“แนะอนิเมะ” + #ขอรีวิว JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ “แนะอนิเมะ” JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ MAPPA STODIO คุณมาซาโอะ มารุยามะ (Masao Maruyama) ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความจงใจจงรักในงานศิลป์ของเขาเอง ในปี 2011 เสริมทัพด้วย คุณมานาบุ โอซึกะ (Manabu Ohtsuka) ประธานบริษัท,คุณซูนาโอะ คาตาบูจิ (Sunao Katabuchi) ที่เคยกำกับอนิเมะ Black Lagoon (อนิเมะแนวต่อสู้และแนววัยรุ่นในปี พ.ศ. 2549),คุณชินิจิโระ วาตานาเบะ (Shinichiro Watanabe) ที่เคยกำกับงานอย่าง Cowboy Bebop (อนิเมะแนวผจญภัยในปี พ.ศ.2541) MAPPA STODIO ก็ส่ง In This Corner of the World แค่วาดฝันให้โลกสวย (2016) ลงจอเงิน อนิเมะแนวชีวิตและสงคราม ที่สร้างมาจากมังงะ หนังคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาล 38th Yokohama Film Festival และคว้ารางวัลภาพยนตร์แห่งสันติภาพ ใน Hiroshima International Film Festival และ MAPPA STODIO ก็ได้ตัว คุณคาโนะ โยโกะ (Kanno Yoko) มาทำเพลงประกอบ หากจะว่าไปผู้เขียนเองก็หยิบ MAPPA STODIO ก็กลับมายืนเด่นอีกครั้งเมื่อส่ง Attack On Titan ลงสนาม และส่ง JUJUTSU KAISEN มาปีนี้ก็จัดเต็มกับ JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ กำกับโดย ปาร์ค ซองฮู เพลงประกอบสุดเพราะก็ได้วง King Gnu ที่มาพร้อมกับเพลงอย่าง Ichizu (the only way)ที่ได้นักพากย์มากฝีมืออย่าง เมกุมิ โอกาตะ (พากย์เสียง อคคทสึ ยูตะ)นากามูระ ยูอิจิ (พากย์เสียง โกโจ ซาโตรุ)ฮานาซาว่า กานะ (พากย์เสียง โอริโมโตะ ริกะ)ทางทีมพากย์ไทยก็ไม่น้อยหน้ายกทีมพากย์มามากมายอย่าง อ๊ะอาย กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ (พากย์เสียง โอริโมโตะ ริกะ)เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม (พากย์เสียง อินุมากิ โทเกะ)บีมเซนเซย์ สิษฐารัตน์ ปี่ทอง (พากย์เสียง มิมิโกะ)ต้อม พิทักษ์เสริม เฉลิมจักร (พากย์เสียง มิเกล)ขวัญกมล ขาวไพศาล (พากย์เสียง มิวะ คาสุมิ)อุกฤษณ์ ดิษฐากรณ์ (พากย์เสียง เกะโท สุงุรุ)กรรัตน์ วงศ์เวชสวัสดิ์ (พากย์เสียง นานาโกะ)รุจิระ ขจีเจริญ (พากย์เสียง อิจิจิ คิโยทากะ)อิทธิพล มามีเกตุ (พากย์เสียง นานามิ เคนโตะ)ธนกฤต เอ็นดูรัศมี (พากย์เสียง โทโด อาโออิ)สรวิศ ตงเท่ง (พากย์เสียง คุซาคาเบะ อัทสึยะ)ปพิชญา แสวงผล (พากย์เสียง อิเอะอิริ โชโกะ)วิภาดา จตุยศพร (พากย์เสียง เมเม)ศักราช อ่ำส้ม (พากย์เสียง คาโมะ โนริโทชิ)กฤตธี มุมทอง, ขจรภพ อินทร์ชิน และ ภูมิใจ องค์สุระชัย พากย์ตัวละครสมทบ รอติดตาม#ขอรีวิว JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่จัดว่าสุดต็าซกับเรื่องราวที่ JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ นำเสนอกับเรื่องราวต่างๆของโรงเรียนไสยเวทย์ และเรื่องราวก่อนที่จะมีการเดินเรื่องใน JUJUTSU KAISEN มหาเวทย์ผนึกมาร ที่ใช้ชื่อว่า JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ เล่าเรื่องราวต่างๆผ่านตัวนักเรื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ อคคทสึ ยูตะ ที่โดนคำสาปอย่าง โอริโมโตะ ริกะ และโรงเรียนไสยเวทย์ก็ส่งมือดีอย่าง โกโจ ซาโตรุ มาสืบเสาะหาคำตอบ แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวของความเป็นมหาเวทย์ผนึกมาร ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในแฟนเดนตายของเรื่องนี้และของค่ายนี้อีกด้วย การกลับมาลงจอเงินครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีและสมเหตุสมผลมากที่สุดเพราะจะได้ไม่ทำให้แฟนอนิเมะต้องรอนานและมีอาหารมาให้ทานได้อย่างตรงเวลาแม้จะเป็นเรื่ยงราวที่เป็รสูตรสำเร็จแต่ก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามแม้จะเป็นเรื่องราวที่เล่าได้ก็ไม่น่าเบื่อแต่ก็อย่างว่า คนดูใหม่ๆจะได้เข้าใจในเส้นเรื่องที่ถูกย่อให้น้อยลงได้อย่างลงตัว อคคทสึ ยูตะ ก็เป็นตัวละครที่ผู้เขียนหลงรักมากกว่าตัวละครจาก ภาคต้นเพราะเราจะได้รู้เรื่องของเขาความเป็นมาและความคิดความฝันของตัวละครได้ดีและน่าสนใจ “กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอคชัน” 1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ ถือว่ายังคงมอบความสนุกให้แฟนๆได้อย่างครบรสกับฉากบู๊ต่างๆที่ขนกันมางานภาพกราฟิกที่ออกแบบให้มันส์สมจริงถือว่าฉากต่างๆออกแบบได้สวยงามมากกว่าในอนิเมะซีซั่นหนึ่งเลยก็ว่าได้อาจจะเป็นเพราะเป็น เดอะ มูฟวี่ ความยาวไม่มากเลยสามารถใช่ฉากต่างๆเข้ามาได้สะใจและสมหวัง ถึงแม้จะใส่ฉากบู๊เข้ามาอย่างไม่บันยะบันยัง ก็ไม่ได้แปลว่าจะดีเสมอไปเพราะตัวฉากไม่ได้มีความเป็นประติดประต่ออะไรขนาดนั้นเพราะตามสไตล์ของเรื่อง JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ มันจะแบ่งฉากต่อสู่ออกเป็นสองเส้นหลักอยู่แล้วมาในรูปแบบจอเงินเลยเป็นข้อเสียเพราะว่ามันไม่ได้สุดเหมือนการเล่าเรื่องในแบบของตอนต่อตอน2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / การเล่าเรื่องคำสาปของตัวละครหลักอย่าง อคคทสึ ยูตะ และ โอริโมโตะ ริกะ ไม่ได้ถูกเล่ารายละเอียดที่มากเท่าไหร่แต่อนิเมะกับไปใสใจในเรื่องราวของ อคคทสึ ยูตะ ที่ต้องมาเข้าโรงเรียนใหม่และเล่าเรื่องราวที่เราก็เคยดูเคยเห็นกันมาแล้วใน มหาเวทย์ผนึกมาร ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังนั่งดูเรื่องราวเดิมแต่เปลี่ยนตัวละครจาก อิตาโดริ ยูจิ ฟุชิงุโระ มาเป็น อคคทสึ ยูตะ เลยทำให้บทที่ดูเหมือนจะซ้ำกับของเดิม หรืออาจจะเป็นความจงใจของทีมสร้างที่อยากจะมัดใจคนดูและหากลุ่มฐานแฟนคลับใหม่ก็เป็นได้ แต่ในกลุ่มฐานแฟนคลับเดิมคือมันดูไม่ดีในการว่างบทแบบนี้เพราะมันทำให้เสียเวลาและการเล่าเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ และกลายเป็นว่าตัวบทของตัวละครหลักกลับไม่เน้นหนักมากพอจนทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่เป็นจุดตกม้าตายของเรื่องนี้ แต่ยังไงก็ยังให้อภัยเพราะเป็น เดอะมูฟวี่ คั้นเวลาเพื่อรอซีซั่นสองที่จะมาถึงและก็ต้องเปิดใจให้ทีมสร้างหาแฟนคลับเพิ่มจากการทำบทแบบนี้ถือว่าไม่เสียหายอะไรมาก 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ ที่ใส่ตัวละครมาเยอะมากๆพอมันเยอะก็เกิดปัญหาการเล่าเรื่องราวของตัวละครได้ไม่หมดและไม่ดีพอ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าการที่ JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ ไม่ได้เล่าเรื่องที่จะทำให้เห็นการเติบโตของตัวละครที่มาในแนวที่จับต้องได้อาจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งก็มีฐานแฟนคลับเก่าที่เห็นการเติบโตของตัวละครเหล่านี้อยู่แล้วก็เป็นได้เลยไม่ได้ใส่เข้ามาทำให้เราเหล่าคนดูมาจดจำตัวละครเก่าในรูปแบบใหม่ แต่มันกับเป็นช่องว่างให้กับตัวละครหลักที่ผู้ชมอาจจะลืมไปว่านี้คือเรื่องราวของ อคคทสึ ยูตะ และ โอริโมโตะ ริกะ เพราะตัวอนิเมะไปเน้นหนักเรื่องงานฉากบู๊ที่ตื่นตาตื่นใจเลยลืมไปว่างานบทและงานตัวละครที่จะสื่อมันหายไปและคนดูก็อาจจะลืมเรื่องนี้ไปเลยในระหว่างดูอนิเมะ4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยความหมายของหนัง / การเติบโตอย่างมีคุณค่าและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ พูดถึงความหมายของเพื่อนความหมายของการมีชีวิตอยู่ได้อย่างตรงไปตรงมาและสอดแทรกเข้ามาในเนื้อหาได้อย่างไม่เคอะเขินสื่อถึงคนดูได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเต็มอารมณ์แม้เรื่องราวจะเน้นไปงานบู๊เพื่อให้แฟนอนิเมะได้ดูอย่างจุใจแต่งานความหมายของมันก็ไม่น้อยหน้าเพราะสื่อออกมาได้อย่างดีและมีมิติที่ชัดเจน5 “คัท !!!!”JUJUTSU KAISEN ZERO มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ ยังคงความเข้มข้นเนื้อหาน่าจดจำสนุกถึงพริกถึงขิงอยู่เช่นเคยความรู้สึกขาดๆเกินๆมันไม่ได้รู้สึกว่าไม่ทำให้เรื่องราวมันไม่สนุกแต่กับทำให้ลุ้นไปกับมัน อาจจะเป็นแนวทางของอนิเมะมากกว่า มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ นั้นเหมือนเป็นส่วนเสริมที่จงใจใส่มาให้เราเหล่าคนดูได้ติดตามตัวภาคหลัก หรือแม้แต่อาจจะทำมาให้คนที่ยังไม่ได้ดูภาคหลักได้ดูเพื่อเป็นอรรถรสได้เปิดสัมผัสเรื่องราวของ มหาเวทย์ผนึกมาร นี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าตัวมหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่มีการ ปูเรื่อง ต่างๆนานาเยอะทั้งที่มันเคยทำมาแล้วในภาคหลักของซีซั่นแรก ก็เลยคิดว่าเขาน่าจะทำมาให้แฟนใหม่ๆและเพิ่มฐานแฟนคลับไปในตัว ดูจบแล้วก็อยากจะดูซีซันสองต่อเลยเพราะมันทิ้งปริศนาคาใจเอาไว้มากมายหลายคำถาม (แอบสปอย) ตัวหนังมี Post Credit Scene / After Credit Scene ใส่เข้ามาอย่างเพิ่งลุกจากเก้าอี้เด็ดขาด (สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Major Group - ปก / 1 / 2 / 3 / 4ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์นักเขียนบทภาพยนตร์นักแสดงและทีมสร้างภาพยนตร์ทุกคนข้อมูลเพิ่มเติมอ้างอิง1อ้างอิง2อ้างอิง3อ้างอิง4*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565