเจกต์นี้ได้ คงหนีไม่พ้นของกลุ่มคนทำงานทีก่ำลังสร้างตัวสโดยหยิบความสำเร็จอย่างการซื้อที่อาศัยอย่างตัวคอนโดกลางเมืองกรุงใกล้ที่ทำงานเป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับซีรีส์และหนังยุคนี้ยิ่งการมาของแผ่นดินไหวในประเทศไทยเรา ทำให้คนยิ่งสนใจในเรื่องของตัวคอนโด ราคาขายราคาเช่า ทำเลและการคาดการณ์มากขึ้นซึ่งที่ส่งผลเชื่อมโยงไปยังภาวะเศรษฐกิจ Wall To Wall ฝันร้าย 84 ตารางเมตร คือหนังที่หยิบนิยามการสะท้อนและแซะชนชั้นบวกวิพากย์วิจารณ์โดยใช้องค์ประกอบที่อยู่อาศัยของตัวคอนโดผสมเข้ากับพล็อตที่เข้ายุคทันสมัยจึงเป็นคอนเทนต์จาก Netflix Original อีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Wall To Wall ปัญหาเสียงดังไม่ได้อยู่ที่คอนโดแต่มันอยู่ที่คน คำนิยามที่กล่าวหนังได้คมคาย ความรู้สึกหลังดูจบแม้ตัวอย่างหนังจะบิลด์คนดูที่ตั้งตารอด้วยแนวระทึกขวัญ คาดเดาไม่ได้ แบบขั้นสุด แต่เนื้อในหนังมันซ้อนหลายเลเยอร์และตีแผ่ประเด็นจากสังคมของคนเจน Y และ Z ไว้ได้ดี บวกกับความถนัดในแง่ของการปั่นประสาทสะท้อนชนชั้นของฐานะ ตัวเอก คือตัวแทนของมนุษย์เงินเดือนในเมืองกรุงที่อยากมีชีวิตที่ดี บางครั้งทำอะไรไม่ทันคิด ทุ่มหมดหน้าตัก ไม่คิดหน้าคิดหลัง เครียดง่ายเสี่ยงเป็นซึมเศร้าคือภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของคนยุคนี้ได้ดี หนังโยนปัญหามาด้วยปมปริศนาว่าเสียงดังทุกคืนจากห้องตัวเอกมาจากไหน ให้ดูสนุกลุ้นระทึก เอาใจช่วย ผ่านกลุ่มตัวละครและเพื่อนบ้านที่ล้วนแล้วไม่น่าไว้วางใจและสะท้อนภาพของสังคมแบบที่หนังและซีรีส์เกาหลีถนัดทำกันออกมาดี ซึ่งดูเหมือนหนังจริงที่เราได้ดูจะค่อนข้างพลิกกระดาน ไม่ใช่แนวระทึกขวัญมากขนาดนั้นมันก็เป็นเพียงแค่สนุกแบบคมคายในแนวเมโลดราม่าซ่อนอะไรบางอย่างไว้อยู่มากกว่า อึดอัด ลุ้นระทึก ชวนเดาได้ยาก ตลอดหนังเกือบสองชั่วโมง สิ่งที่ตัวหนังควบคุมได้ดีมากคือตัวมวลอารมณ์ของเรื่องที่เต็มไปด้วยความเครียดกดดัน ประหนึ่งเราได้เป็นตัวละครเอกที่ไม่รู้อะไรรอบตัวไปทุกอย่าง หน่ำซ้ำยังเครียดจากงาน เงิน และชีวิตของตัวเองที่ทำให้ขวนหดหู่เล็กน้อยกับภาพความจริงของคนวัยทำงานในเมืองกรุงที่ยังต้องโดนเอาเปรียบจากอะไรหลายอย่าง แม้หนังจะไม่เป็นเมโลดราม่าสะส่วนใหญ่แต่ทิศทางการพาหนังลงก็ไม่ได้เรียบง่ายจนเดาได้หมด มีจังหวะให้ลุ้นและซับซ้อนอยู่พอต้วในช่วงท้ายทำให้ดูตื่นเต้นไม่น่าเบื่อ คนดูจะไม่อินตามถ้าขาดการแสดงที่ทำให้เชื่อ แต่เรื่องนี้ทำให้อินตามได้ด้วยการแสดงที่ทำถึง คังฮานึล นักแสดงที่มารับเล่นเป็นตัวละครหลักในหนัง ซึ่งตัวละครในเรื่องก็จะมีน้อยมากอยู่แล้วกับแนวดราม่าที่เรื่องราวตามติดชีวิตเขาตลอดแทบจะทั้งเรื่อง การแสดงของเขาทำให้ชวนเชื่ออึดอัด สงสาร หงุดหงิด และรับมือไม่ถูกแบบเหมือนเราจะได้เผชิญหน้าเหตุการณ์แบบนั้นจริง ๆ ได้ดีทีเดียว ถ้าการแสดงของตัวเอกที่ไม่มากพอหรือประสบการณ์ไม่ถึง การทำให้ผู้ชมยึดติดและดูจบได้คงจะเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ที่ดูแล้วเชื่อสนิทใจว่าเขาคือคนที่กำลังพ่ายแพ้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่กำลังล้มเหลวไปทุกทาง ลำดับชั้นของคอนโดที่อาจจะบ่งบอกในถึงลำดับชั้นของฐานะ แม้คอนเซ็ปต์หนังจะชวนนึกถึงการแซะประเด็นเรื่องชนชั้นของแต่ละห้องในชั้นบนสุดสู่ล่างสุดแบบ The 8 Show มากแค่ไหน แต่ก็ยังดีใจที่หนังยังพาเราออกไปสำรวจความเหลื่อมล้ำและโลภมากในธุรกิจของการก่อสร้างคอนโดที่เข้ากับยุคปัจจุบันได้แบบทันท่วงทีแม้ปมเรื่องราวที่หนังเลือกจะซ่อนไว้จะดูทำการยิ่งใหญ่เกินเรื่องไปหน่อยแต่ล้วนแล้วในบทสรุปก็หวยออกที่พยายามการวิพากย์วิจารณ์สังคมในคอนโดแบบในหนังออกมาโอเคและคมคายอย่างพอดี ภาพรวมแล้วนี่เป็นทริลเลอร์ดราม่าปั่นประสาทที่หยิบยกประเด็นของคอนโดและประเด็นความเหนื่อยล้าของคนวัยทำงานมาคลุกเคล้าเข้าตีเป็นรสชาติระทึกขวัญพอได้แต่ปลายทางลงเอยด้วยการอยากจะตะโกนวิพากย์วิจารณ์ชนชั้นและความเหลื่อมล้ำในสังคมของคอนโดออกมาได้พอดี แต่ทว่าความบันเทิงของหนังออกจะชวนสะดุดและไม่ดีเท่าที่ควรอยู่บ้างด้วยการเลือกจะเล่าเป็นดราม่าเต็มตัวทำให้จังหวะระทึกขวัญในบางเวลามันหนืด ๆ ช้า ๆ ไปเสียแล้ว ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Facebook : Netflix ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook : Netflix และ Netflix Korea จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !