วันนี้เรามาชวนดูหนังเพศทางเลือกใน Netflix อย่าง Blue Is The Warmest Color ที่เข้าฉายในปี 2013 แม้สมัยนั้นการนำเสนอหนังเพศทางเลือกจะไม่ได้มีจุดยืนมากเท่ากับปัจจุบัน แต่หนังก็ได้คว้ารางวัลปาล์มทองคำซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในการประกวดภาพยนตร์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ แบบนี้จะพลาดได้ยังไง!ขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour Blue Is The Warmest Color ดำเนินเรื่องด้วย อาเดล หนังเลือกใช้มุมกล้องแบบ Close Up ไปที่หน้า อาเดล ในทุกอริยบท ความจงใจของมุมกล้องทำให้เราจดจ่ออยู่แค่หน้าของ อาเดล และต้องสำรวจทุกส่วนบนใบหน้าของ อาเดล ไม่ว่าจะเป็น ปาก จมูก ตา ที่ยืนยันได้เลยว่ามุมกล้องนี้ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของ อาเดล ได้อย่างลึกซึ้งแน่นอน ขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour อาเดล อยู่ในช่วงวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเองตามสไตล์ชีวิตวัยรุ่นฝรั่งเศสทั่วไป ขณะที่เธอกำลังไปเดทกับหนุ่มรุ่นพี่ เธอได้เดินสวนกับสาวผมฟ้า เพียงเสี้ยววินาทีที่หันมาสบตากัน อาเดล ถึงกับหยุดนิ่ง และไม่เข้าใจกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น..ขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour เธอได้คบหากับชายหนุ่มรุ่นพี่และมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน ก่อนที่อาเดลจะรู้ตัวว่าเธอไม่ได้รักเขาเลยสักนิด เธอจึงยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ด้วยตัวเธอเอง ถึงแม้เธอจะเป็นคนจบความสัมพันธ์แต่เธอก็เสียใจไม่ต่างกันขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour หลังเลิกเรียน อาเดล ได้นั่งที่ริมบันไดก่อนที่เพื่อนเธอจะมานั่งข้าง ๆ กัน และด้วยบทสนทนาบวกกับบรรยากาศที่เป็นใจทำให้สองคนจูบกัน เห็นได้ชัดว่า อาเดล มีความสุขกับจูบนั้น แต่เพื่อนของเธอไม่ได้คิดแบบเดียวกัน ทำให้ อาเดล รู้สึกแย่และสับสนมากขึ้น และแน่นอนว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่าง อาเดล กับสาวผมฟ้าเกิดขึ้นหลังจากนี้.. ขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour จังหวะและเวลาทำให้ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ก่อนความรัก ความสัมพันธ์ได้ก่อตัวขึ้นอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ทำให้อาเดลค้นพบตัวเอง และทั้งคู่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ เกิดเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวที่ลึกซึ้งและทั้งคู่มีความสุขและมั่นคงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour Blue Is The Warmest Color นำเสนอในแง่มุมของความรักที่แสดงให้เห็นถึงความลื่นไหลทางเพศและความสัมพันธ์ อย่างอาเดลที่ได้ค้นพบตัวเองและได้ก้าวผ่านช่วงวัยรุ่นอย่างมั่นใจ ช่วงเวลาอันเนินนานของความรักของเธอทั้งคู่ที่ช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าของกันและกันในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต จนเวลาล่วงเลย ความเปลี่ยนแปลง การละเลย การโหยหาความหมายในตัวเองเข้ามาแทนที่ เกิดเป็นเงื่อนไขชีวิตมากมายที่เข้ามาในอีกช่วงของชีวิตหรือความสัมพันธ์ครั้งนี้ผ่านเข้ามาเพื่อให้ได้เรียนรู้และแยกกันไปเติบโต..สุดท้ายแล้วความรักอย่างเดียวจะประคองความสัมพันธ์ครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ? ติดตามต่อใน Netflix ความรู้สึกหลังดูจบขอบคุณภาพจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour Blue Is The Warmest Color เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจเรามาตลอด เราอินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งคู่ ที่พัฒนาจากคนรักเข้าสู่คู่ชีวิตอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป รู้ตัวอีกทีหนังก็ดำเนินเรื่องมาให้เราเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันเนินนาน มั่นคง ไม่รู้หรอกว่ามีกันมานานแค่ไหนแล้ว แต่รับรู้ได้ว่านานและทั้งคู่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน พึ่งพากัน รัก ผูกพันกัน เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่นี่แหละ ทำให้เรานึกถึงเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน จะเริ่มต้นใหม่กับใครกี่ครั้ง ก็จะยังมีแค่คนเดียวที่เรายังมีความรู้สึกดีให้เขาอยู่เสมอ เราเชื่อว่าทุกคนมีคนที่ติดอยู่ในใจ แต่การตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิต ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเพื่อเติบโต ต้องยอมรับว่าบางครั้งคนเราก็ต้องเติบโตจากความเจ็บปวดบ้างเหมือนกัน ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ไม่เอาเพศมายึดติดกับความรัก แม้แนวคิดในการใช้ชีวิตจะต่างกัน แต่ความรักก็สามารถทำให้คนทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ การเปิดเผยว่าคบกันควรเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องหาตรงกลางมาเจอกัน เพื่อให้เห็นความทั้งคู่มีตัวตนในสังคมของกันและกันควรแบ่งเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวออกจากกัน เพื่อไม่ให้คนรักรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว ไม่มีความหมายความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคู่การควบคุมสติ รู้ผิดชอบชั่วดี เป็นสิ่งที่คู่รักควรมีสิ่งที่เจอในอดีตจะหล่อหลอมให้กลายเป็นเราในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก ความรัก หรือความสัมพันธ์ ล้วนเป็นสิ่งที่ลื่นไหลได้ทั้งสิ้น ขอเพียงใช้ใจมอง ต่อให้คิดถึงแค่ไหน สุดท้ายหากเลือกทางเดินแล้ว ก็ควรจะเดินต่อไปแม่ความหลังมันหอมหวานขนาดไหนก็ตามสุดท้ายนี้ เราเชื่อว่าทุกคนสามารถดูหนังเรื่องนี้และเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครได้ไม่ยาก เพราะในทุกความรักย่อมมีความสัมพันธ์ที่เป็นตัวเชื่อมคนสองคนเข้าด้วยกัน เกิดเป็นเรื่องราวมากมายที่ไม่ว่าจะจบลงอย่างไรทุกคนสามารถผ่านไปได้แม้มันจะเจ็บปวด บาดลึก นั้นแหละคือความรัก สุดท้ายนี้แม้การตัดสินใจ บางครั้งจะทำให้เจ็บปวด แต่อยากให้จดจำเอาไว้ว่าที่ผ่านมามันคือเรื่องจริง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะจบแบบไหน ติดตามต่อใน Netflixขอบคุณภาพหน้าปกจาก : Facebook : BlueIsTheWarmestColour จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !