ใครที่ยังไม่เคยดู "The Last Summer" คิดว่าหนังเรื่องนี้สนุกมั้ย หลังจากดูตัวอย่างหนังไป คิดว่าเป็นหนังรักที่น่าดูมาก น่าจะเติมเต็มความฝัน และเป้าหมายให้กับวัยรุ่นหลาย ๆ คน แต่ต้องลองไปดูของจริงก่อนนะ ถ้า 10 นาทีแรกไม่สนุก ก็คงไม่อยากดูต่อแล้ว จริงไหม?เปิดเรื่อง 10 นาแรกก่อนหมดวันหยุดฤดูร้อน 72 วัน ก่อนที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายไปเรียนต่อ กริฟฟิน เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน เขาไปปาร์ตี้กับเพื่อน และก็เจอกับสาวที่เขาเคยแอบชอบ ฟีบี เธอกำลังทำสารคดีเกี่ยวกับคู่รักอยู่ และดูเหมือนว่าเธอจะเคยมีใจให้ กริฟฟิน เช่นกัน ส่วนทาง อเล็ก ก็ตกลงหยุดความสัมพันธ์กับแฟนสาว เอลิน และก้าวต่อไปอย่างรวดเร็วไปคบกับสาวสุดฮ๊อตอย่าง เพจ ส่วนหนุ่มสุดหล่อ ฟอสเตอร์ ก็ยังคงถูกสาวเมินต่อไป แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ เพราะมีแผนว่าจะฟันสาวฮ๊อตในโรงเรียนทั้งหมดก่อนจบซัมเมอร์ ส่วนเรื่องที่เหลือจะเป็นอย่างไรต้องตามชมต่อไปความประทับใจแรก• ชอบความมีชีวิตชีวาของบรรยากาศในหนัง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและคิดถึงวัยเรียน คิดถึงเพื่อนและการสังสรรค์ ก่อนที่จะมีโควิด-19 ชีวิตเคยเต็มที่และสนุกสุดเหวี่ยงไปเลยเนอะ อยากร้องไห้ อะไร ๆ ก็ผ่านพ้นไปไวเสียเหลือเกิน ชีวิตของ กริฟฟิน และเพื่อน ๆ ก็เช่นกัน หนังสร้างอารมณ์ดึงดูดคนดูให้ติดตามได้ดีมาก• ชอบการดำเนินเรื่องแบบโฟกัสตัวละครทุกตัว ทำให้เห็นมุมมองของตัวละครแต่ละคน นอกจากเรื่องจะเน้นที่ตัวเอกอย่าง กริฟฟิน และ ฟีบี แล้ว ยังถ่ายให้เห็นชีวิตของแต่ละคนอีกด้วย ไม่ว่าจะเปฺ็นคู่ อเล็ก กับ เอลิน หรือ ฟอสเตอร์ เอง คนดูก็ลุ้นไม่น้อย ที่จะติดตามว่าพวกเขาจะมีจุดหมายปลายทางอย่างไร การดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้รู้สึกไม่เบื่อ มีหลายรสหลายอารมณ์ ได้ข้อคิดมุมมองมากมายประเด็นที่น่าจับตา• ข้อคิดที่ได้จากหนังคือ เวลามันผ่านไปไว ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า "Live every moment, love every second, take every chance..." แปลว่า "ใช้ชีวิตให้คุ้ม รักให้กับทุกวินาที เสี่ยงให้กับทุกโอกาส..." คำพูดเหล่านี้ปรากฏอยู่ในตัวอย่างหนัง และเป็นข้อคิดสำคัญที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อถึงคนดู คือชีวิตคนเรามันสั้น และก็ผ่านไปเร็ว ดูอย่างตัวละครในเรื่อง แต่ละคนก็มีปัญหาที่ต้องสะสาง มีความฝันจะต้องไขว่คว้า บางความสัมพันธ์จบลง บางความรักเกิดขึ้นใหม่ อย่ากลัวที่จะใช้ชีวิต ก้าวต่อไปและลิ้มรสมัน• ความรักของวัยรุ่นอเมริกัน แค่ผิวเผินกันทุกคนใช่ไหม จากในหนังหลายคู่แสดงให้เห็นว่า ระยะทางและการเติบโตเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ ทำให้หลายคู่ไปไม่รอด พวกเขาเลือกที่จะเลิกกัน ก่อนที่จะแยกย้ายไปเรียนคนละที่ ดีเสียกว่าทนคบต่อไป อย่างเช่น อเล็ก กับ เอลิน วัยรุ่นอเมริกันตัดสินใจเร็วในเรื่องความรัก หุนหันพลันแล่นเกิน จนอาจดูเป็นความรักที่ผิวเผินปมที่น่าติดตาม• แต่ละคู่จะลงเอยอย่างไร กริฟฟิน กับ ฟีบี จะได้คบกันและรักกันไหม ส่วน อเล็ก กับ เอลิน จะเลิกกันจริง ๆ หรือเปล่า จะต้องติดตามชมต่อ เพราะเราเดาไม่ถูกเลยว่าผู้สร้างต้องการให้เป็นแบบไหน แต่ถ้าให้ผู้เขียนเดา ตอนสุดท้ายยังไง อเล็ก กับ เอลิน น่าจะเลิกกัน เพราะด้วยเรียนคนละมหาวิทยาลัย แต่ทั้งสองก็ยังคุยกันเป็นเพื่อนได้ ส่วนคู่ กริฟฟิน กับ ฟีบี มีลุ้น เพราะทั้งสองดูจะเป็นรักแท้ของกันและกัน• แต่ละคนจะเดินตามความฝันแบบไหน ไปเรียนต่อที่ไหนกันบ้าง อยากรู้จริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องมิตรภาพของเพื่อน ๆ ที่ต้องห่างไกลกัน สุดท้ายจะจบลงยังไง เรื่องนี้จะสะท้อนให้วัฒนธรรม ความคิดของวัยรุ่นในอเมริกาได้ดีมาก ความทะเยอทะยานในประเทศที่ใหญ่ และทุกคนล้วนอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง สุดท้ายแต่ละคนจะสานฝันอย่างไร ต้องติดตามชมหลังจาก 10 นาที ต้องขอดูต่อจริง ๆ "The Last Summer" ไม่ดูไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เลยว่าพระเอกนางเอกจะรักกันยังไง ยังมีตัวละครหนุ่มนักเบสบอล ที่จะมาจีบ เอลิน ยังไม่ออกมาด้วย อยากรู้ว่าพวกเขาจะตกหลุมรักกันยังไง เรื่องนี้จะหวานซึ้ง จะกินใจแค่ไหน อย่างดูแค่ตัวอย่าง ไปดูของจริงเลยที่ netflix ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : netflix.com ผู้เขียนบทความดัดแปลงภาพจากหน้าปกตัวอย่างหนัง Official ของ Netflixขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก : netflix.com ผู้เขียนบทความบันทึกภาพจากตัวอย่างหนัง Official ของ Netflix