ด้วยความที่ช่วงนี้มีคอนเสิร์ตของเหล่า K-POP ในไทยรัว ๆ แบบเดือนต่อเดือน เลยทำให้เรานึกถึงคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ถือเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกในฐานะ EXO – L (ชื่อเเฟนคลับวง EXO) นั่นคือคอนเสิร์ต EXO PLANET #3 THE EXO’r DIUM in BKK ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2016 แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมาแล้ว 3 ปี แต่ความทรงจำในช่วงเวลานั้นกลับไม่เลือนหาย เพราะตั้งแต่ประกาศตนว่าเป็นแฟนคลับวง EXO ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปคอนเสิร์ตเลยสักครั้ง ด้วยแต้มบุญที่น้อยนิด บวกกับการเงินที่น่าเป็นห่วง เลยทำให้ชวดอยู่ตลอด และแน่นอนว่าคอนเสิร์ตนี้ก็ชวดเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือแต้มบุญที่ยังมีอยู่บ้าง เลยทำให้ได้บัตรคอนมาจนได้ (แม้ว่าจะได้ที่นั่งที่ไม่ค่อยดีนัก) พอถึงวันที่มีคอนเสิร์ต(เป็นรอบวันเสาร์) ก็แต่งตัวจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้(แต่ต่อให้จัดเต็มขนาดไหน อปป้าก็คงมองไม่เห็นเราหรอก T^T) แล้วเดินทางจากลาดพร้าวฝ่ารถติดไปจนถึง อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ไปถึงตอนเที่ยงแดดเปรี้ยง ๆ ก็เดินช็อปปิ้งฆ่าเวลา เจอทั้งของออฟฟิเชียล และก็อปปี้(เชียล) วางขายเกลื่อนกลาดระรานตาชวนให้กระเป๋าเงินสั่นอยู่ตลอด แถมรอบ ๆ ฮอลล์ก็มีกิจกรรมจากเหล่าสปอนเซอร์อยู่เยอะแยะ เลยเดินเพลินจนแทบลืมเวลาไปเลยจ้า(ภาพจากกล้องโทรศัพท์เบลอ ๆ แต่ความรักที่มีให้เธอไม่เบลอนะจ๊ะเเบคฮยอน^^) พอ 4 โมงเย็น ประตูเริ่มเปิดเหล่า EXO – L ก็รวมใจกันไปเข้าแถวขึ้นฮอลล์กันตามระเบียบ ผ่านด่านตรวจนั่นตรวจนี่(ตรงนี้แอบเฟลเล็ก ๆ ด้วยความที่ลืมว่าในกระเป๋ามีมาการองที่เค้าแจกมา โดนตรวจเจอเลยจำใจต้องทิ้ง เศร้ามาก อดกิน) พอเข้าฮอลล์ไปได้ก็หาที่นั่ง ในใจก็ได้แต่ร้องว่าแม่เจ้า เพราะที่นั่งของเราคือโซน F ที่นั่ง T14 ซึ่งก็คือชั้นดอยบนสุดติดผนังฮอลล์เลย เวลาเดินไปก็ขาสั่นไป(กลัวความสูง แต่เพื่ออปป้าหนูทนได้) ระหว่างรอการแสดงก็จะมี VCR เปิดวนไปวนมา ส่วนใหญ่ก็เป็นโฆษณาจากสปอนเซอร์ทั้งหลาย แล้วก็ยังมีการทดสอบระบบแท่งไฟเปลี่ยนสีที่ต้องขอบอกว่าสวยมาก(แต่น่าเสียดายที่เราต้องจำใจใช้แท่งไฟจีนแดงที่มันเปลี่ยนสีตามไม่ได้เพราะงบหมด)(ในภาพอาจดูเหมือนใกล้ แต่ว่าจริง ๆ แล้วไกลลิบ เห็นอปป้าตัวเท่ามดเอง) พอการแสดงเริ่มเสียงกรี๊ดกระหึ่ม พร้อมกับเหล่าอปป้าที่เปิดตัวมาพร้อมกับเพลง Monster แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นไคขาเจ็บทำให้ไม่สามารถขึ้นมาแสดงได้ แต่ว่าก็ออกมาทักทายแฟน ๆ เป็นพัก ๆ พอถึงช่วงเม้นท์ หนุ่ม ๆ ก็ทักทายเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ” สำเนียงแต่ละคนนี่ชัดเจนมาก ซึ่งก็สมแล้วกับที่เป็นเขยไทย แถมยังมาออดอ้อนบอกว่าคิดถึง งานนี้ฟินกันยกฮอลล์ไปเลย(แค่ท่าพนมมือก็เห็นออร่าเขยไทยแล้ว) ตลอดการแสดง หนุ่ม ๆ EXO ก็มีแฟนเซอร์วิสกับแฟนคลับเยอะมาก ทั้งช่วง EDM ที่หนุ่ม ๆ ขอให้แฟน ๆ ลุกขึ้นมาแดนซ์กระจายไปด้วยกัน(ต้องบอกว่าเป็นการชมคอนเสิร์ตที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต เต้นทีไม่อายคนที่นั่งข้าง ๆ กันเลยทีเดียว) ยิ่งช่วงท้าย ๆ อปป้าเล่นกันเยอะมาก ร่าเริงมาก ๆ จนแฟนคลับต่างประเทศยังอิจฉา(หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวลา EXO มาแสดงคอนเสิร์ตที่ไทยจะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ตามบทเหมือนที่อื่น) ก่อนจากกันก็ยังมีการบอกให้กลับบ้านกันอย่างปลอดภัยและก็ให้หาอะไรกันด้วย แหม แบบนี้จะไม่ให้รักได้ไงล่ะ (เพลง unfair เวอร์ชั่นอะคูสติก เป็นอะไรที่ฟินมาก) (ทุกคนดูร่าเริงมาก แค่ได้เห็นอปป้ามีความสุข เราก็แฮปปี้) สรุป ตลอดเวลาการแสดงกว่า 4 ชั่วโมง มีแต่ความสุข ความสนุก ความฟิน แล้วก็ได้ความทรงจำดี ๆ กลับบ้านไปอีกด้วย และแม้ว่าในสายตาคนอื่นจะมองว่าการไปชมคอนเสิร์ตเกาหลีเป็นอะไรที่เปลืองมาก บัตรแพง นู่นนั่นนี่ แต่เรามองว่านั่นคือการซื้อความสุขและความทรงจำดี ๆ ที่นาน ๆ ทีจะได้สักครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันตีมูลค่าไม่ได้ แต่หากสิ่งเหล่านั้นจะช่วยเป็นกำลังใจให้เรา เป็นแรงบันดาลใจให้เรา หรือแม้จะเป็นแค่ความทรงจำที่เลือนรางในอีก 20 ปี เราว่ามันก็คุ้มค่าที่จะซื้อบัตรคอนแล้วเดินเข้าฮอลล์ไปหาอปป้าที่รักของคุณได้ของเเจก ของซื้อ เพียบ รูปภาพบางส่วนจาก: SM True