อันดับหนังทำเงินเมืองไทย "No Time to Die" เปิดตัวเพิ่มชีวิตชีวาให้พื้นที่โรงหนัง
ข่าวสารวงการหนัง No Time to Die
ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ที่โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง และก็มาพร้อมกับหนังใหม่ล็อตใหญ่และฟอร์มใหญ่ด้วย ซึ่งก็ไม่ได้ผิดคาดอะไรเพราะว่า "No Time to Die" ภารกิจการสวมบทบาทเป็น เจมส์ บอนด์ 007 ครั้งสุดท้ายของ "แดเนียล เคร็ก" ขึ้นแท่นกลายเป็นแชมป์หนังเมืองไทยเรื่องนี้ไปได้อย่างสบายๆ แม้ว่าความยาวของหนังจะเป็นอุปสรรคในการทำรอบฉายก็ตาม
ตัวเลขรายได้บ็อกซ์อออฟฟิศเมืองไทยอย่างเป็นทางการนั้น ยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา แต่มีรายงานตัวเลขจากสื่อต่างประเทศ อย่าง Deadline และ BoxofficeMojo ต่างระบุตัวเลขที่ใกล้เคียงกันว่า No Time to Die เปิดตัวได้ค่อนข้างน่าพอใจในตลาดหนังเมืองไทย หลังจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ กับรายได้ประมาณ 22 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากที่ "Black Widow" เคยเปิดตัวเอาไว้สัปดาห์ก่อนเกือบ +300%
แต่ No Time to Die ก็ยังไม่ใช่หนังที่เปิดตัวได้แรงที่สุดของไทยในปี 2021 เพราะเจ้าของสถิตินี้นั้นยังคงเป็นของ "Godzilla vs. Kong" ที่เปิดตัวเอาไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนจะมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ที่ทำรายได้เปิดตัวไว้ได้สูงถึง 85.3 ล้านบาท ที่ช่วงนี้อาจจะยังยากที่มีหนังเรื่องไหนจะโค่นได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะยังมีหนังฟอร์มยักษ์อีกหลายเรื่องจดจ่อไปถึงปลายปีนี้
No Time to Die ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกที่เข้าฉายในระยะเวลาไล่เลี่ยกับตลาดหนังอื่นๆ ทั่วโลก หลังจากที่โรงภาพยนตร์เมืองไทยต้องอยู่ภายใต้มาตรการไปนานกว่า 5 เดือน และทำให้หนังฟอร์มใหญ่เรื่องต่างๆ ยังค้างโปรแกรมฉายและไร้ความสดใหม่ เนื่องจากฉายล่าช้ากว่าที่อื่นๆ อีกทั้งยังเผชิญหน้ากับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาเป็นตัวเลขในการแย่งรายได้ของหนังไปด้วย
จากกรณีของ No Time to Die จึงเป็นกรณีศึกษาที่เห็นได้ว่า พลังของคนดูหนังในเมืองไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง หากเป็นหนังฟอร์มใหญ่ฟอร์มดีที่ทันกระแสโลกในปัจจุบัน พวกเขาก็พร้อมที่จะออกจากบ้านมาตีตั๋วดูหนัง ภายใต้มาตรฐานการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นที่ยังคงถูกนำมาใช้ในกิจการโรงภาพยนตร์ของไทย
ขณะที่รายได้หนังเปิดตัวใหม่เรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้มีการรายงานตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทราบว่า "Free Guy" เป็นหนังใหม่ที่เปิดตัวตามมาเป็นรองแชมป์ในอันดับที่ 2 ของบ็อกซ์ออฟฟิศเมืองไทยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าเปิดตัว 4 วันแรกกับรายได้ตามมาห่างๆ ที่ประมาณ 4-5 ล้านบาท โดยที่โปรแกรมหนังทางเลือก "Supernova", "Earwig and the Witch" หรือ "Hunted" ยังไม่มีตัวเลขรายงานออกมา
ส่วนรายได้ของ Black Widow ก็ดร็อปลงไปตามธรรมเนียม เพราะถูกลดรอบฉายลงไปให้กับหนังเข้าใหม่แทน ประกอบกับหนังได้เปิดตัวฉายผ่านบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ขณะนี้หนังทำยอดรวมในไทยจดจ่อได้ที่เกือบๆ 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้มีวันหยุดราชการที่สำคัญ ทำให้โปรแกรมหนังส่วนใหญ่เลื่อนมาฉายตั้งแต่วันพุธ และหนังฟอร์มใหญ่อีกเรื่องที่จะตามมาก็คือ "Shang-Chi and Legend of the Ten Rings" หนังมาร์เวลเรื่องล่าสุด ที่คาดว่าน่าจะได้รับกระแสต้อนรับการแฟนๆ หนังชาวไทยอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะออกฉายล่าช้ากว่าที่อื่นเป็นเดือนๆ แล้วก็ตาม
----------------------------------------------------
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa