พูดถึงซีรีส์จีนย้อนยุคแนวเกิดใหม่ในร่างนั้นร่างนี้ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน จะไม่พูดถึงซีรีส์ “องค์หญิงใหญ่” ที่บอกเล่าถึงการย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในร่างตัวเองของ "องค์หญิงใหญ่" "ผิงเยว่" หรือ “หลี่หรง” กับ “เผยเหวินเซวียน” อดีตคู่สามีภรรยาที่มีความขัดแย้งกัน ท่ามกลางกระแสการเมืองที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งช่วงชิง การถ่วงดุลอำนาจกันระหว่างคนในราชวงศ์กับขุนนาง ทำให้เกิดปมปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย ผลักดันให้พวกเขาก็ต้องยืนอยู่คนละฟากฝั่งทางการเมือง จนท้ายที่สุดต้องห้ำหั่นกันจนตายไป ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการกลับมาเริ่มต้นใหม่บนร่องรอยของอดีตที่กำลังจะมาถึงพร้อมกับโอกาสที่ในการที่จะเปลี่ยนแปลงและแก้ไขในสิ่งที่เรียกว่า "ชะตากรรม"พูดถึงแค่พล็อตเรื่องคร่าว ๆ ก็ทำให้ซีรีส์นี้มีความน่าดูขึ้นมาแล้ว ในส่วนนี้เมื่อรวมเข้ากับเคมีนักแสดงอย่าง "จางหลิงเฮ่อ" ในบท เผยเหวินเซวียน กับ "จ้าวจินม่าย" ในบทองค์หญิงใหญ่หลี่หรง หรือองค์หญิงผิงเยว่ เชื้อพระวงศ์ผู้ทรงอำนาจ ก็ทำให้ยิ่งทวีคูณความน่าดูเข้าไปใหญ่ ด้วยฝีมือการแสดงที่ทำให้เชื่อได้จริง ๆ ว่าพวกเขาคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมานานถึง 20 ปีแล้ว มีทั้งความรักและความขัดแย้งกัน และได้ย้อนกลับมาอยู่ในร่างตัวเองช่วงอายุ 18 ปี ก่อนที่จะได้กลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง เป็นการแต่งงานการเมืองอย่างสมบูรณ์เมื่อต่างคนต่างรู้จุดจบที่ไม่อาจไปด้วยกันได้อีกต่อไป แต่เมื่อเรามีโอกาสได้ย้อนกลับไปในอดีต จะนั่งอยู่เฉย ๆ รอดูให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแบบนั้นหรือ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ เรื่องสนุกมันจึงอยู่ตรงนี้ พระเอกนางเอกเราย้อนกลับมาเพื่อแก้ไขยับยั้งโศกนาฏกรรมต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นเพราะเกมการเมือง รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องราวในความรักความสัมพันธ์เพื่อให้ชีวิตคู่ของพวกเขาดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่งและจบลงด้วยดี ดังนั้นประเด็นหลัก ๆ ที่ชวนให้คิดวิเคราะห์จากการดูเรื่องนี้ ต้องเป็นประเด็นเกี่ยวกับการเกิดใหม่ในซีรีส์หรือนิยายต่าง ๆ ซึ่งก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน โอกาสครั้งใหม่กับหัวใจดวงเดิมหรือจะเป็นยวนยางคู่ทุกข์คู่ยาก… วาสนาสามภพของ “หลี่หรง” กับ “เผยเหวินเซวียน”อีกหนึ่งความประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้ก็คือความรักที่ลึกซึ้งระหว่างตัวละครพระเอกนางเอก โดยเฉพาะในตอนที่ได้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ เป็นคู่ทุกข์คู่ยากที่แค่มองตาก็รู้ใจ แม้ในช่วงแรก ๆ ต่างคนต่างก็ยังไม่ยอมรับความรู้สึกแท้จริงที่มีให้ต่อกัน โดยเฉพาะองค์หญิงใหญ่หลี่หรงที่เหมือนจะกลัวความรักเป็นพิเศษด้วยความที่เกิดมาเป็นคนในราชวงศ์ทำให้นางไม่อาจไว้ใจใครได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขาในภพที่แล้วจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่เมื่อได้กลับชาติมาเกิดใหม่แทนที่พวกจะเข็ดขยาดกลับตรงกันข้ามพวกเขายังคงเลือกกันและกันอีกครั้ง ในเรื่องเราจะได้เห็นองค์หญิงหลี่หรงกับเผยเหวินเซวียนร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตรัก จนกลายเป็นพระนางที่ได้แต่งงานกันถึงสามครั้งในซีรีส์เรื่องเดียวจนสามารถเรียกได้ว่าเป็นคู่แท้ คู่สวรรค์สรรค์สร้าง คู่ฟ้าประทานอย่างแท้จริง ความรักที่นำไปสู่ความมืดบอดของ “ซูหรงชิง”ซูหรงชิง เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าควรจะเรียกว่าอะไร จะเป็น “ตัวร้าย” หรือก็ไม่ใช่ จะเป็น “พระรอง” ก็ไม่เชิงอีกเพราะการกระทำหลาย ๆ อย่างของเขามันดูจะเกินเรื่องไป ตัวละครซูหรงชิงรับบทโดย “เฉินเฮ่ออี” ซึ่งแสดงออกมาได้ดีจนคนดูจำนวนไม่น้อยยังอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ เพราะเป็นตัวละครที่ฉลาด และย้อนกลับมาเกิดใหม่เหมือนกัน ในเรื่องเขาเป็นคนที่หลงรักองค์หญิงใหญ่หลี่หรงมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่อาจเอื้อมถึงนางได้ เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่พร้อมหัวใจดวงเดิมก็ยังคงรักและหวังจะปกป้องนางให้ดีที่สุด ผิดที่ความรักทำให้คนฉลาดอย่างเขากลายเป็นคนมืดบอดไป และมักคิดเข้าข้างตัวเองว่าได้รับความรักตอบ แล้วยังพยายามที่จะวางแผนจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองคนเดียวในแบบที่คิดว่าน่าจะดีกับหลี่หรงแต่ไม่ถามความคิดเห็นหรือความต้องการของนางสักคำ สิ่งต่าง ๆ ซูหรงชิงลงมือทำบางครั้งจึงยิ่งทำร้ายหลี่หรงเพราะความมั่นใจในตัวเองที่มีมากเกินไป โศกนาฏกรรมรักที่สร้างปีศาจขึ้นมาในใจของ “หลี่ชวน” กับ “ฉินเจินเจิน” และ “ซูหรงหัว” กับ “ซ่างกวนหย่า”อีกสองคู่ที่น่าสนใจในซีรีส์เรื่องนี้ก็เห็นจะไม่พ้นคู่ขององค์รัชทายาท “หลี่ชวน” ที่รับบทโดย “หลิวซวี่เวย” กับ “ฉินเจินเจิน” ที่รับบทโดย “เฮ่อชิว” และคู่ของ “ซูหรงหัว” พี่ชายแท้ ๆ ของซูหรงชิงที่รับบทโดย “อี้ต้าเชียน” กับ “ซ่างกวนหย่า” ที่รับบทโดย “เฉิงกั่ว” ซึ่งก็เรียกได้ว่าน่ารักทั้งสองคู่ และถึงแม้ในซีรีส์จะไม่ได้บอกว่าพวกเขากลับชาติมาเกิดใหม่ แต่ทั้งสองภพทั้งสี่คนต่างก็ยังคงรักคน ๆ เดิม ไม่ว่าสถานการณ์จะแตกต่างกันอย่างไร แต่ภพก่อนโชคร้ายที่ความรักของพวกเขาทั้งหมดกลายเป็นโศกนาฏกรรม เมื่อองค์รัชทายาทหลี่ชวนถูกบังคับให้แต่งงานกับซ่างกวนหย่าโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีใจให้แก่กัน จนกระทั่งหลี่ชวนได้ขึ้นครองบัลลังก์ ซ่างกวนหย่ากลายเป็นฮองเฮาในขณะที่ทั้งใจนางยังคงมีแต่ซูหรงหัวที่รักกันมาตั้งแต่ก่อนนางจะตัดสินใจแต่งงานเข้าวัง ส่วนฉินเจินเจินก็ได้เข้ามาเป็นสนมรักของฮ่องเต้ แต่ชีวิตในวังก็ไม่ได้ทำให้นางมีความสุขมากสักเท่าไหร่ ท้ายที่สุดนางก็ถูกวางยาพิษตายไป ทำให้หลี่ชวนเสียใจมาก และกลายเป็นฮ่องเต้ที่โหดร้าย ไร้ความปรานีจากโศกนาฏกรรมรักของคนทั้งสี่ที่ไม่สมหวังและต้องทุกข์ทรมานใจในภพแรกนำมาซึ่งความพยายามจะแก้ไขและเปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้ดีขึ้นในภพหลัง เพื่อไม่ให้ทุกอย่างกลับไปซ้ำรอยเดิม ทุกคนที่ย้อนกลับมาและรู้เรื่องราวทุกอย่างก่อนแล้วจึงพยายามช่วยเหลือคนเขาอย่างถึงที่สุด และพบว่ามีหลายอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป ในเรื่องเราจะเห็นความรักใส ๆ ระหว่างหลี่ชวนกับฉินเจินเจิน ที่เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม และได้เห็นซ่างกวนหย่าที่มีชีวิตชีวามากกว่าภพก่อน สามารถคบหาซูหรงหัวได้อย่างมีอิสระ อำนาจแห่งการล่วงรู้อนาคตประสบการณ์สองภพแก้เกมการเมืองทันควันนอกจากเรื่องราวความรักสามคู่ที่เป็นตัวชูโรงแล้วในเรื่องซีรีส์ยังพูดถึงเรื่องการเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่เกิดขึ้นภายในราชสำนัก เผยให้เห็นอำนาจของการรู้ล่วงหน้าเหมือนกับคำที่ว่า “รู้อะไรก็ไม่รู้ รู้งี้…” ซึ่งเป็นแบบนั้นจริง ๆ แม้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นจริงทุกประการ แต่การรู้บางอย่างทำให้หลี่หรงกับเผยเหวินเซวียน รวมไปถึงซูหรงชิงมีมุมมองในการคาดการณ์ที่ละเอียดรอบด้านมากกว่าคนที่ไม่เคยรับรู้สัญญาณจากอนาคตใด ๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบ นอกเหนือจากนี้พวกเขายังมีประสบการณ์การใช้ชีวิตมาแล้วกว่ายี่สิบปี ความสุขุมลุ่มลึก ย่อมมีมากกว่าคนในวัยเดียวกัน ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ตัวละครเด่น ๆ ที่ยังเยาว์วัยสามารถเอาชนะเหล่าบรรดาขุนนางผู้อาวุโสในราชสำนักได้ ทำให้เห็นเลยว่าชั่วโมงบินนั้นสำคัญมากจริง ๆ ด้านกลับอำนาจแห่งการล่วงรู้อนาคต กับความหมกมุ่นที่ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่บนเส้นเวลาที่แตกต่างออกไปอย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากการรู้ล่วงหน้ามากเกินไปก็อาจจะนำไปสู่ด้านกลับ เห็นได้จากความหมกมุ่นของตัวละครซูหรงชิงที่ไม่อาจแยกแยะได้ว่าทั้งสองภพต่างก็อยู่บนเส้นเวลาที่แตกต่างกันออกไป และแยกขาดจากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังจะเห็นว่าหลาย ๆ อย่างไม่เหมือนเดิม จากตัวแปรที่ขับเคลื่อนความเรื่องราวทั้งหมดก็คือผู้คนที่มีส่วนในการเลือกเส้นทางของตัวเอง และตัดสินใจ เรื่องนี้มีปรัชญาที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน แต่ถ้าดูจากในซีรีส์เราจะเห็นได้ว่าความมุ่นของซูหรงชิงนั้นท้ายที่สุดเป็นเพียงความหมกมุ่นที่ไร้ประโยชน์ และเราไม่อาจแก้แค้นให้กับเรื่องที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นบนเส้นเวลานั้นเพียง เพราะความกังวลที่เกิดขึ้นจากการคาดเดาที่ความน่าจะเป็นในอนาคตได้ ในแง่มุมนี้เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ความน่าจะเป็น หรือ possibility ที่ถูกคาดการณ์ไว้เท่านั้นและการเปลี่ยนเส้นทางก็ไม่อาจยืนยันผลลัพธ์ได้เช่นกันว่าทุกอย่างจะดีกว่าเดิมได้จริง ๆ หรือไม่ และการเปลี่ยนเส้นทางยังอาจนำไปสู่ผลลัพธ์อื่น ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อีกต่อไป จากความบันเทิงในซีรีส์เรื่องนี้ เมื่อคิดลึก ๆ แล้วยังคงแฝงเร้นไปด้วยปรัชญามากมายในภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ดูสนุก มีการเล่าเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อน แม้แต่ในพาร์ทการเมืองที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง ยังเล่าออกมาได้สนุกน่าตื่นเต้น ไม่ได้เข้าใจยากจนเกินไป แต่สำหรับคนชอบขบคิด ก็ยังมีอภิปรัชญาให้ถกเถียงกันได้ต่อไป เหมือนกับตัวผู้เขียนบทความที่เห็นเรื่องแนวนี้ทีไรก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ เมื่อทุกคนล้วนแล้วแต่ปรารถนาในโอกาสครั้งที่สองเสมอ บางทีเนื้อเรื่องที่เรากำลังดูอยู่นี้อาจเป็นเพียงแค่ห้วงฝันครั้งสุดท้ายในชีวิตของหลี่หรงหรือเผยเหวินเซวียน หรือแม้กระทั่งซูหรงชิงก่อนที่พวกเขาจะจากโลกนี้ไปจริง ๆ ก็ได้ เป็นฝันที่ย้อนกลับไปเติมเต็มทุกสิ่งที่เคยพลาดพลั้งหรือเสียดาย หรือเรื่องราวในภพก่อนอาจเป็นเพียงฝันห้วงหนึ่ง แต่ก็นั่นแหละควรพอได้แล้วเพราะหากวิเคราะห์มากกว่านี้เดี๋ยวจะสปอยจนจบเรื่องไป จริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน แค่ได้ไปดูฝีมือการแสดงของจางหลิงเฮ่อกับจ้าวจินม่ายบวกกับเคมีคู่นี้ให้จักจี้หัวใจ แค่นี้ก็คุ้มมาก ๆ แล้ว สามารถดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้วในวันนี้ที่แพลตฟอร์ม YOUKU เลยค่ะ ขอบคุณภาพจาก Weibo: 度华年官微ภาพปก: ภาพที่ 1-4เนื้อหา: ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6-7, ภาพที่ 8-9, ภาพที่ 10-11, ภาพที่ 12, ภาพที่ 13-14เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !