“หลัวอวิ๋นซี” (Luo Yunxi) หรือ "ลีโอ หลัว" (Leo Luo) เป็นนักแสดงที่ถูกเลือกขึ้นมาเป็นพระเอกอันดับหนึ่งในใจแฟน ๆ หลาย ๆ คนหลังจากที่ผลงานการแสดงของเขาโดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากซีรีส์ "จันทราอัสดง Till The End of The Moon" (2023) ในบทบาท "ถานไถจิ้น" ที่ต่อให้เป็นจอมมารที่เหี้ยมโหดขนาดไหน ก็โกรธกันไม่ลง แถมยังต้องหาทางทำความรู้จักเขาให้มากกว่าที่ได้ชมผลงานว่าเขาเป็นใครจากไหน มีงานแสดงอะไรมาบ้าง แล้วก็ต้องไล่ดูผลงานเรื่องต่าง ๆ เท่าที่จะหาดูได้ สำหรับคนที่เพิ่งจะได้สัมผัสผลงานการแสดงของเขาครั้งแรกจากเรื่องนี้ แต่สำหรับใครที่ติดตามมาอยู่แล้ว ก็รอลุ้นผลงานใหม่ ๆ กันต่อไปว่าจะมีผลงานอะไรอีกบ้างให้ได้ชมกน พื้นที่ตรงนี้จึงเชิญชวนคนที่ยังไม่รู้จักมารู้จัก "หลัวอวิ๋นซี" กันมากขึ้น ส่วนคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว ก็มาย้อนความทรงจำและมาติดตามผลงานใหม่ ๆ กันค่ะ#ประเทศไทยมีหลัวอวิ๋นซีแล้วนะ"หลัวอวิ๋นซี" เพิ่งจะเดินทางมาเมืองไทยเพื่อจัดงานแฟนมีตติ้งและในฐานะตัวแทนเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีนในงาน China-Thailand Friendship Culture Exchange “Special Live Show with Luo Yunxi” เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2023 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 6 ทำให้แฮชแท็ก #ประเทศไทยมีหลัวอวิ๋นซีแล้วนะ ขึ้นเทรนด์ X ด้วยความประทับใจอย่างยิ่งของแฟน ๆ ซึ่งก็ประทับใจมาก ๆ ในความน่ารัก สดใสของ "หลัวอวิ๋นซี" ส่วนความหล่อไม่ต้องพูดถึง ทำเอาใจละลายไปตาม ๆ กัน จากที่ประทับใจจากผลงาน เมื่อได้มาสัมผัสความเป็นกันเอง รวมทั้งการร้องเพลงโชว์ด้วยเสียงนุ่ม ละมุน ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจอย่างยิ่ง อีกทั้งการฝึกพูดภาษาไทยเพื่อนแฟน ๆ ชาวไทยก็ยิ่งได้ใจแฟน ๆ ไปเต็ม ๆ ก้าวที่เริ่ม "นักบัลเล่ต์" ณ เส้นทางสายบันเทิง นักแสดงที่ก้าวเข้ามามีทั้งที่ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่ไม่นานนัก มีทั้งที่ต้องใช้เวลาอย่างยาวนานกว่าจะประสบความสำเร็จได้ มีผู้คนเดินเข้าเดินออกอยู่ตลอดเวลา ความท้อแท้ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันทำให้หลาย ๆ คนต้องตัดสินใจหันหลังให้วงการ บ้างก็จากไปตลอดกาล บ้างก็ได้รับโอกาสใหม่แล้วกลับเข้ามาอีกครั้ง มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับ "หลัวอวิ๋นซี" เรามองว่าเขาเป็นคนพิเศษที่อยู่วงการนี้มาอย่างยาวนาน ไม่ได้ห่างหายไปไหน หากแต่ละช่วงเวลาของชีวิต นั้นได้รับโอกาสที่แตกต่างกันไป เขาจึงเป็นทั้ง นักร้อง นักแสดง นายแบบ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นนักบัลเล่ต์ สำเร็จการศึกษาจาก Shanghai Theater Academy เอกสาขาบัลเลต์ กระทั่งได้เป็นอาจารย์สอนบัลเล่ต์ในเวลาต่อมา แต่จุดเริ่มต้นนั้นเริ่มมาตั้งแต่เขาอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น ที่ได้เริ่มเรียนบัลเลต์กับคุณพ่อซึ่งเป็นอาจารย์สอนเต้นเพราะมองเห็นพรสวรรค์ในตัวเขา รวมทั้งพรแสวงในตัวเขาเองที่ฝึกซ้อมการเต้นมาอย่างหนักทำให้ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม แต่ชีวิตยังมีด้านอื่น ๆ ที่น่าสนใจ จึงมีเส้นทางใหม่ ๆ ผ่านเข้ามา ก้าวต่อมา "ร้องเพลง""หลัวอวิ๋นซี" เดบิวต์เป็นสมาชิกวง JBOY3 ซึ่งมีสมาชิก 3 คน และออกซิงเกิ้ลแรก "Promise of Love" ปี 2010 เป็นเพลงที่มีท่วงทำนองสนุก ๆ MV โชว์ความสดใสของหนุ่มน้อยทั้งสามกับบรรยากาศ สบาย ๆ ชายทะเล จากนั้นก็มีผลงานเพลง Gravity และเพลง Walking Emoji ตามมาก่อนจะยุติบทบาทของวงในปี 2012 และได้มาเป็นคู่ดูโอ้ภายใต้ชื่อ "Double JL" กับ "ฟูหลงเฟ่ย" วงหัวหน้าวง JBOY3 นั่นเอง มีผลงานเพลง และทำกิจกรรมต่าง ๆ ประมาณ 1 ปี หลังจากทั้งคู่ก็ได้ยุติการออกผลงานเพลง จากนั่นต่างก็โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดงก้าวสู่เส้นทางการเป็นนักแสดง "ภาพยนตร์" "หลัวอวิ๋นซี" เริ่มได้รับโอกาสทางด้านการแสดงจากภาพยนตร์เรื่องแรก "The Spring of My Life" (2015) เป็นเรื่องราวรักแรกของหนุ่มสาวที่มีทั้งความโรแมนติก ดราม่า เป็นการเปิดตัวทางด้านการแสดงของ "หลัวอวิ๋นซี" ที่ทำให้ได้เห็นความสามารถด้านการแสดง ซึ่งเป็นความสามารถอีกด้านที่เขาไม่เคยทำมาก่อน และทำได้ดีเสียด้วยก้าวที่ยอดเยี่ยมกับการแสดง "ซีรีส์"ผลงานซีรีส์เรื่องแรกของ "หลัวอวิ๋นซี" คือ "My Sunshine รอรักกลับมา" (2015) ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นเขามีผลงานต่อเนื่องมาโดยตลอดมาถึงปัจจุบันที่มีทั้งที่ออกอากาศไปแล้ว ที่กำลังถ่ายทำ และที่รอออกอากาศให้ได้ชมกัน จากการแสดงซีรีส์มาอย่างต่อเนื่อง "Ashes of Love มธุรสหวานล้ำสลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง" (2018) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก แฟนตาซี เทพเซียน ที่เรียกได้ว่าสร้างชื่อเสียงให้ "หลัวอวิ๋นซี" มาก ๆ จากบท "ลุ่นอวี้ เซียนปลาน้อย" แม้ว่าบทที่ได้รับจะเป็นบทพระรอง แต่เป็นพระรองที่หล่อสุด ๆ ภายใต้ชุดย้อนยุค ซึ่งก็ส่งผลให้แฟน ๆ รอที่จะได้เห็นผลงานเรื่องต่อไปของเขา และในบทบาทของพระรองเรื่องต่อมาคือ "Princess Silver คําสาปรักชายาผมขาว" (2019) แนวโรแมนติก ดราม่า เทพเซียน รับบทเป็น "ฮ่องเต้ หรงฉี" ผู้เสียสละในความรัก เป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ชอบที่ "หลัวอวิ๋นซี" ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านสายตาและการกระทำ ขณะที่ต้องปกปิดเรื่องราวของความรักของตนเองไว้ แม้จะทั้งเศร้า ทั้งเสียใจอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็มีผลงานทั้งแนวเทพเซียน ทั้งแนวปัจจุบัน อาทิ And the Winner Is Love ไฟผลาญจันทร์ (2020) , Love Is Sweet ครึ่งทางรัก (2020), Broker ลวงรักเล่ห์จารชน (2021), Light Chaser Rescue แสงประกายแห่งหัวใจ (2022) และในปี 2023 ซีรีส์ "Till The End Of The Moon จันทราอัสดง" ซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซี ก็คือผลงานการแสดงที่ "หลัวอวิ๋นซี" ได้รับความรักจากแฟน ๆ อย่างมาก จาก 3 บทบาท ถานไถจิ้น, ชางจิ่วหมิน และ หมิงเย่ ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกันออกไปในแต่ละชาติภพ ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นซีรีส์ที่ทำให้ "หลัวอวิ๋นซี" ได้โชว์ความสามารถทั้งร้ายสุดขั้ว น่าสงสารจับใจ จนยากที่จะไม่ตกหลุมรัก แต่ละก้าวในฐานะนักแสดงซีรีส์ จึงเป็นก้าวที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ของเขาก้าวที่แฟน ๆ รอคอย "ผลงานใหม่"มีผลงานซีรีส์อีกหลายเรื่องที่ "หลัวอวิ๋นซี" จะทุ่มเทพลังกายพลังใจเพื่อให้ผลงานการแสดงออกมาดีที่สุด เพื่อแฟน ๆ ทุกคน หลังจากที่เคยมีผลงาน "Children's Hospital Pediatrician" (2017) เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมอดี้ที่รับบทเป็นกุมารแพทย์ที่ทุ่มเทความรู้ความสามารถให้กับการทำงานเต็มที่มาแล้ว ปลายปี 2023 ผลงานที่จะได้ชมกันก็คือ "Love is Panacea ให้รักเยียวยากัน" แนวโรแมนติก ดราม่า ซึ่งเป็นซีรีส์ทางการแพทย์อีกครั้ง ในบทบาทของแพทย์ศัลยกรรมประสาทที่เก่งมาก แม้ว่าจะอายุน้อยที่สุดในประเทศ ความท้าทายของเขาคือการที่จะต้องพยายามรักษาโรคทางสมองให้กับหญิงสาวที่เขารัก และอีกเรื่องที่ต้องรอกันเลยก็คือ "Immortality" เป็นซีรีส์แนวเทพเซียน ที่แฟน ๆ ที่ชอบแนวนี้พลาดไม่ได้ติดตาม "หลัวอวิ๋นซี" weibo 罗云熙Leo weibo 罗云熙工作室IG am.leoขอบคุณภาพประกอบจาก 罗云熙Leo , 罗云熙工作室 ภาพปก1-3ภาพที่1-7 ภาพที่8-16 ภาพที่17-19 ภาพที่20-23 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !