Short Comment Why didn’t I tell you a million times? อยากบอกล้านครั้งว่ารักเธอ (2023)ฆาตกรรม ความรัก ความตาย และความหมายของเวลาที่ไม่เคยย้อนกลับมาเพื่อให้เอ่ยคำว่า...เพิ่งเขียนถึงไปไม่นานว่างานจากญี่ปุ่นทั้งหนังและซีรีส์จะมีดีที่จินตนาการและมีวัตถุดิบชั้นดีให้หยิบมาใช้ได้มากทั้งมังงะและนิยาย แล้วบ่อยครั้งที่วรรณกรรมหรือมังงะของญี่ปุ่นจะเป็นเรื่อเหนือจินตนาการให้ได้จินตนาการผ่านตัวอักษรหรือลายเส้นที่เมื่อคนอ่านได้จินตนาการตามไปก็จะสนุกและมีภาพในหัวของใครของมันในกรณีที่เป็นวรรณกรรมหรือนวนิยาย แต่หากเป็นมังงะแล้วจินตนาการส่วนหนึ่งได้ถูกขยายความออกมาเป็นงานด้านภาพทำให้ภาพในหัวของคนดูจะชัดตรงกัน ทว่าความยากของการเอามังงะมาเป็นภาพเคลื่อนไหวหรือที่เรียกว่า Live Action ก็จะมีข้อจำกัดที่จินตนาการที่โลกแห่งความจริงอาจทำไม่ได้เหมือนที่ขีดเขียนเป็นลายเส้นไว้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้และควรต้องทำให้ได้คือจิตวิญญาณของสารที่มังงะเรื่องนั้นๆจะสื่อต้องมาให้ได้ในระดับที่จับใจคนดู เพราะบางครั้งเรื่องเหนือจริงที่เป็นโลกแห่งจินตนาการก็มีเจตนาให้คนอ่านหรือคนดูฉุกคิดอะไรบางอย่าง และที่ดูไปบ่นไปเคยบ่นไว้ว่างานที่สร้างจากเรื่องเหนือจินตนาการให้ออกมาเสมือนเรื่องจริงจนแทบจับต้องสัมผัสได้นั้นญี่ปุ่นจะทำได้ดีมากกว่าที่อื่นเช่นเดียวกับซีรีส์เรื่องนี้เรื่องเปิดมาที่โซมะ ยูอิ (มาโอะ อิโนอุเอะ) กำลังรอคอยการกลับมาของโทริโนะ นาโอกิ (ทาเครุ ซาโตะ) แฟนหนุ่มแต่เมื่อเขากลับมาก็เหมือนกับยูอิคุยอยู่คนเดียวเหมือนเขาเป็นอากาศ แล้วเรื่องก็เฉลยว่านาโอกิที่คนดูเห็นคือวิญญาณที่ยูอิไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนมีชะตากรรมอย่างไรและอยู่หรือตายไปแล้ว กระทั่งยูอิไปแจ้งความคนหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซูซุรุ อุโอสึมิ (เคนอิจิ มัตสึยามะ) แต่เจ้าหน้าที่อุโอสึมิกลับบอกว่าเธอถูกทิ้ง กระทั่งเมื่อเจ้าหน้าที่อุโอสึมิมองเห็นวิญญาณของนาโอกิเพราะครอบครัวของเขามีความสามารถพิเศษที่มองเห็นผี เมื่อเป็นเช่นนั้นนาโอกิจึงขอให้อุโอสึมิเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับยูอิเพราะนาโอกิมีอะไรมากมายที่ยังค้างคาใจจนไม่อาจเดินทางไปปรโลก ในขณะเดียวกันอุโอสึมิก็ได้ทำคดีฆาตกรรมที่หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือนาโอกิและคนที่ตายก็เกี่ยวพันกับอดีตของทั้งนาโอกิกับยูอิที่เมื่อตอนอยู่มัธยมต้นพวกเขาอยู่บ้านอุปถัมภ์เดียวกันก่อนที่จะจากกันจนมาพบกันหลังจากยี่สิบปีผ่านไป แล้วใครที่เป็นฆาตกรนาโอกิตายหรือยังแล้วใครเป็นคนฆ่าและอะไรที่นาโอกิอยากบอกกับยูอิเพื่อหลุดพ้นและปล่อยวางเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นแท้ไม่มีอะไรเจือปนจนเข้าใจได้ว่าบางครั้งไม่ต้องเร้าใจมากมายก็มีแรงดึงดูดได้ เพราะงานญี่ปุ่นแท้ๆจะเล่าเรื่องเรียบเรื่อยแล้วปล่อยให้คนดูเก็บเกี่ยวภาพที่เห็นมาประกอบเป็นความรู้สึกผ่านภาพสวยเพลงเพราะหรือบางครั้งก็นิ่งสงบและเงียบงันซึ่งเรื่องนี้เป็นแบบนั้นเต็มที่ แต่เสน่ห์ของความเรียบของญี่ปุ่นก็ยังมีคือการไม่พยายามขยี้ในทุกเรื่องทำให้ไม่เห็นว่าจงใจบีบทั้งที่ถ้าจะบีบคั้นก็มีช่องมากมาย สิ่งที่ตามมาคือเรื่องออกมาไม่ฟูมฟายทั้งที่เล่าเรื่องของความตายและการจากลาที่มาก่อนเวลาอันควรกับคู่รักที่กำลังรักกันดื่มด่ำ บทยังทำได้ดีในการสร้างคำถามในใจคนดูมากมายเกี่ยวกับความรักความตายและการจากลาโดยใช้ความลึกลับของคดีฆาตกรรมมาบังหน้า อีกสิ่งที่ช่วยให้เรื่องมีพลังดึงดูดชนิดเอาอยู่คือการเล่าเรื่องของวิญญาณให้ออกมาในโทนเบาๆที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อของชาวตะวันออกอย่างเราๆที่ว่าด้วยเรื่องของการหลุดพ้นและการปล่อยวาง ทำให้เรื่องที่เล่าออกมาเหนือจินตนาการแต่ก็จินตนาการได้ว่าบางทีอาจมีใครสักคนอยู่ข้างๆโดยที่เรามองไม่เห็นเพราะเขาอยากบอกอะไรบางอย่างกับเราเลือกไม่ใช้ความโรแมนติกมานำหน้าแต่ใช้ความน่าสงสัยพาให้สัมผัสได้ว่ามีอะไรอยู่ในใจที่ค้างคา นี่คือเรื่องของคนคนหนึ่งที่กำลังจะขอแฟนแต่งงานแล้วก็มีอันต้องมาเป็นวิญญาณที่เธอมองไม่เห็นมาวนเวียนอยู่ข้างเธอคนที่รักซึ่งมันควรจะเศร้าซึ้งสิ ทว่าเรื่องนี้กลับใช้คดีฆาตกรรมที่ผีไปมีส่วนและสงสัยว่าตัวเองตายหรือยังและถ้าตายใครเป็นคนฆ่าเพราะว่าความทรงจำตรงนั้นขาดหายไป เรื่องจึงเดินหน้าด้วยความสงสัยมาชี้นำความโรแมนติกคืออารมณ์โรแมนติกก็ยังมีแต่ความสงสัยเกี่ยวกับคดีมาแรงกว่า กระนั้นเมื่อถึงเวลาก็ปล่อยของออกมาจนน้ำตาซึมได้เพราะเมื่อยิ่งสืบอดีตก็ผุดขึ้นมาให้รำลึกว่าที่เห็นอยู่มีความเป็นมาอย่างไร และความรักของเขาและเธอมากขนาดไหนจนสัมผัสได้ว่านาโอกิมีอะไรที่ต้องสะสางไม่ให้ค้างคาก่อนจะจากไป น่าเสียดายที่เรื่องของการจากลาและการปล่อยวางจุดติดแล้วแต่ไม่สุดเพราะเมื่อไม่อาจอยู่ร่วมกันได้เพราะอยู่คนละโลกสิ่งที่ต้องเป็นคือคนอยู่ก็ต้องอยู่ต่อไปให้ได้และต้องอยู่ดี แต่เรื่องก็จุดติดได้แค่ไฟกองเล็กเมื่อคนดูลุ้นไปแล้วว่าความรักของยูอิจะต้องลงเอยแบบไหนแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามนั้นคงคอนเซปต์ของเวลาไม่เคยย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกเพราะเวลาไม่เคยรอใครและเพราะเวลาจะไม่ย้อนกลับมาให้แก้ไขหรือให้โอกาสที่สองกับใครในเรื่องที่น่าจะทำแต่ไม่ทำ และกับเรื่องนี้ที่ชื่อว่า Why didn’t I tell you a million times? ที่แปลตรงตัวว่าทำไมไม่บอกกับเธอเป็นล้านครั้ง? ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบคอนเซปต์ของการที่เมื่อมีโอกาสมีเวลาอะไรที่อยากบอกอยากทำก็จงทำและอย่าคิดว่าคนอื่นจะเข้าใจ เพราะเวลาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เมื่อผ่านมามันจะกลายเป็นอดีตที่เป็นความทรงจำแล้วเมื่อถึงจุดที่มันอยู่จะเป็นปัจจุบันที่จะทำอะไรก็รีบทำเพราะเมื่อคิดล่วงหน้าเวลาก็คืออนาคตที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่ออยากทำอะไรเพื่อใครหรืออยากบอกอะไรกับใครจงรีบทำรีบบอกและตั้งแต่ต้นจนจบนาโอกิพยายามจะบอกแต่บอกไม่ได้เพราะต้องสื่อสารผ่านผู้ชายอีกคน แม้กระทั่งการทำอะไรที่เหมือนสะสางไปแล้วและพร้อมจะจากไปแต่คนดูจะรู้ว่านาโอกิยังไม่ได้บอกกับยูอิที่คนดูลุ้นจนแทบนาทีสุดท้ายว่านาโอกิอยากบอกอะไรกับยูอิเป็นล้านครั้งและเขาจะบอกหรือไม่ด้วยความจับใจไม่ฟูมฟายลงท้ายสวยงามความที่เป็นละครฉายทางโทรทัศน์การแสดงจึงได้มาตรฐานละครโทรทัศน์แต่มีดีที่เสน่ห์นักแสดง ทีแรกนึกว่าเป็นซีรีส์ที่ค่ายสตรีมมิ่งชื่อดังออกทุนสร้างเหมือนซีรีส์ญี่ปุ่นดีๆในช่วงหลังแต่เมื่อดูๆไปเห็นการเล่าเรื่องก็ชักเอะใจสุดท้ายก็ทราบว่านี่คืองานที่สร้างมาออกฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งแน่นอนในส่วนของการแสดงผ่านการกำกับการแสดงระดับละครโทรทัศน์ก็ยังคงได้มาตรฐาน เพราะอะไรที่ควรให้คนดูสัมผัสได้อะไรที่ควรซ่อนได้หรืออะไรที่ควรดึงอารมณ์คนดูได้นักแสดงก็ทำได้เพียงแต่ยังเห็นว่ามีบ้างบางครั้งที่ยังหลุดไปไม่เนียนตาหรือเห็นว่าตั้งใจเกินไป แต่สิ่งที่มาชดเชยคือเสน่ห์ของนักแสดงที่อาจจะคัดเลือกจากลักษณะตัวละครจากมังงะจึงไม่เห็นว่าใครจะมาแทนได้ทั้งทาเครุ ซาโตะ,มาโอะ อิโนอุเอะ,เคนอิจิ มัตสึยามะและชิมอึนคยอง ทั้งหมดให้การแสดงที่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาสำหรับสามคนแรกจะจับต้องได้เลยว่าเป็นรักสามเส้าระหว่าสองคนกับหนึ่งผี ส่วนนักแสดงเกาหลีที่มาแสดงละครญี่ปุ่นอย่างชิมอึนคยอง (Miss Granny (2014)) ที่มีเครดิตผลงานทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีแต่แสดงเรื่องนี้ไม่มีแววของการแสดงแบบเกาหลีเลยแต่เป็นการแสดงแบบญี่ปุ่นอย่างน่าสนใจอาจไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับคนทั่วไปแต่ถ้าชินกับซีรีส์ญี่ปุ่นแท้ๆก็ไม่มีปัญหา เพราะความไม่เร่งไม่บีบไม่เร้าไม่ขยี้แบบนี้อาจไม่ถูกจริตคนที่ไม่คุ้นเคยแต่ถ้าเคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นแท้ๆมาบ้างหรือชอบทางนี้นี่คืองานที่เล่าเรื่องได้เอาเรื่องเลย เพราะการใช้ความน่าสงสัยในคดีฆาตกรรมหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นซีรีส์แนวสืบสวนที่มีความโรแมนติกมีเรื่องความรักซ้อนอยู่เบื้องหลังโดยมีแก่นเรื่องความตายการจากลาการปล่อยวางและการปล่อยมืออยู่เบื้องหลัง เท่ากับว่าเรื่องนี้น่าสงสัยน่าลุ้นว่าใครคือฆาตกรใครอยู่เบื้องหลังที่มีพลิกผันมีหักมุมแต่ถ้าดูซีรีส์เกาหลีมานานอย่างผู้เขียนก็น่าจะเดาออก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะบทได้สร้างหลุมพรางทางสมองไว้ให้แม้จะเดาได้แต่ใจยังไม่ยอมเชื่อและหลงไปกับการชี้นำ ที่สำคัญแก่นของเรื่องชัดเสมอต้นเสมอปลายให้คิดได้ว่าเมื่อมีโอกาสจงอย่ารีรอเพราะโอกาสอาจกลายเป็นอากาศ ที่น่าแปลกใจคือทั้งที่เรื่องเล่าแบบไม่เร่งไม่เร้าค่อยเก็บเกี่ยวปมและความรู้สึกแต่กลับไม่มีน่าเบื่อคือดูได้เรื่อยๆแต่ก็หยุดดูไม่ได้ ที่สำคัญญี่ปุ่นก็ยังเป็นญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องเหนือจินตนาการให้ออกมาเสมือนจริงได้เหมือนกับจะเกิดขึ้นได้จริงดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 จาก Instagram paravi.officialภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram hyakumankai_tbs ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/LNVXByJlzpjwhttps://entertainment.trueid.net/detail/w1NEd7ZXKQEvhttps://entertainment.trueid.net/detail/1GyjnZ4Ewnlrhttps://entertainment.trueid.net/detail/J9Wz81joAg3r จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !