เราพูดกันมานานเรื่องจรรยาบรรณสื่อกับความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดตามมาจากเนื้อหาข่าวสาร แน่นอนว่าจรรยาบรรณ วิชาชีพ องค์ประกอบต่าง ๆ ในความเป็นสื่อมวลชนนั้น มันถูกทับซ้อนด้วยคำว่าธุรกิจ แล้วใครเล่าจะตอบได้ว่าความสมดุลจะอยู่ตรงจุดไหนดี? ก็ในเมื่อสื่อที่ไม่มีคนอ่าน ไม่มีคนดู ก็ไปไม่รอด ก็ในเมื่อเรตติ้งเป็นประตูบานแรกของทุนที่จะก้าวเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ ในยุคที่โลกใบนี้หมุนได้ด้วยกระแส ความรวดเร็วของข่าวสารเป็นเรื่องที่มนุษย์ต่างโหยหา แล้วการตรวจสอบล่ะ? ใครจะทำหน้าที่นั้น ทุกอย่างมันผูกกันเป็นห่วงโซ่ และนี่คือหนังที่ตอบโจทย์เรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างเจ็บแสบเป็นที่สุด The Terror Live ชนวนเหตุ เหยื่อเรตติ้งThe Terror Live อีกหนึ่งภาพยนตร์ทุนต่ำ ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด จนได้รับคัดเลือกให้เป็นภาพยนตร์ที่ฉายปิดเทศกาล Puchon International Fantastic Film Festival บทภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาเหมือนเรากำลังนั่งดูการจัดรายการสด ที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น โดย ยุน ยองฮวา (Ha Jung-woo) เป็นอดีตผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังที่ตกอับและถูกย้ายมาจัดรายการวิทยุ รายการได้เปิดสายโทรศัพท์เพื่อรับฟังปัญหาต่าง ๆ แต่กลับปรากฎว่ามีสายนึง โทรเข้ามาบอกว่ามีข้อเรียกร้อง ถ้าไม่ทำตาม จะระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำฮันที่อยู่ใกล้ ๆ ตึกของสถานีโทรทัศน์ทิ้ง ยองฮวา ก็เห็นว่าเป็นเรื่องเลอะเทอะ เลยพูดส่ง ๆ ก่อนตัดสายทิ้งไปว่า ก็ลองทำดู ปรากฎว่าพอวางสายสะพานก็ระเบิดทันทีเมื่อเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว หลังรวบรวมสติกลับมาได้ เขากลับเห็นว่าเหตุครั้งนี้จะทำให้เขาหวนคืนสู่รายการโทรทัศน์ได้อีกครั้ง หากเขาสามารถเรียกเรตติ้งอย่างถล่มทลายให้กับสถานี เขาจึงได้โทรไปต่อรองกับชา แด-อึน (Lee Geung-young) ผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการ เพื่อขอกระชับพื้นที่ของเขาคืน โดยใช้เทปการโทรเข้ามาของคนร้ายเป็นเงื่อนไข และให้มีการถ่ายทอดสดรายการที่เขาจะจัด โดยพูดคุยกับคนร้ายให้ผู้ชมได้ติดตาม เพื่อหวังเรียกเรตติ้งรายการให้พุ่งทะยาน ทำกำไรให้สถานีและกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมที่เขาเคยเป็น หนังก็เดินเรื่องไปแบบให้ลุ้นระทึกกับความต่อเนื่องทั้งเบื้องหน้าการต่อรองกับคนร้าย และเบื้องหลังการต่อรองกับทางสถานี เทคนิคในการนำเสนอข่าว วิธีต่าง ๆ ของสถานีโทรทัศน์ เพื่อให้ได้ข่าวก่อนช่องอื่น รวมไปถึงวิธีการสกปรกในการติดสินบนคนร้ายเพื่อสร้างข่าว ทุกสิ่งถูกนำมาใช้ในห้องส่งแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยการวางแผนหักเหลี่ยมกันในความเป็นจริงนั้นเราไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่า ต่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นตรงหน้า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบมากกว่าใคร ทั้งที่ข้อเรียกร้องของคนร้ายก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพียงขอให้ประธานาธิบดีออกมาขอโทษครอบครัวคนงานที่เสียชีวิต ในระหว่างที่สะพานมาโปที่ถูกระเบิดไปก่อนหน้านั้นนั่นเอง แน่นอนว่ารัฐบาลย่อมปฏิเสธการเจรจากับคนร้ายที่ยกระดับเป็นผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะผลจากคำขอโทษ อาจจะนำมาซึ่งการเปิดแผลทุจริตในอดีต ซึ่งจะยากเกินแก้ไขเยียวยา การยื้อกันไปยื้อกันมาของทุกฝ่ายนั่นเองที่เป็นชนวนระเบิดครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่โหดร้ายใบนี้ ทุกคนต่างพยายามยัดเยียดให้คนอื่นเป็นคนผิดตลอดเวลา พยายามสร้างปีศาจขึ้นมาเพื่อตัวเองจะได้เป็นนักบุญ สื่อมวลชนก็เช่นเดียวกัน การเล่นกับความรู้สึก ใช้ความเป็นความตายมาเป็นเครื่องต่อรอง นับเป็นความเลวร้ายที่ให้อภัยไม่ได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ต้องสรุปเรื่องทั้งหมดไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง จนยอมแม้กระทั่งละทิ้งประชาชนให้ตายลงไปอย่างไม่แยแสThe Terror Live ของผู้กำกับ Kim Byung-woo ที่เขียนบทเองด้วยนั้น ใช้ฉากถ่ายทำเพียงไม่กี่ฉาก หลัก ๆ คืออยู่ในห้องส่งรายการวิทยุ ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องส่งถ่ายทอดสดเรื่องการเจรจาต่อรอง หนังผูกปมทั้งเรื่องการเจรจาต่อรอง และเรื่องของปมส่วนตัวเอาไว้ด้วยกัน แต่บทของหนังกลับไปได้ไกลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตื่นเต้นทุกนาที ตรึงผู้ชมไว้กับหน้าจอได้อย่างไม่น่าเชื่อกับการชิงไหวชิงพริบของหลายฝ่าย อย่างที่บอกว่าเป็นหนังต้นทุนต่ำ ที่กอบโกยรายได้ไปอย่างมากมาย ได้คะแนนจาก Imdb ไปถึง 7.2 ไม่เพียงแต่รายได้เท่านั้น The Terror Live ยังได้รับรางวัลมากมาย รางวัลเขียนบทยอดเยี่ยม และรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้จากหลาย ๆ เวที Ha Jung-woo เองก็ได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวที Busan Film Critics Awards และ Golden Cinema Festival สามารถติดตามชม The Terror Live หนังที่มีบทและการแสดงที่ยอดเยี่ยมได้แล้ว ที่ 🎞 Netflix ผ่านทางกล่อง TrueIDThe Terror Live (2013, South Korea, Action Thriller)กำกับ/เขียนบทโดย Kim Byung-woo นำแสดงโดย Ha Jung-woo, Lee Geung-young, Kim So-jin ขอบคุณภาพปก ภาพประกอบจาก Official Poster imdb และ Netflix