รีเซต

“จันจิ” ขอบคุณ “มาริโอ้” ซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ ซึ้งใจช่วยยืนยันตัวตนทำบัตรประชาชน เหตุหน้าเปลี่ยน

“จันจิ” ขอบคุณ “มาริโอ้” ซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ ซึ้งใจช่วยยืนยันตัวตนทำบัตรประชาชน เหตุหน้าเปลี่ยน
ดาราเดลี่บันเทิง
24 พฤษภาคม 2567 ( 19:30 )
118

“จันจิ” ขอบคุณ “มาริโอ้” ซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ ซึ้งใจช่วยยืนยันตัวตนทำบัตรประชาชน เหตุหน้าเปลี่ยน

         หลังจากที่แฟนหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ได้ออกมาเผยหลังหวานใจ “จันจิ จันจิรา” ถูกโจรล้วงกระเป๋าขณะไปเที่ยวเทศกาลดนตรี Coachella ที่อเมริกา จนต้องซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้เป็นการปลอบขวัญ ล่าสุดสาว “จันจิ” ได้ออกมารีวิวได้โทรศัพท์จากหวานใจ พร้อมซึ้งใจที่ฝ่ายชายพาไปทำธุรกรรมต่างๆ อีกด้วย

 

          “มันใช้ดี ถ่ายรูปดี ถ่ายชัด มีความสุขค่ะ เหมือนมีเขาอยู่ใกล้ๆ ที่เขาซื้อให้เพราะเป็นไฟต์บังคับ เพราะว่าเราโดนขโมยเครดิตการ์ดทุกอย่าง จันจิไม่สามารถจะซื้อได้จริงๆ ไม่มีเงินสดด้วย เลยบอกว่ารบกวนแอดวานซ์ก่อนได้ไหม เดี๋ยวเราก็ค่อยว่ากัน เขาก็ไม่ทวงนะ เขาคงสงสาร เราเสียหายไปหลายแสน เขาเลยปลอบขวัญ สรุปกลับบ้านไปเรียกเก็บตังค์

         เขาพาไปทำธุรกรรมทุกอย่าง บัญชีประชาชน บัตรทุกอย่าง แล้วไปช่วยยืนยันหน้าจันจิด้วยนะ เพราะเขาบอกว่าหน้ามันไม่เหมือนเดิม ต้องมีพยานที่เขตเขาบอกว่าหน้าไม่เหมือนเดิม ไม่แมตซ์กับอันเก่า รบกวนขอหลักฐานด้วย เราก็ทำจริงๆ พี่โอ้ไปเซ็นรับรอง และเขาบอกว่าหน้าเหมือนเดิมจะตาย เพราะว่าเอาพาสปอร์ตไปผิดเล่ม จิก็บอกเหรอๆ เบาๆ หน่อย ไม่เหมือนเลย

         เห็นรูปตัวเองในระบบแล้วรู้สึกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดนถามว่าน้องทำอะไรมาบ้าง น้องหน้าเปลี่ยนนะ ก็บอกว่าทำตา และจมูกนิดหน่อย ตอนที่เราโดนเจ้าหน้าที่ทักมันเสียความรู้สึกนิดนึงแต่มันคือกระบวนการในการสอบถาม พี่ว่าไม่เหมือนเดิม เขากลัวไม่แมตช์กัน มันเป็นไปตามระบบของเขา เพราะว่าจันจิเอาพาสปอร์ตเล่มเก่าไป เขาก็เลยไม่สามารถยืนยันตัวตนจันจิได้ โชคดีว่าจันจิเซฟข้อมูลทุกอย่างไว้ วันแรกที่จันจิถ่ายงานของลูกค้าหายหมดเลยเพราะว่าเรายังไม่ได้เซฟข้อมูลไว้ นอกนั้นอยู่หมด เราเลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร ยกเว้นเงินที่เขากดไป สรุปแล้วคือยังไม่ได้เคลียร์ กดไปแล้วไปเลย

        รูปหวานๆ ยังอยู่ พูดตรงๆ ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กันนานมากแล้ว แล้วมือถือจิอัปเดตล่าสุดไปอยู่เซินเจิ้นเรียบร้อยแล้ว จากอเมริกาไปถึงจีนแล้ว เขาท่องเที่ยวรอบโลกยิ่งกว่าจันจิอีกนะ เราเลยต้องรีบลบข้อมูลของเราเพราะว่าไปจีนแล้วเรากลัวว่าพี่จีนจะแฮกข้อมูลของเรา เรากลัวเรื่องการเงินของเราส่วนเรื่องรูปไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลยจริงๆ กลัวเรื่องข้อมูลการเงินและข้อมูลส่วนตัวมันหายแค่นั้นเลย

         เงินที่เขารูดไป 80,000 กว่ารวมทั้งมือถือด้วยก็เป็น 100,000 ไม่เป็นไรเราโอเค คือต่อไปถ้าเราจะช่วยใครเราต้องจับมือถือหรือของมีค่าของเราไว้ให้ดี เขาอาจจะก็ได้ แล้วมีคนที่คิดไม่ดีเข้ามาตอนนั้นก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เป็นเหตุการณ์จริงหรือเขาสร้างขึ้นมา ฉะนั้นถ้าจะช่วยก็ช่วย แล้วถ้าเกิดตอนนั้นเราไม่ช่วยแล้วเขาล้มหัวฟาดพื้นขึ้นมา คงรู้สึกไม่ดี ดังนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ต้องช่วยก็ช่วย”