Movie Review Back in Action (2025) สายลับกลับมาลุย การกลับมาออกแอ็กชันอีกครั้งของ "Cameron Diaz" ประกบกับ "Jamie Foxx" ในงานแอ็กชันคอมมิดี้ที่ดูสนุกตามสูตรดูง่ายสบายอุรา รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เดือนแรกของปี 2025 นี้ก็เปิดหัวศักราชใหม่ได้อย่างน่าดูชมเมื่อเป็นการโคจรมาพบกับผู้ชมของ Jamie Foxx ซึ่งนั่นยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรียกความสนใจมากกว่าคือการกลับมาของ Cameron Diaz อดีตนักแสดงขวัญใจคนดูยุคหนึ่งซึ่งเธอห่างหายไปนานจนยอมรับเลยว่าผู้เขียนก็คิดว่าเธอบอกลาการแสดงไปแล้ว ยิ่งเรื่องนี้เธอมาออกแอ็กชันในงานแอ็กชันปนตลกที่เอาจริง Cameron Diaz ก็ไม่ค่อยเล่นหนังแอ็กชันเท่าไหร่เรื่องสุดท้ายที่จำได้ก็นู่นเลย Knight and Day (2010) ที่เธอประกบกับ Tom Cruise จึงอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การกลับมาครั้งนี้กับหนังที่มีชื่อว่า Back in Action ก็คือการสื่อถึงการกลับมาแสดงหนังหรือกระทั่งการแสดงหนังแอ็กชันของ Cameron Diaz แถมยังไม่พอยังเป็นหนังสายลับที่เป็นหนังตลาดสุดๆแบบเดียวกันซะด้วย Matt (Jamie Foxx) และ Emily (Cameron Diaz) สายลับ CIA ที่ร่วมงานกับ MI6 ขโมยกุญแจปริศนามาจากผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จและเมื่อกำลังเหินฟ้าจะปิ๊กอเมริกาก็พบว่า Emily กำลังตั้งท้องใช่แล้วสายลับทั้งสองคบกันอยู่ ทว่าบนเครื่องนั้นก็ถูกยึดใครสักคนในสองหน่วยงานสายลับแนวหน้าที่ว่าทรยศทำให้เครื่องตกเพราะการต่อสู้แน่นนอนสองคู่ตุนาหงันรอดมาได้ แล้ว Matt ก็เกิดพุทธิไอเดียว่าอย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองควรหลบหายไปจากวงการเพราะใครก็คงคิดว่าเราสองต้องซี้แหงแก๋ไปแล้วแน่นอน สิบห้าปีต่อมาทั้งสองกลายเป็นคนธรรมดาเป็นพ่อแม่ที่ต้องรับมือกับลูกวัยรุ่นที่เริ่มจะว้าวุ่นและต่อต้านจนบางครั้งก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันเพราะทำอะไรก็ไม่ถูกใจลูกซึ่งมันอาจเป็นกันทั้งโลก แล้วเมื่อเขาและเธอต้องไปตามลูกกลับจากคลับที่ไม่ควรให้ผู้เยาว์เข้าซ้ำยังโดหยามว่าเป็นสองเฒ่าบูมเมอร์ก็เลยมีเรื่อง (ไม่) นิดหน่อยเพราะคำว่าแก่พูดเบาๆก็เจ็บ แล้วตัวตนของพวกเขาก็ถูกเปิดเผยจนได้อันตายจึงจะมาเยือนครอบครัวอดีตสายลับมือพระกาฬจึงต้องออกงานคู่อีกครั้ง เป็นงานตามสูตรสุดติ่งที่มีทุกอย่างในหนังแนวนี้มีแม้กระทั้งความพลิกผันหักมุมที่มียังตามสูตรเลยสิเอ้า อันที่จริงจะติก็ลำบากใจเพราะหนังสายลับมันก็จะมีทางของมันคือไม่มีทางที่จะไม่ได้รับแรงบันดาลใจหรืออิทธิพลจากงานเก่าๆ อย่างเรื่องนี้เอาจริงคือเป็นงานแนวสายลับที่ไม่มีอะไรเลยซื่อๆตรงๆเรื่องของสายรับระดับตัวพ่อตัวแม่ที่ปลีกตัวเร้นกายไปใช้ชีวิตปกติ ซึ่งเอาจริงก็สงสัยว่าทำไมไม่ไปอยู่ประเทศอื่นทำไมต้องกลับมาอเมริกาแต่ช่างมันเถอะแล้วสุดท้ายก็ต้องกลับสู่ภาคสนามอีกครั้งซึ่งก็ยังไม่ได้มีอะไรให้ตื่นใจเลย แต่ก็ดีที่มีความพยายามใส่ดราม่าครอบครัวเรื่องของช่องว่างระหว่างแม่กับลูกที่เป็นสองช่องที่จะให้บทเรียนและเข้าใจกันในตอนท้ายนี่ก็เห็นมามากมายอีกแล้ว นั่นหมายความว่าบทหนังสายลับเรื่องนี้เหมือนหยิบเอาลูกเล่นต่างๆในหนังแนวๆนี้มายำรวมกันเพื่อที่จะเป็นแอ็กชันปนตลกที่มีหัวใจ ทว่าที่ว่ามีหัวใจกลายเป็นว่าในบางครามันกลายเป็นตัวถ่วงให้หนังเนิบช้าส่วนชั้นเชิงความพลิกผันใดที่เข้ามาเพื่อหักมุมในตอนท้ายก็ยังมาตามสูตรจนได้คิดดู ยังเป็นความบันเทิงที่ไว้ใจได้เพราะหนังแบบนี้จะมีความสนุกในตัวแม้ว่าอะไรๆที่ใส่มาจะเคยเห็นมาก็ไม่เป็นไร แต่แม้จะสัตย์ซื่อที่จะเป็นหนังยำสูตรขนานใหญ่ส่วนดีคือฉากแอ็กชันที่มันส์ได้ใจแม้ว่าก็มาตามสูตรก็เถอะ ซึ่งก็น่าเสียดายที่ความพยายามจะใส่อารมณ์ขันคันๆเข้ามามันยังทำได้ไม่ดีพออาจเพราะเคมีของสองนักแสดงดูไปด้วยกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือยังเชื่อไม่หมดใจในความเป็นสามีภรรยา ทำให้ระหว่างทางที่จะหาเรื่องไปสู่ฉากบู๊สะบั้นขับรถไล่ล่ายิงกันกลางถนนกลางวันแสกๆที่เร้าใจสุดๆมันกลายเป็นคนละส่วน แต่อย่างน้อยฉากบู๊ที่ดูสนุกก็ทำให้หนังมีพลังพอที่จะไม่ง่วงหาวหรือปิดเอาไว้ก่อนอีกสองสามวันค่อยกลับมาดูนั่นคือดูรวดเดียวได้ แต่ทุกความมันส์ที่มีมันคือของมันต้องมีในหนังแนวนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะดูไปก็คิดถึงฉากนั้นฉากนี้จากหนังเรื่องนี้เรื่องนั้นเช่นมุขต่อปากต่อคำกันขณะขับรถ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาก็คือหนังยังดูสนุกเพียงแต่สองส่วนมันไม่เข้ากันคือทำได้ดีในความเป็นหนังแอ็กชันสายลับแต่ล่มปากอ่าวกับความเป็นแอ็กชันคอมมิดี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดราม่าที่แทบจะกลายเป็นส่วนเกิน ชื่อหนังก็บอกโทนโท่การแสดงจึงออกมาตามสมควรในหนังแนวนี้แต่ที่ได้ใจคือนักแสดงสมทบที่พลังแรงกล้า เอาจริงมันได้เท่านี้แหละสำหรับการแสดงของหนังแนวนี้ที่ถ้าไม่พยายามมีดราม่าอาจจะดีกว่านี้ก็ได้แต่เมื่อใส่เข้ามาแล้วมันก็ต้องมีซีนดราม่าซีนอารมณ์ซึ่งมันยังไม่ไปไม่ถึงจุดที่ต้องการ เอาง่ายคือเมื่อคนดูดูจบจะสามารถจดจำฉากไหนในเรื่องที่ไม่ใช่ฉากแอ็กชันคือคิดถึงหนังเรื่องนี้ฉากนั้นก็ลอยเข้ามาทันทีได้ ซึ่งอาจเรียกว่าชั่วไม่มีดีไม่ปรากฏสำหรับ Jamie Foxx กับเจ๊แคม Cameron Diaz เพราะระดับนี้การแสดงฉากแอ็กชันไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะใช้สตั๊นท์...ฮา แต่ที่มันไปไม่ถึงจุดที่ดีได้เพราะบทหนังมันไม่เป็นเนื้อเดียวกันมากกว่าหาใช่เพราะสองซุปตาร์เล่นไม่ได้ แต่ที่โดนใจสุดๆและเป็นพลังลึกลับมาเพื่อขโมยซีนชัดๆคือป้า เอ๊ะ หรือว่ายาย Glenn Close มาในบทอดีตเจ้าหน้าที่ MI6 มือเก๋าที่มาเพื่อสยบทุกอย่างหรือจะเป็นป้าเองนะที่ Back in Action เพราะถ้าว่าเรื่องของดราม่าแม่กับลูกป้า Glenn กับเจ๊แคมดูมีภาษีดีกว่าอาจเพราะมันคือการประสานงากันของมือเก๋าก็เป็นได้ ถึงยังไงนี่ก็คืองานที่ดูสนุกดูง่ายถ่ายคล่องไม่ต้องเปลืองกบาลไปคิดดูสนุกตามสูตรเป็นความบันเทิงง่ายๆสบายอุรา ถ้าว่ากันที่การดูหนังเพื่อความบันเทิงสักเรื่องก็ยังบันเทิงถึงใจได้ในฐานะหนังที่อาจเรียกว่าหนังป๊อปคอร์น นั่นคือเมื่อจะเลือกความบันเทิงในชายคาบ้านในเวลาที่ต้องการความบันเทิงที่ผ่อนคลายร่วมกันทั้งครอบครัวโดยไม่ต้องสนสี่สนแปดว่าเด็กจะดูไม่ได้ผู้ใหญ่จะดูไม่ดี เพราะนี่คือความบันเทิงที่ถ้าเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันขนมสักกองเครื่องดื่มสักแก้วใหญ่ๆมันก็สุขีดีๆนี่เอง เพราะหนังตั้งใจมาเป็นความบันเทิงเต็มขั้นไม่ต้องเปลืองกบาลไปคิดมากและหนังไม่มีอะไรซับซ้อนทุกอย่างที่มีสามารถหาได้ในหนังแนวนี้ทั่วไป และโดยส่วนตัวผู้เขียนแล้วเป็นหนังที่ดูสนุกแต่เมื่อผู้เขียนค่อนข้างถนัดดราม่าเลยเห็นว่าดราม่ามันเป็นส่วนเกินแต่มีก็ไม่เสียหายเพราะอย่างน้อยก็เป็นแรงจูงใจที่ดี สุดท้ายถ้าจะให้ฟันธงว่าหนังอยู่ในระดับไหนคงต้องบอกว่าเป็นหนังแอ็กชันสายลับที่ดูสนุกแต่ก็ธรรมดาเกินไปดูแล้วก็จบกันไปไม่มีอะไรค้างคาเป็นความบันเทิงง่ายๆสบายอุรากันไปก็เท่านั้น ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก,ภาพที่ 1,ภาพที่ 6,7 จาก Instagram netflixfilm ภาพที่ 2,3,4,5 จาก Instagram netflix เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !