จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลหลังผ่านยุคสูงสุดจากหนัง Avengers Endgame มา สิ่งที่แฟน ๆ ต่างกังวลมาเสมอก็คือกลุ่มตัวละครกลุ่มไหนจะมาเป็นกลุ่มตัวละครหลักที่คอยประคองความน่าสนใจจักรวาลมาร์เวลให้ไปต่อได้ในแบบที่กลุ่มอเวนเจอร์สรุ่นแรกเคยสามารถประคองภาพรวมและความน่าสนใจของจักรวาลมาได้ตั้งแต่เฟส 1-3 อีก ซึ่งในกลุ่มตัวละครที่มาร์เวลกำลังค่อย ๆ ทยอยหยอดบอกคนดูมาเรื่อยอยู่เล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่เฟส 4 มาก็คือคือกลุ่มฮีโร่วัยรุ่นหลากหลายความสามารถที่น่าจะปูทางไปยังหนังรวมทีม Young Avengers ซึ่งสมาชิกแต่ละคนของทีมก็ได้ทยอยมีคิวเปิดตัวไปกันเรียบร้อยจนกระทั่งถึงคิวล่าสุดของตัวละคร "รีรี" เจ้าของฉายา Ironheart ว่าที่สมาชิกทีม Young Avengers ในภาคภายหน้าอนาคตกับตัวละครสายเทคความสามารถแตกต่างให้อารมณ์ที่ลงตัวแบบตอนรวมทีมแบบพอดิบพอดี ก็ถึงเวลามีซีรีส์ฉายเดี่ยวเป็นของตัวเองเสียที รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Ironheart ซีรีส์มาร์เวลที่ฝ่าฟันข้อครหามากมายได้เกินคาด แม้จะยังไม่เหนือความคาดหมายก็ตาม เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ของมาร์เวลที่มีกระแสวิพากย์วิจารณ์แง่ลบมากพอสมควรตั้งแต่ก่อนจะเข้าฉาย ผสมปนเปที่ส่วนหนึ่งมาจากตัวคุณภาพของทางค่ายเองที่หลัง ๆ มักผลิตผลงานออกมาได้คุณภาพไม่คงที่ จึงเป็นที่ถกเถียงของแฟน ๆ ตามปกติของแฟนดอม ความรู้สึกหลังดูจบ ซีรีส์ Ironheart ดีเกินคาดสามารถฝ่าฟันคำวิพากย์วิจารณ์มาได้ ทำหน้าที่เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวซุปเปอร์ฮีโร่ตามสไตล์ค่ายแบบเดิมที่รู้จักแต่เพิ่มเติมคือการใส่ DNA เล่าแบบวัยรุ่นลงไป ทำให้รูปแบบและมิติตัวละครการเล่าเรื่องมีความต่างจากเรื่องอื่นเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นส่วนที่เราชอบในมาร์เวลเฟสหลัง ๆ คือการทำบทตัวละครให้มีมิติแบบสายสีเทา ไม่ได้เป็นตัวร้ายและไม่ได้เป็นตัวดีจ๋า ๆ ซึ่งเป็นอีกเอกลักษณ์ที่มีความเป็นคนแตะต้องได้ง่ายมากขึ้นจากเฟสก่อนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าทำให้แฟน ๆ ต่างเสียงแตกและพาลไม่ชอบตัวละครนี้ได้ ตัวซีรีส์แนะนำเรื่องราวของเทคโนโลยีและเวทย์มนตร์ออกมาได้น่าสนใจ แต่ก็ยังไม่เหนือความคาดหมายชนิดประหลาดใจยังคงเป็นรูปแบบเดิม ๆ ที่เราจับทางมันได้หลายครั้ง การเจอกันครึ่งทางของ "เทคโนโลยี" และ "เวทย์มนตร์" สามตอนแรกซีรีส์ค่อนข้างกะท่อนกะแท่นกับการเล่าเรื่องราวของสองตัวละครอย่าง รีรี และ The Hood ที่คนแรกเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจ๋าโดยตรง ด้วยปมของตัวละครที่ค่อนข้างจะดื้อรันไม่ค่อยฟังใครตามสไตล์วัยรุ่นที่พอจะเข้าใจ ที่ทำออกมาสนุกดีและสถานการณ์บางอย่างที่เธอจำเป็นต้องทำเพื่อไปสานสิ่งที่เธอรักทำให้มาเจอกับตัวละครของ The Hood ตัวละครของเขาก็น่าสนใจเช่นกันที่พาเราไปได้รู้จักกับศาสตร์ เวทย์มนตร์ พร้อมปมในใจของเขา ถึงแม้สองศาสตร์นี้จะดูไม่ค่อยลงตัวดูคนละทิศคนละทางแต่ก็สร้างความน่าสนใจเล็ก ๆ อีกครั้งในจักรวาลมาร์เวลนี้ได้ในการเดินทางมาทางเวย์นี้ การขมวด เทคโนโลยี กับ เวทย์มนตร์ ตอบคำถามปมของเรื่องได้เข้าใจ จนกระทั่งสามตอนสุดท้ายที่สามารถเล่าเรื่องจากสองตัวละครที่แนะนำศาสตร์สองศาสตร์ที่ต่างกันมาขมวดเข้ากันจนได้อย่างลงตัว ด้วยปมของตัวละครที่มาพร้อมเงื่อนไขที่สะท้อนความเป็นมนุษย์เทา ๆ ในตัวทุกคนที่มุ่งหาผลประโยชน์ด้วยการเชื่อมโยงไปถึงตัวละครตัวร้ายหลักที่ตัวซีรีส์ซ่อนไว้ได้กระจ่างหลังค่อนข้างขุนมัวมาจากสามตอนแรก นี่เป็นอีกซีรีส์มาร์เวลที่เขียนบทในแง่ตัวละครในบทสรุปของเรื่องราวสอดคล้องกับปมที่เล่ามาแต่ต้นได้ปิดจบในตัว ไม่ถูกทิ้งระหว่างทางหรือถูกความเป็นฮีโร่แย่งซีนจนแก่นเรื่องจางลงไป แม้จะจบไม่ได้มัดใจคนดูไปร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยการจบไม่ค่อยจะกฎตายตัวของหนังฮีโร่ที่ตัวเอกมักจะเป็นคนดีและมีพัฒนาการตัวละครตามธรรมเนียมเดิมก็ตาม โดดเด่นด้วยกิมมิคบางอย่าง แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าฟันไปให้โดดเด่นกว่าเพื่อนในค่าย ภาพรวมแม้จะห่างไกลจากคำว่าแย่มาก ๆ ของตัวซีรีส์ในค่ายกันเองและคุณภาพออกจะดูดีตามมาตรฐานเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยค่ายหนังที่มากไปด้วยซีรีส์และหนังกว่า 40 เรื่อง การทำซ้ำผลิตซ้อนมูดโทนไม่แตกต่างจึงเป็นธรรมชาติที่ยากจะปฏิเสธว่าตัวคอนเทนต์ที่ว่าจะถูกลืมได้ง่าย เช่นเดียวกับตัวของ Ironheart แม้จะมีความแตกต่างด้วยกิมมิคตัวละครความสามารถที่หลากหลาย แต่ภาพรวมความสนุก ความดีของงานสร้างและตัวบทถูกวาางออกมาได้เรียบง่าย ไม่ค่อยน่าสนใจ จึงเป็นอีกคอนเทนต์ที่ยังไม่สามารถปีนขึ้นมาให้แตกต่างจากเพื่อนได้สำเร็จ ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Instagram : marvellatam ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 - ภาพที่ 3 จาก Instagram Marvel Studios จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !