เอาใจสาวก Studio Ghibli กันอีกครั้ง กับเรื่องราวชวนคิดถึงของภาพยนต์แอนิเมชั่น Feel Good ของค่ายดังอย่าง Studio Ghibli ที่ล่าสุด Netflix ประเทศไทยคว้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการมาเอาใจแฟน ๆ ค่ายนี้ให้ยิ้มกันไม่หยุดล่าสุด Netflix ได้ปล่อยโปรแกรมภาพยนต์เข้าใหม่ของเดือนเมษายนเป้นที่เรียบร้อย หนึ่งในนั้นคือเรื่อง When Marnie Was There ที่หลายคนรอคอยมานาน สำหรับใครที่เคยชมเรื่องมาก่อนแล้ว คงได้กลับไปย้อนระลึกถึงความอบอุ่น พร้อมน้ำตาอุ่น ๆ ที่อาจไหลรินระหว่างที่ชม แต่หากใครยังไม่เคยรับชมเรื่องนี้มาก่อน และมีความชอบในภาพยนต์แนวอบอุ่น เคล้าน้ำตานิด ๆ และมีความแฝงเรื่องราว Magic หน่อย ๆ รับรองว่าจะต้องหลงรักเรื่องนี้แน่นอน!When Marnie Was ThereCr : ภาพจาก Official Trailer ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Studio Ghibli When Marnie Was There ภาพยนต์แอนิเมชั่นเรื่องสุดท้ายจาก Studio Ghibli ที่แม้ไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีเท่าที่ควร จนเป็นเหตุหนึ่งให้ทางค่ายต้องประกาศพักการสร้างภาพยนต์ ทำเอาแฟน ๆ ใจสลายกันทั่วโลกมาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะด้อยคุณภาพลงแต่อย่างใดเลย แต่กลับเป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างความประทับใจจนเป็นที่จดจำ และโดยส่วนตัวแล้ว เป็นเรื่องที่รักที่สุดของ Studio Ghibli เลยล่ะค่ะWhen Marnie Was There เป็นเรื่องราวของ "อันนะ" เด็กสาวพูดน้อย โลกส่วนตัวสูง มีบุคลิกต่อต้านสังคม อันนะปฏิเสธการคบเพื่อน ไม่สุงสิงกับใคร ไม่แม้แต่เปิดใจกับครอบครัวบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เพราะเธอมีสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจที่ไม่ได้รับการเยียวยา จนวันหนึ่งความเก็บกดที่อันนะมีก็ส่งผลกระทบไปถึงสุขภาพกาย แม่บุญธรรม ที่เธอไม่ยอมเรียกว่า "แม่" สักครั้ง จึงทำตามคำแนะนำของแพทย์ ด้วยการส่งเธอไปพักร้อนที่บ้านคุณป้าต่างจังหวัด ให้อยู่ในที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้อาการป่วยของอันนะดีขึ้น และที่นั่น ทำให้อันนะได้พบกับ "มาร์นี่"ตัวละคร "มาร์นี่" เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการเดินเรื่องเลยล่ะค่ะ หญิงสาวปริศนาใบ้านหรูริมบึงที่ใคร ๆ ต่างก็ร่ำลือถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ มาร์นี่ก้าวเข้ามาเป็นมิตรภาพหนึ่งของอันนะ ทำให้อันนะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และผูกพันราวกับรู้จักกันมาเนิ่นนานแล้ว การพบกันในทุก ๆ คืนเป็นความสุขเดียวที่อันนะมี แต่มาร์นี่เองก็มีปริศนาอยู่มากมายนัก ที่เมื่อเฉลยในตอนท้ายสุดแล้ว มันชวนจุกหัวใจแต่ก็รู้สึกอบอุ่นที่สุดเลยล่ะค่ะCr : ภาพจาก Official Trailer ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Studio Ghibli ในสังคมทุกวันนี้มี "อันนะ" ในชีวิตจริงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ตัวละครอันนะเป็นตัวแทนของคนที่เติบโตมาพร้อมกับบางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ และไม่ได้รับคำตอบหรือการเยียวยาจิตใจ กลายเป็นคนเก็บกด อยู่แต่ในโลกส่วนตัว เพราะเข้าใจไปเองว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ต้องการ จนท้ายที่สุดก็ก่อเกิดเป็นโรคซึมเศร้า ปูมหลังของทั้งสองตัวละคร ทั้งอันนะและมาร์นี่ต่างก็มีที่มาจากปัญหาในครอบครัวในวัยเด็ก น่าเศร้าที่น้อยคนจะตระหนัก ว่าสิ่งที่เด็กได้รับรู้ในวัยเยาว์ จากการตีความด้วยความไม่เดียงสาของวัยนั้น จะติดตัวและเป็นผลกระทบกับเด็กคนนั้นไปจนโตนอกจากพล็อตเรื่องที่โดดเด่นและสะท้อนสังคมในแง่มุมที่ลึกซึ้งแล้ว ต้องชื่นชมทีมผู้สร้างมาก ๆ เลยค่ะ ที่สามารถสร้างภาพการ์ตูนให้โลดแล่นบนหน้าจอได้เป็นธรรมชาติ ใส่ใจรายละเอียดการเคลื่อนไหว สีหน้าตัวละคร จังหวะของดนตรีประกอบ ชวนให้รู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจริง ๆ ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาระหว่างชม เรียกรื้นน้ำตาได้จริง ๆ ค่ะและที่จะไม่ชมไม่ได้เลย คือลายเส้นการ์ตูนที่สวยมาก ๆ มีความละมุนน่ารัก Mood & Tone โดยรวมสื่อถึงความอบอุ่นได้ดีจริง ๆ โดยเฉพาะตัวละครมาร์นี่ ที่งดงามราวเจ้าหญิง เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนที่ได้ชมต้องปลื้มใจแน่นอน ดูไปยิ้มไป นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่อยากแต่งตัวแบบเจ้าหญิง พอเห็นตัวละครมาร์นี่ได้แต่งตัวสวย ๆ แล้วรู้สึกว่า Complete ในใจยังไงบอกไม่ถูก ฮ่า ๆ ๆความประทับใจใน When Marnie Was There ยังไม่หมดแค่นี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ภูมิใจนำเสนอมากคือ เพลงประกอบภาพยนต์ที่เพราะมาก ๆ แบบอยากจะเติมกอไก่สักล้านตัวเลยล่ะค่ะ อบอุ่น ละมุน เปิดฟังในวันเหงา ๆ แล้วรู้สึกเหมือนมีคนที่เข้าใจเรามากที่สุดมานั่งปลอบใจอยู่ข้าง ๆ ฟังดูเวอร์ไปใช่ไหมคะ? ฮ่า ๆ ๆ ถ้าอยากรู้จริงไหมต้องลองฟังเพื่อพิสูจน์เอง เพลง Fine on the Outside Ost.When Marnie Was ThereCr : ภาพจาก Official Website ของ Studio Ghibli“Yesterday’s gone, so has the day before.Don’t let’s waste today arguing about it.”เพื่อน ๆ สามารถเข้าชม When Marnie Was There ผ่านทาง Netflix ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไปค่ะรับรองว่าต้องหลงรักสาวผมบลอนด์ในชุดสีฟ้าคนนี้แน่นอน :) เรื่อง : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน)ขอบคุณภาพประกอบปกจาก Official Website ของ Studio Ghibli