สวัสดีครับ วันนี้เรามาแนะนำ หนังแนวมาเฟีย ที่เพิ่งฉายในเน็ตฟลิกซ์ไปไม่นานดีกว่านะครับ ซึ่งก็คือ The Irishman นั่นเองครับผม เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมานี่เองครับ เป็นหนังแนว ชีวประวัติ / อาชญากรรม / ดราม่า โดยดูจากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าเป็นหนังแนวพูดคุย ไม่มีบทบู๊อะไรแบบนั้นนะครับ และในตัวหนังก็เป็นตามตัวอย่างหนังจริง ๆ สำหรับใครที่คาดหวังว่าจะมีแอคชั่นล้างผลาญ ตามสไตล์มาเฟีย ขอบอกตรงนี้ก่อนเลยนะครับว่าผิดหวังแน่นอน เอาล่ะ แต่ เดอะ ไอริชแมน คุ้มค่าแก่การดูไหม เราจะมาเล่าให้ฟังครับ โดยมีผู้กำกับฝีมือล้นเหลือ มาร์ติน สกอเซซี่เป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ครับ ด้วยความยาวหนังที่ยาวถึง 3 ชั่วโมงกับอีก 29 นาที เรียกได้ว่านานมาก แต่เรียกได้ว่าดูเพลินจนลืมเวลาไปเลยละครับ ด้วยฝีมือการตัดต่อ การเล่าเรื่อง ที่ฉับไว และมีเสน่ห์ ทำให้เราลืมเวลาเสียสนิท สำหรับนักแสดง เรียกได้ว่ามีแต่ยอดฝีมือก็ว่าได้ครับ นำแสดงโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร รับบทเป็น แฟรงค์ ชีลาน ตัวเอกของเราครับ ฝีมือการแสดงของลุงโรเบิร์ตนั้น เรียกได้ว่าหายห่วง ฮ่า ฮ่า ระดับรุ่นเก๋ามาก ตามด้วย อัล ปาชิโน ที่รับบทเป็น จิมมี่ ฮอฟฟา และ โจ เปสซี่ ที่รับบทเป็นรัซเซลครับ โดยหนังเรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงนะครับ หนังเล่าถึง แฟรงค์ (ลุงโรเบิร์ต) ที่รับจ้างทั่วไป มีอาชีพขนส่งเนื้อ ซึ่งจับพลัดจับพลูจนได้มาพบกับ รัซเซล ที่เป็นดังมาเฟีย ที่ใคร ๆ ก็ต้องห้ามปฏิเสธเขา และถูกชะตากัน จนทำให้ แฟรงค์ได้ขึ้นมาเป็นแนวหน้า หรือรุ่นใหญ่ในวงการครับ ก่อนที่จะไปทำงานกับ จิมมี่ ฮอฟฟา ที่เป็นประธานสหภาพแรงงาน ที่เป็นดั่งมาเฟียระดับท็อป ๆ เช่นกันครับ หนังเล่าเป็นเชิงชีวประวัติครับ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ซึ่งเราจะไม่สปอยล์นะครับ ว่าจะจบลงเช่นไร หนังเน้นบทพูดเป็นสำคัญ และมุกตลกแทรกบ้าง แต่ไม่ใช่หนังตลกนะครับ ทั้งหมดเป็น Bad joke ดังนั้นอย่างที่บอกในตอนต้นครับ คอหนังแนวแอคชั่นล้างผลาญ ไม่ถูกใจสิ่งนี้ ฮ่า ฮ่า แต่ทำไมถึงเป็นหนังที่น่าจดจำนั้น เพราะว่าบทพูด และการเล่าเรื่องทำให้เราเริ่มจาก ไม่รู้จักตัวละครเลย จะค่อย ๆ รู้สึกสนิท และผูกพันกับตัวละคร สำหรับคนที่ไม่เคยรับรู้เรื่องจริงของตัวละครเหล่านี้ ถึงรู้แล้วก็จะสนุกกับมันได้อยู่ดีครับ บ้างก็เอาใจช่วยขึ้นเรื่อย ๆ และมากขึ้นทุกทีครับ ดราม่าเลยแหละ เมื่อหนังดำเนินมาถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็มีจุดที่เป็นเหมือนทางแยกของทั้งหมด คล้าย ๆ เป็นปมที่ผู้กำกับค่อยๆขมวดมันขึ้นมาทีละปม ผ่านการแนะนำตัวละคร จนมาถึงจุดที่ปมต้องระเบิด หนังทำจุดนี้ได้ดีมากครับ ทั้งซาวน์ และการพาเราย้อนไปในยุคๆนั้น ทำให้เราอินไปกับตัวละครมาก ซึ่งมันจะทำให้เราหดหู่พอสมควรเลย และเข้าใจว่านี่คือ มาเฟียที่แท้จริง หรือชีวิตมาเฟีย นั่นเองครับสรุป เป็นหนังดี ที่น่าดูมากครับในสิ้นปีนี้ หนังดีในที่นี้ ไม่ใช่มันสนุก มันระเบิดระเบ้อกันมันตามสไตล์มาเฟียนะครับ มันเป็นหนังชีวประวัติที่ดีมาก ๆ งานหนึ่งเลย ตัวหนังกระชับ ใช้ 3 ชั่วโมงไปอย่างคุ้มค่ามาก ๆ บทพูดที่ไม่น่าเบื่อ (แต่ช่วงแรก ๆ ระหว่างการแนะนำตัวละครอาจมีหาวบ้างนิดหน่อย) บทบาทการแสดงที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นสุดยอด และจุดไคลแมกซ์คือสุดยอดของหนังมาเฟียครับ เป็นมาเฟียที่ไม่ต้องมีบทบู๊กันเยอะ แต่เข้าใจมันได้จริง ๆ ฉากจบที่ผมรู้สึกว่าชอบมาก ๆ นี่แหละคือชีวิตจริง ๆ ไม่ใช่นิยาย สรุปสั้น ๆ ว่าคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับ 3 ชั่วโมงครึ่งครับผม