Series Review Teasing Master Takagi-san แกล้งนัก รักนะรู้ยัง? (2024) ภาพสวยสบายตาดูแล้วดีต่อใจแม้อาจไม่มีอะไรนอกจากความน่ารักแต่บางครั้งพักเรื่องหนักๆมาดูอะไรแบบนี้บ้างก็แจ่มดี สารภาพว่าซีรีส์ญี่ปุ่นที่ท่านกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ไม่เคยอยู่ในสายตาไม่เคยมีความคิดและไม่สนใจที่จะดูแม้แต่นิดเดียว ด้วยหน้าเสื่อของเนื้อหาที่เป็นเรื่องความรักของเด็กๆวัยมัธยมต้นที่ผู้เขียนในวันที่วัยล่วงเลยจุดนั้นมาไกลมากไม่รู้สึกอินหรือสนุกอะไรแล้ว แม้ว่าผู้เขียนจะมีลูกชายคนเล็กที่วัยใกล้กันแต่บางครั้งวิถีของปัจจุบันไม่สามารถเทียบกับประสบการณ์ครั้งอดีตได้จึงได้แต่มองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ กระนั้นด้วยความที่ลูกชายคนเล็กของผู้เขียนที่โรงเรียนต้องหยุดเพราะน้ำท่วมได้กลับมาอยู่บ้านในช่วงนี้มาเห็นซีรีส์เรื่องนี้เข้าก็แนะนำแกมบังคับให้ผู้เขียนดูด้วยกันกับเขา เหตุเพราะนี่คือซีรีส์ที่สร้างมาจากมังงะที่เขาเป็นคนชอบอ่านมังงะสะสมมังงะจนผู้เขียนและคุณแม้บ้านระอาใจในบางเวลาแล้วแน่นอนเขาชอบดูอนิเมะ อย่ากระนั้นเลยทีแรกผู้เขียนก็กะจะดูไปแบบผ่านๆเพราะจำนวนตอนไม่มากเวลาฉายแต่ละตอนก็ประมาณอนิเมะหนึ่งตอนไม่เสียเวลาอะไร แต่เมื่อได้ดูเข้าจริงๆกลับมีอะไรมากกว่านั้นจนต้องมานั่งเขียนบทความกันในวันนี้ นิชิคาตะ (โซยะ คุโรคาวะ) เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่สองที่ต้องระทมหัวใจเมื่ออยู่ไปทุกวันต้องโดนแกล้งแบบที่เรียกว่าอำโดยทาคากิ (รูอิ สึคิชิมะ) เพื่อนนักเรียนหญิงที่นั่งโต๊ะข้างกันที่เขาเรียกเธอว่าทาคากิซัง แล้วในทุกวันเจ้านิชิคาตะที่ดูๆไปก็เจ้าจืดดีๆนี่เองก็พยายามเอาชนะหรือพยายามแกล้งทาคากิเพื่อเอาคืนบ้างสักครั้งแต่ทุกครั้งก็ลงเอยที่ตัวเองโดนทุกทีเป็นที่ขำขันยิ่ง กระนั้นทุกคนที่เห็นการแกล้งและถูกแกล้งของทาคากิกับนิชิคาตะทั้งเพื่อนนักเรียน ครู แม้กระทั่งคนดูยังรู้ว่าทาคากิชอบนิชิคาตะมีเพียงเจ้านิชิคาตะนี่ล่ะที่ยังทึ่มไม่รู้ตัว จนเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าเจ้าทึ่มนิชิคาตะก็เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงแต่ยังปากแข็งเหมือนพยายามทำเท่ไม่ให้เสียฟอร์มทั้งที่ทาคากิก็น่ารักมีเสน่ห์รอยยิ้มมาพร้อมลักยิ้มพิมพ์ใจปานนั้น ทว่าชีวิตก็เป็นแบบนี้จนเมื่อตาทึ่มนิชิคาตะรู้ตัวเต็มที่ทาคากิก็กำลังจะย้ายไปปารีสตามพ่อที่ย้ายที่ทำงาน ถึงตอนนี้เจ้าทึ่มนิชิคาตะก็เพิ่งมาบอกว่ายอมทำทุกอย่างให้ถูกเธอแกล้งซะงั้น เดินเรื่องเป็นมังงะร้อยเปอร์เซนต์ด้วยการซอยเป็นตอนในแต่ละการถูกอำให้ขำขันแต่นั่นก็คือการเล่าเรื่องที่ตรงไปตรงมา ถ้าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ทั่วไปบทและการเดินเรื่องแบบนี้ก็คือการเล่าเรื่อที่ไร้ชั้นเชิงเดินตรงปานท่อไม่มีอะไรพลิกผันให้เร้าใจ แต่เมื่อนี่คือการสร้างจากมังงะสิ่งที่เป็นก็คือการคงอารมณ์ความเป็นมังงะไว้ได้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูจนแม้คนที่ไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้มายังมองออก เพราะผู้เขียนเองก็เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นที่โดนลูกชายคนเล็กบังคับให้เรียกมังงะมามากพอดูก็พอรู้ว่าชั้นเชิงการเล่าเรื่องในแบบมังงะจะเป็นแบบนี้ นั่นคือเล่าเรื่องซอยเป็นตอนมีภารกิจเป็นตอนแล้วจบในตอนโดยซ้อนเรื่องเบื้องหลังอะไรก็ตามไว้เป็นการเดินทางระยะยาว และเรื่องนี้ภารกิจหลักคือการแกล้งที่ไม่รุนแรงถึงขนาดการบูลลี่แต่เป็นการแกล้งกันแบบขำๆที่วัยรุ่นข้างบ้านเรียกว่าอำทำให้เรื่องเดินไปอย่างมีพลัง แล้วซ้อนเรื่องของหัวใจในวัย Puppy love ที่ค่อยๆพัฒนาให้ต้องติดตามกันยาวๆและนั่นคือข้อดีของการเล่าเรื่องแบบมังงะที่ตรงไปตรงมา ่น่ารักแบบไม่มีพักดูแล้วยิ้มไม่หุบความสนุกอยู่ที่การแกล้งและถูกแกล้งกับความทึ่มของคนบางคน ส่วนที่เป็นพลังหลักและแรงดึงดูดที่ทำให้คนในวัยผู้เขียนที่อาจไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความรักแบบ Puppy love หรือมุขความรักแบบ Bubble gum ที่หวานอมเปรี้ยวสีสันฉูดฉาดแบบนี้ให้ดูสนุกได้คือความน่ารัก เพราะตลอดทุกตอนในแต่ละตอนความน่ารักจะไม่มีหยุดพัก ด้วยความน่ารักของตัวนักแสดงก็ส่วนหนึ่งแต่เสน่ห์ส่วนตัวจะไม่ได้ผลถ้าสิ่งที่ต้องการมอบให้คนดูไม่ตรงประเด็น นั่นคือเรื่องก็บอกตรงๆว่านี่คือเรื่องของปรมาจารย์ด้านการแกล้งทาคากิซังความสนุกจึงอยู่ตรงการแกล้งและการพยายามเอาคืนของคนที่ไม่ยอมรู้ตัวสักทีว่าคนที่แกล้งนั้นคิดอะไรอยู่ ความสนุกต่อมาคนดูรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่แต่ดันมีเจ้าทึ่มหนึ่งคนที่พยายามบ่ายเบี่ยงทำให้อยากรู้ว่าเจ้านี่จะรู้ตัวตอนไหน เมื่อทุกอย่างมารวมกันในระยะสั้นคือการแกล้งและการถูกแกล้งที่คนดูจะยิ้มไม่หุบแล้วความเพลินอีกอย่างคือพัฒนาการของความรักแบบเด็กๆในระยะยาว ด้วยเนื้อเรื่องที่เน้นตัวละครหลักสองคนแบบเนื้อๆไม่มีตัวละครรองแถวสองทำให้การแสดงอาจดูไม่มีมิติ ถ้าเป็นซีรีส์ทั่วไปมีหลายจุดที่เป็นข้อบกพร่องแน่นอนแต่เมื่อเป็นงานสร้างจากมังงะจากข้อบกพร่องกลายเป็นเสน่ห์ นั่นคือเรื่องนี้เน้นตัวละครหลักสองคนที่แถวแรกไม่มีแถวสองคือตัวละครรองหรือภาษาคนดูหนังดูซีรีส์คือคู่รองที่เหมือนจะมีแต่ไม่โดดเด่นพอจึงไปรวมอยู่กับตัวละครแถวสามที่เป็นตัวประกอบ เมื่อเน้นตัวละครหลักสองคนเนื้อๆสิ่งที่ชัดเลยคือเสน่ห์ซึ่งในตัวโซยะ คุโรคาวะเจ้าหนูจากหนัง Monster (2023) ในบทเจ้าทึ่มนิชิคาตะมีเสน่ห์ในแบบการ์ตูนทำให้งานที่สร้างมาจากการ์ตูนมีความเป็นการ์ตูน ส่วนรูอิ สึคิชิมะที่รับบทนำแถวแรกครั้งแรกกับบททาคากิในเรื่องนี้มีเสน่ห์ที่ละลายหัวใจคนดูได้ง่ายๆในแบบที่อยู่ใกล้ๆแล้วไม่มีใครไม่รู้สึกดีและได้รับพลังบวก ส่วนตัวละครแถวสามนั้นก็เป็นในแบบมังงะคือนิ่งๆแข็งๆไม่มีมิติใดเหมือนหน้าการ์ตูนที่คนอ่านจะโฟกัสไปที่ตัวละครหลักแต่ตัวข้างหลังเป็นแต่ของประกอบฉากเท่านั้น เป็นงานที่ดูสนุกดูเพลินภาพยังสวยตามสไตล์ญี่ปุ่นดูแล้วสบายตาเนื้อหาเบาๆขำๆดูแล้วสบายใจ การดูซีรีส์เรื่องนี้ที่ถ้าตั้งใจดูจริงๆรวดเดียวแปดตอนก็ประมาณสองชั่วโมงกว่าพอๆกับการดูหนังที่ยาวกว่าปกติสักเรื่อง แต่ด้วยการที่เรื่องเล่าในแบบมังงะหรืออนิเมะที่ซอยเป็นตอนเล่าเรื่องระยะสั้นเพื่อดึงความสนใจแล้วซ้อนเรื่องระยะยาวให้ต้องติดตามทำให้การจบในตอนก็เหมาะกว่า แต่ถ้าถามว่าการจบตอนต่อตอนมีพลังขนาดไหนก็ไม่ขนาดต้องอั้นฉี่เพื่อดูต่อแต่สิ่งที่เป็นคือเหมือนจะเรื่อยๆไม่มีอะไรแม้จะหยุดดูได้แต่ก็เทไม่ลงเพราะไม่ว่ายังไงก็ต้องดูต่อ เพราะนี่คืองานที่ดูแล้วมีรอยยิ้มได้ตลอดในแบบที่ยิ้มไม่หุบในทุกตอนตลอดทั้งแปดตอนทั้งยังมาพร้อมภาพสวยเพลงเพราะเช่นเคยทำให้ดูแล้วสบายตายิ่งเนื้อหาที่ไม่หนักดูแล้วผ่อนคลายทำให้กรดูซีรีส์เรื่องนี้เป็นการหย่อนใจชั้นดี เพราะบางครั้งชีวิตที่ต้องเผชิญอะไรหนักๆมาในแต่ละวันแล้วมาเจองานที่สนุกจริงดูแล้วผ่อนคลายไม่ต้องเปลืองกบาลไปคิดอะไรแบบนี้บ้างมันก็แจ่มดีมิใช่หรือ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก 1,ภาพปก 2,ภาพปก 3,ภาพปก 4,ภาพปก 5,ภาพปก 6 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Instagram tbs_drama_stream เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !