รีเซต

"ลุกซ์" เปิดใจหลังพี่สาวพี่เขย "ใบเตย-ดีเจแมน" เข้าเรือนจำ ซ้ำคนรักเสียชีวิต!

"ลุกซ์" เปิดใจหลังพี่สาวพี่เขย "ใบเตย-ดีเจแมน" เข้าเรือนจำ ซ้ำคนรักเสียชีวิต!
EntertainmentReport2
7 มิถุนายน 2566 ( 17:51 )
121

เปิดใจครั้งแรกหลังเจอมรสุมชีวิต 2 ลูกใหญ่ สำหรับ "ลุกซ์ ชาญวิทย์" น้องชายของนักร้องลูกทุ่งสาว "ใบเตย สุธีวัน" หรือ "ใบเตย อาร์สยาม" ที่วันนี้จะมาเปิดใจหลังเข้าไปเยี่ยมพี่สาวกับพี่เขย พร้อมเผยคำพูดจุกอกจากหลานสาว น้องเวทมนต์ ร้องไห้คิดถึงพ่อแม่ อีกทั้งยังมีเรื่องที่แฟนหนุ่มที่คบกันมา 12 ปี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร

"ลุกซ์" เปิดใจหลังพี่สาวพี่เขย "ใบเตย-ดีเจแมน" เข้าเรือนจำ ซ้ำคนรักเสียชีวิต!

ล่าสุดลุกซ์โพสต์ภาพครอบครัว แท็กไปหาไอจีพี่ใบเตยกับพี่แมนด้วย?

ลุกซ์ : มันเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่เคยทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเวทมนต์แท็กให้พ่อกับแม่เขาทราบ เผื่อว่าวันนึงเขามีโอกาส เขาจะได้เห็นน้องพัฒนาการยังไงบ้าง ที่ผ่านมาเราทำอะไรบ้าง


ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : ทางครอบครัวก็ดีขึ้นเป็นลำดับ คุณแม่อยู่ต่างจังหวัด แต่คุณพ่ออยู่ด้วยกัน ส่วนบ้านพี่แมน คุณพ่อ คุณแม่อยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ ทุกๆ ท่านรู้สึกดีขึ้น เพราะมันผ่านเวลามาเกือบเดือนแล้วเรื่องใบเตย พี่แมน ลุกซ์ก็คอยประสานทุกคนให้กลับมาเข้มแข็ง ให้มาสู้เพื่อพี่เต้ย พี่แมน 


เห็นว่าลุกซ์ไปเยี่ยมพี่เตย พี่แมนทุกวันเลย?

ลุกซ์ : ไปทุกวัน


อัปเดตให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : แรก ๆ ก็เสียใจกันหมด ในนั้นเขาอยู่กันแบบผู้ต้องหาทั่วไป แรกๆ ทำใจกันยากนิดนึง ตอนนี้เขาก็คุยพยายามมองหาสิ่งดี ๆ ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ก็เหมือนทั้งคู่ก็ดีขึ้น

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บ Show


แต่ทุกครั้งที่ไปก็ยังถามถึงเวทมนต์?

ลุกซ์ : ถามก็เป็นคำถามแรกของทั้งสองคนเลย ก็จะถามหลานเป็นยังไง หลานทำอะไร เขาถามหาไหม เราก็บอกตามตรง ถามทุกวัน เหมือนเขาเห็นอะไรบางอย่างของพี่เตย พี่แมน เขาก็ถาม เขาจะรู้ เขาจะจำได้ เราจะบอกว่าไปต่างประเทศบ้าง ไปทำงานบ้าง พอถามเสร็จปุ๊บ เขาก็สตั้นไปพักนึงแล้วไปเล่นต่อ


แล้วเขาได้ถามไหมว่าเมื่อไหร่จะได้เจอ?

ลุกซ์ : ยังไม่มีคำถามว่าเมื่อไหร่ เพราะว่าเหมือนเขาฟังเราพูดปุ๊บเขาก็เข้าใจในสเต็ปนึง หลังจากนั้นเขาก็ไปเล่นต่อแต่บางทีเขาเล่นติ๊กต๊อกหรือยูทูบ เขาก็จะผุดขึ้นมาเลย อยากเจอ ตอนนี้เราเลยบอกที่บ้านว่าระงับไม่ให้เขาเล่นโซเชียล


ร้องไห้ไหมเวลาถามหาพ่อ แม่ แล้วไม่ได้เจอ?

ลุกซ์ : เขาไม่ร้อง แต่ลุกซ์อะร้อง


แล้วเขารู้ไหมว่าเราร้องไห้?

ลุกซ์ : นี่คือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ลุกซ์พาหลานไปอยู่กับคุณแม่ที่ใต้ เพราะว่าหลังเจอเรื่องที่เตยปุ๊บ เรากลับบ้านมา เราเห็นหน้าหลานทุกวัน ลุกซ์ร้องไห้ทุกวัน รู้สึกว่าคิดถึงแม่เขา รู้สึกว่ามวลสารในบ้านไม่ค่อยดีแล้ว รู้สึกเราเป็น toxic ให้หลาน เลยขอแม่ว่าให้แม่ไปอยู่กับหลานก่อน เพราะเราเหมือนเป็นคนส่งพลังลบมา เราไม่ไหว ก็เลยให้เขาไปอยู่ด้วยกันก่อนที่ใต้ ซึ่งแม่ดูแลหลานได้ดี จนกระทั่งลุกซ์พร้อม เสร็จเรื่องงานศพแฟนแล้ว ลุกซ์ก็ไปพาเขากลับมา


แสดงว่าเวลาที่ลุกซ์ร้องไห้ หลานมีแอบเห็นบ้าง?

ลุกซ์ : เห็นแล้วเขาจะสตั้นท์ไปเลย แล้วมาจับเราถามว่าน้าลุกซ์เป็นอะไรร้องไห้ทำไม ปกติลุกซ์ว่าลุกซ์เข้มแข็งมาก แต่พอเป็นหลานลุกซ์ไม่เข้มแข็งเลย ลุกซ์จะเดินไปที่อื่นเลย คนที่อยู่ด้วยกันก็จะช่วยพาหลานไปเล่นตรงนั้น ตรงนี้


ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว?

ลุกซ์ : ไปรับมาแล้ว เพราะว่าเข้มแข็งขึ้น


ได้เจอฝั่งคุณแม่พี่แมนบ้างไหม?

ลุกซ์ : เจอ เวลาไปเยี่ยมก็ไปด้วยกัน บางทีที่ทัณฑสถานถ้าญาติเยี่ยมเยอะ บางทีเราต้องแยกกัน บางทีลุกซ์ไปเยี่ยมพี่เตย แม่ป๋องก็ไปเยี่ยมพี่แมนในเวลาเดียวกัน ฝั่งผู้ชายเขาจะใช้เวลาสักพัก นานหน่อย แม่ป๋องเลยจะมาเยี่ยมพี่เตยน้อยหน่อย แต่ก็ส่งกำลังใจให้กันตลอด


แม่ป๋องโอเคแล้วใช่ไหม?

ลุกซ์ : ดีขึ้น ๆ 


แม่ป๋องเคยบอกว่าต่อให้รู้สึกอะไรก็จะไม่ร้องไห้ให้ลูกเห็น?

ลุกซ์ : ถ้าร้องไห้ก็ร้องไห้กับลุกซ์นี่แหละ เพราะเราไปด้วยกัน ต่างคนต่างเยี่ยม พอกลับมาเจอกัน อย่างลุกซ์หนักหน่อยเราเห็นแม่ป๋องทุกครั้ง เราร้องไห้มากเหมือนกัน หนูได้บอกแกไปล่าสุด กอดกันเลยว่าแม่หนูเสียใจมากเลย ที่วันนี้แม่ในวัยนี้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แล้วยังต้องทำอะไรแบบนี้อยู่ แม่ควรได้พักผ่อนแล้ว แม่ควรได้อยู่กับหลานโดยที่ไม่ต้องคิดมากอะไร แล้วทุกๆ ครั้งที่เราไป เราขับรถไปทัณฑสถาน แกต้องแยกไปทำภาระกิจบางทีแกต้องเดินไปคนเดียวเพราะมันไม่ทันจริงๆ เรารู้สึกสงสารมาก นึกถึงถ้าเป็นแม่เราคงลำบากเหมือนกันกับสภาพจิตใจแก


ลุกซ์ต้องปรับตัวมากแค่ไหนที่อยู่ดี ๆ ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว?

ลุกซ์ : ถึงตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้เต็มที่แบบ 100% โดยเฉพาะเรื่องหลาน ก่อนหน้านี้ลุกซ์ไปเล่นกับเขาบ่อย เรารู้สึกว่าดูแลเขาได้ พี่เตยกับพี่แมนเจอเรื่องนี้มา 9 เดือน เรารู้สึกว่าเราได้สร้างความเข้มแข็ง อาจจะมีวันนี้เกิดขึ้น เรารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นหน้าที่เรา แต่พอถึงเงลาจริง ๆ มันทำไม่ได้ คือลุกซ์ตอนที่เป็นน้ารู้สึกสบายใจกว่า แล้วเขาก็รู้สึกสนุกกับเรามาก แต่พอวันนึงสถานะเราเปลี่ยน ต้องมาเป็นผู้ปกครองหลาน เหมือนทั้งเขาและเรา ปรับตัวกันไม่ได้ สุดท้ายสายใยของพ่อแม่ก็คือพ่อแม่ เราเป็นน้า เราก็ทำหน้าที่เป็นน้ามันได้แค่นั้นจริงๆ นะ ทุกวันนี้ลุกซ์ยังรู้สึกเลย ลุกซ์ทำไม่ได้


ที่บอกว่ามันต้องปรับตัวทั้งคู่ มันปรับอะไรมากที่สุด?

ลุกซ์ : ก่อนหน้านี้ลุกซ์ไม่ได้อยู่บ้านนี้ พอวันนี้ลุกซ์มาปุ๊บ เขาจะสงสัย เขาจะถามว่าเราขึ้นไปนอนห้องแม่เตยเหรอ เรามาทำอะไร เราจะบอกว่าน้ามานอนห้องแม่ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ชินกับการอยู่บ้านพี่เตยพี่แมน เพราะในบ้านเขายังมีรูปภาพเขาอยู่ ลงมาก็เจอหลาน มันเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด หนูไม่ได้พร้อมจริงๆ ณ ตอนนี้ก็ไม่พร้อมแต่มันต้องทำ แล้วคงต้องใช้เวลาคุ้นชินไปกับมัน


ตอนเราเข้าไปหาพี่เตยเขาห่วงอะไร?

ลุกซ์ : เขาห่วงอย่างเดียวเลยคือหลานเท่านั้นเลย เขากลัวว่าหลานจะอยู่ได้ไหม ทุกครั้งเขาจะถามลุกซ์ก่อนเลยว่าหลานอยู่ได้ไหม น้องไหวไหม เมื่อเช้าก็ไปมา ก็ถามคำถามเดิม ลุกซ์ก็จะบอกว่าลุกซ์ไหวทุกวัน เหนื่อยทุกวันก็สู้ ความเหนื่อยมันมีอยู่แล้วแต่ว่าไม่เป็นไร ยินดีทำให้ เต็มใจทุกวัน ไม่ต้องเป็นห่วง


มันก็เหมือนมรสุมชีวิตเรื่องใบเตย ดีเจแมน แล้วมาเรื่องของลุกซ์เองอีกที่หนักมาก ๆ ที่สูญเสียคนรัก?

ลุกซ์ : ใช่


จริง ๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับแฟนเรา?

ลุกซ์ : เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 4 พฤษภาคม ปกติเขาจะกลับมาบ้านตอน 6 โมง เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า บางวันเขาเหนื่อย เขาจะหลับ 2-3 ทุ่มตื่นแล้วจะออกมาวิ่ง แล้วจะมีบางวันวิ่งเสร็จแล้วหิว ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ไปกินบะหมี่แถวหมู่บ้านก็จะมี ซึ่งวันนั้นลุกซ์คุยกับเขา ลุกซ์หลับตอน 4 ทุ่มกว่าๆ บอกฝันดีอะไรเรียบร้อยแล้ว ได้รับเมสเสจที่มาเห็นตอนรู้ว่าเขาเข้าโรงพยาบาลแล้ว เขาส่งมาตอน 23:59 ของวันที่3 บอกว่าวิ่งเสร็จแล้วนะ หลังจากนั้น 00:40 เกือบตี 1 ญาติเขาโทรมา พี่ลุกซ์ไปดูพี่หน่อย เขาอยู่โรงพยาบาลคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ตอนแรกเราคิดว่ามิจฉาชีพหรือเปล่าที่โทร.ไปหาญาติ เพราะมันไม่ใช่เนเจอร์ที่เขาจะไปไหนเวลานั้น เราตกใจรีบแต่งตัวไปที่โรงพยาบาล สรุปคือเรื่องจริงเขาไม่ได้หมดสติเลย เขาโวยวายอยู่ในเตียง แต่เป็นการโวยวายที่ไม่ได้ลืมตา และไม่ได้โวยวายกับเราแล้ว


ภาพที่เห็นตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : รับรู้ได้เลยมีอุบัติเหตุทางสมองเกิดขึ้น แกโดนมัดทั้งมือเท้าหมดเลย เพราะแกดิ้น แล้วพูดเรื่องงานทั้งหมดเลยเลือดก็มีไหลออกหู แต่ตรงสมองปิดแผลไว้แล้ว ที่เราตกใจเลยคือ ตอนนั้นคือรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่กับลุกซ์แล้วตั้งแต่ตอนนั้น เพราะเราไม่ได้พูดกันด้วยความเข้าใจกันแล้ว เราไม่เข้าใจเขาแล้ว บอกเขาสิ่งที่เขาขอเกี่ยวกับงานว่าทำให้แล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะมีช่วงเย็นลง แล้วอยู่ดี ๆ ก็กลับขึ้นมาอีก


คุณหมอบอกว่ายังไงบ้าง?

ลุกซ์ : สมองกระทบกระเทือน วันแรกหมอบอกว่ายังสบายใจได้นะ เพราะว่าคนไข้ที่เป็นอาการเกี่ยวกับสมองแล้วยังโวยวายได้แบบนี้ แปลว่ายังโอเค แต่ถ้าหมดสติ หลับไปแปลว่าหนัก เราก็เชื่อหมอ ฟังที่หมอพูดเราก็มีกำลังใจ คืนนั้นก็อยู่กับแกถึงตี4 แล้วแกถูกส่งตัวไปที่ห้องพักด้านบนแล้วเราไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้แล้ว มาหาแกอีกทีตอนเที่ยงอีกวันวันนั้นไม่ได้ผ่า มาผ่าอีกวันนึง


พอผ่าคุณหมอบอกว่ามีโอกาสที่จะรอด 3 เปอร์เซ็นต์

ลุกซ์ : หลังผ่าคุณหมอออกมาบอกว่าทำใจนะ สมองเขากระทบกระเทือนเยอะมาก เขาจะมีโอกาสกลับมาปกติแค่ 3% ตอนนั้นไม่ว่าหมอจะพูดอะไรหนูยังมีความหวังอยู่ 100% ว่าเขามา เรารู่แหละว่าวิทยาศาสตร์เขาพูดแบบนี้ แต่เราเชื่อปาฏิหาริย์ ลุกซ์มีความหวัง ไปเยี่ยมทุกวัน หลังจากนั้น 2-3 วันเลือดยังออกในสมองเยอะอยู่ หมอเลยผ่ารอบที่ 2 แต่พอหลังจากผ่ารอบแรกเสร็จแกก็หลับไปเลย หลังจากนั้นลุกซ์ไม่ได้ยินเสียงแกอีกเลย ผ่ารอบสองไปสักพักอาการก็ทรงๆ ไม่ได้ดีขึ้น เท่าเดิม บางวันไม่ดี บางวันเท่าเดิม จนถึงวันสุดท้ายวันที่ 18 พฤษภาคม ลุกซ์ไปเยี่ยมแกปกติโดยที่ไม่ได้รับรู้ว่าแกแย่ลงหรืออะไร ไปถึงปุ๊บพยาบาลบอกว่าเขาแย่ลงนะ สารที่ได้รับมา ๆ ลุกซ์หันไปถา หมอแค่คำเดียววันนี้ใช่ไหม เขาก็พยักหน้า เขาบอกเรามาว่าให้ไปแจ้งคุณพ่อ คุณแม่แฟนนะ เดี๋ยวเขาจะต้องตัดสินใจเรื่องใช้เครื่องปั๊มหัวใจหรือเปล่า เพราะต้องเป็นพ่อ แม่ ที่ตัดสินใจ เราเลยกลับไปบอกพ่อกับแม่เขา ทุกคนเห็นตรงกันว่าปั๊มแน่นอนเพราะเราอยากมห้โอกาสเขาได้ใช้ชีวิต พอ 6 โมงเย็นได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกที ได้เจอหมอได้พูดคุย แล้วเห็นสภาพที่แย่ลงของเขามากๆ พ่อ แม่ เขาเลยตัดสินใจอีกแบบนึง คืนวันนั้นก็ค่อยๆ ไป


ไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงใช่ไหม?

ลุกซ์ : ทำทุกทางที่เพื่อน ๆ หรือผู้ใหญ่ให้คำแนะนำให้ไป ก็ไปหมด ไปขอและทุกครั้งที่ขอ ขอให้กลับมา ไม่ว่าจะกลับมาเหมือนเดิม หรือไม่เหมือนเดิมก็ขอให้เขากลับมา


นี่คือแม่เขาทัก?

ลุกซ์ : วันนั้นช่วงเย็นหัวใจแกเต้น 130 กว่า แต่พยาบาลบอกว่า สมอง ปอด การหายใจ ความดันไม่ดีแล้ว ตอนนี้มีแต่หัวใจ เราก็ยังสงสัยอยู่เลยทำไมหัวใจยังเต้นๆ อยู่ จนหมดเวลาเยี่ยมตอน 2 ทุ่ม หัวใจไม่หล่น พยาบาลเลยบอกว่าลองให้ยาความดันดู เผื่อถ้าความดันกลับมา เขาอาจจะกลับมาได้ดีขึ้น เราก็กลับบ้านกันไป ลุกซ์ถึงบ้านไม่ถึง 15 นาทีได้รับโทรศัพท์ให้กลับไปอีก ภาพที่เจอหัวใจก็ยังเต้น 130 อยู่ แต่พยาบาลบอกตอนที่เรากลับบ้าน หัวใจหล่นลงมาเหลือหลักสิบ แต่พอเรากลับไปก็เป็น 130 จนคุณพ่อ คุณแม่ มาบอกเราว่าต้องให้เขาไปแล้ว ต้องปล่อยเขาไป เพราะเขาทรมาน ก็เลยหาทุกอย่างที่ทุกคนไปมา แล้วบอกว่า เราไม่เป็นอะไรแล้วนะ ที่เคยไปขอกันมา เราปล่อยเขาไปได้แล้ว ไม่เป็นไร เราโอเค เรายกเลิกทุกคำบนบานสานกล่าว ทุกคำขอทุกอย่าง ให้เขาไปเจอทางสบายที่เขาควรจะได้เป็น ควรจะได้ไปดีกว่า


แล้วพอไปถอนปุ๊บ?

ลุกซ์ : พอถอนปุ๊บเริ่มลดลง แล้วทุกอย่างเลย เรื่องบ่นบานศาลกล่าว เรื่องเขาเป็นห่วง เรื่องงาน อย่างลุกซ์เองก็ได้พูดเรื่องครอบครัวลุกซ์ เรื่องหลาน เรื่องพี่เตย พี่แมน ไม่เป็นไรนะ พี่เตย พี่แมน ปลอดภัยแล้ว แล้วสุดท้ายสวดชินบัญชรกัน เกือบจะจบแล้วแกไปก่อน ลุกซ์นั่งจ้องเลข ลดลงไปเหมือนในหนังเลยจนเป็นกราฟนิ่ง


ความรู้สึกตอนนั้นที่เรานั่งจ้องเลขกับคนรักของเรา เรารู้สึกยังไง?

ลุกซ์ : ตอนแรกเราคิดว่าเราทำใจได้ แต่พอมันตืดปุ๊บลุกซ์กลายเป็นคนที่ทำใจไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็ยากที่สุด หันไปหาแม่ หันไปหาพ่อ หันไปหาหมอ จริงเหรอ ทุกคนจะไม่ทำอะไรกันแล้วเหรอ ตอนนั้นหัวใจเราหล่นไปอยู่ที่พื้นเลย แล้วสักพักก็มีคนมากอดพาเราออกไปข้างนอก


ตอนนี้คดีความไปถึงไหนแล้ว?

ลุกซ์ : ล่าสุดคุณตำรวจมา เขาไม่ได้มารายงานตัว รอหมายจับจากคุณตำรวจ หมายเรียกเพิ่งออกไปใบที่2 ถ้าเขาไม่มาก็จะเปลี่ยนเป็นหมายจับ


เรื่องเอกสารเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : ลุกซ์ต้องบอกว่าได้รับเกียรติจากคุณพ่อ คุณแม่ ขอบคุณทั้งครอบครัวเลยที่เอ็นดูลุกซ์ จริง ๆ ลุกซ์อยากทำอะไรมากกว่านี้เยอะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเดินเอกสารต่างๆ ในความรู้สึกเรา เรารักกันมา 12 ปี หลายๆ อย่างเราอยากจะทำแทนพ่อ แม่ เราอยากจะรับผิดชอบด้วยกัน แต่ว่าด้วยกฎหมายบ้านเรายังไม่ได้พร้อมตรงนี้ ก็คาดหวังแล้วกันว่าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง ลุกซ์อาจจะเป็นเคสตัวอย่างที่เป็นคู่รักที่เป็นแบบนี้ มันเป็นเรื่องจริง ลุกซ์เป็นกระบอกเสียงได้ว่าเราบริสุทธิ์ใจไม่แพ้ชาย หญิง คู่ไหน เราอยากช่วยพ่อกับแม่เต็มที่มากๆ แต่หลายๆ อย่างเรายังทำไม่ได้ ขอโอกาสให้พวกเราได้ทำแล้วกันนะครับ

พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมไปเตยไหม?

ลุกซ์ : ก็ไปทุกวันอยู่แล้ว ขอบคุณทุกคนมาก ๆ พี่เตยกับพี่แมนตอนนี้ก็อยู่ได้ด้วยกำลังใจล้วน ๆ กำลังใจจากทุกคนทำให้ทั้งสองคนสู้ต่อไปได้

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama