รีเซต

สู่อีกสเต็ปเหนือจินตนาการ "ขุนพันธ์ 3" ยกระดับต่างจากภาคก่อนอย่างไร?

สู่อีกสเต็ปเหนือจินตนาการ "ขุนพันธ์ 3" ยกระดับต่างจากภาคก่อนอย่างไร?
Jeaneration
14 กุมภาพันธ์ 2566 ( 21:00 )
238

จากภาคที่แล้ว ผู้กำกับใช้เวลาถึง 4 ปีก่อนที่จะกลับมาพร้อมการปิดไตรภาคอย่างสมศักดิ์ศรีใน “ขุนพันธ์ 3” โดยกลั่นกรองจากประสบการณ์ทั้งหมดและถ่ายทอดภาพที่มองเห็นอย่างชัดเจนผ่านบทภาพยนตร์คุณภาพ คาแร็กเตอร์นักแสดงตัวฉกาจ ทีมงานระดับมืออาชีพ โลเคชันสุดละเมียด และรายละเอียดที่ตอบโจทย์เรื่องราวแบบเต็มร้อยในทุกขั้นตอน ที่ขาดไม่ได้คือการเผชิญหน้ากับบททดสอบของอุปสรรคสำคัญ ศัตรูร้ายที่พร้อมกลืนกินจิตวิญญาณและท้าทายความศรัทธาแบบไม่แพ้สองภาคแรก 

“ในภาคนี้สิ่งที่ ‘ขุนพันธ์’ ต้องเผชิญคือวันพิพากษา เพราะถึงแม้กระทั่งในตัวขุนพันธ์เองที่มีการปราบโจรโดยใช้ความรุนแรงมาตลอดเวลา ครั้นพอยุคสมัยเริ่มเปลี่ยน มีคนบอกว่าเฮ้ย...นี่มันเครื่องจักรสังหารของคนรุ่นเก่า มันไม่ใช่ยุคของขุนพันธ์ มันควรจะหมดยุคไปได้แล้วกับวิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยุคนี้มันคุยกันด้วยศาล คุยกันด้วยเหตุและผล กฎหมายไม่ใช่แบบนั้น ขุนพันธ์ควรถูกพิพากษา เขาไม่ใช่ผู้ดำรงความถูกต้อง เขาคือโจร นี่คือ Conflict แรกที่ขุนพันธ์ต้องเจอ และในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญหน้ากับโจรผู้เก่งกาจอีกสองคนคือ ‘เสือมเหศวร’ และ ‘เสือดำ’"

"และทันทีที่มุมมองและแนวความคิดดังกล่าวถูกส่งต่อไปยัง “อนันดา เอเวอริงแฮม” ที่มีส่วนร่วมในการสร้าง และพัฒนาตั้งแต่ตัวบุคลิก คาแร็กเตอร์ และสร้างลมหายใจให้วีรบุรุษมือปราบเหนืออาคมในตำนานโลดแล่นมีชีวิตบนแผ่นฟิล์มมาตลอด 10 ปี เขาก็รู้สึกเห็นชอบกับไอเดียและแนวความคิดดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความตั้งใจที่อยากให้ภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” มีพัฒนาการและความแปลกต่างในทุกๆ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นแอ็กชันดีไซน์ รูปแบบอาคม โปรดักชันงานสร้าง โลเคชัน ไปจนถึงเรื่องราวและภารกิจปราบเสือ การเข้าร่วม “จักรวาลขุนพันธ์” ผ่านมิติของตัวละครใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสร้างสีสันและสะท้อนให้เห็นหลากหลายแง่มุมรวมถึงพัฒนาการของตัวขุนพันธ์เองด้วย"

"เพราะ ‘ขุนพันธ์’ คือตัวละครที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว อันนี้ต้องยอมรับ 10 ปีของชีวิตผม มันคือ 1 ใน 4 ของชีวิตที่อยู่กับตัวละครตัวนี้ แล้วถ้าพูดถึงจำนวนปีที่ผมอยู่ในวงการ มันก็คือเวลาครึ่งหนึ่งในวงการที่ผมอยู่กับตัวละครตัวนี้ จะไม่ให้มันซึมเข้ามาในร่างของผมเลยคงเป็นไปไม่ได้ พอเราเดินทางมาถึงปีที่ 10 เราก็คุยกันกับพี่โขมไว้ว่านี่อาจจะเป็นภาคสุดท้ายที่เราทำด้วยกัน บางมุมของตัวละครที่เรารู้สึกว่ายังไม่ได้แตะในสองภาคแรก หรือเกี่ยวกับเรื่องอาคม เรื่องมิชชันต่างๆ เราอยากเห็นมุมมองของท่านในแง่คนหนึ่งคน เราก็เลยคุยกันว่าภาคนี้จะเป็นภาคที่เราได้เห็นด้านที่เป็นมนุษย์มากที่สุดของท่านขุน"

"ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฃองครอบครัวท่าน กำลังจะเป็นพ่อคน ความสัมพันธ์กับภรรยา รวมไปถึงอะไรที่มันซับซ้อน ไม่ว่าจะเรื่องของความกลัวตาย การมีชีวิตเพื่อคนอื่น ซึ่งมันก็จะเป็นมุมที่น่าสนใจ เป็นมุมมองที่ในฐานะนักแสดงเราค่อนข้างชอบ เพราะมันก็เปิดพื้นที่ให้กับตัวละครตัวนี้เพิ่ม พี่โขมรู้สึกว่าภาคนี้เราอยากเห็นมุมที่เป็นมนุษย์มากขึ้น มันว่ากันด้วยความอยู่รอด ทำไงก็ได้ให้มันอยู่รอด เพราะว่ามันมีสัญญาตั้งแต่ต้นแล้วว่าฉันจะกลับมา มันก็เลยแบกตรงนี้ไว้ตลอดเวลาว่าเราสู้สุดชีวิตก็จริง แต่ว่ามันก็มีคนอื่นรออยู่ ไอ้ตรงนี้มันทำให้ตัวละครมันน่าสนใจ มันทำให้ตัวละครมีมิติเพิ่มขึ้น” 

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa