เอ็ดการ์-โจนส์: “มันเป็นความรู้สึกที่ดีและชื่นใจนะคะที่ไม่ต้องจบลงแบบนั้น เพราะสิ่งที่คุณจะได้เห็นตอนจบก็คือ คน 2 คนที่มีความรัก ความสนใจ ความฉลาด และความเข้าใจในสภาพอากาศที่เท่าเทียมกัน”

ไอแซก ชุง: “ถ้าจบด้วยฉากจูบ มันดูจะเหมือนกับว่า การจบลงด้วยการจูบกันคือสิ่งที่เคตต้องการให้เกิดขึ้นในการเดินทางของเธอ แต่แทนที่จะเป็นแบบนั้น มันจะดีกว่า ถ้าหากจะจบลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า จากการที่เธอสามารถทำในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ต่อไปได้”

ฉากการไม่จูบของพระนางในหนังเรื่องนี้ ชวนให้นึกถึงหนังฮอลลีวูดนับหลายร้อยหลายพันเรื่องที่มักจะสรุปเรื่องราวสุดท้ายด้วยการจุมพิตกันของพระนาง การไม่จูบในหนังเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่พาวล์มองว่าเป็นการตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงโทนของหนังฮอลลีวูดแบบที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน

“ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม ผู้คนต่างคิดว่าหนังมันต้องมีแนวแบบใดแบบหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น และสิ่งที่ผมค้นพบว่ามันสนุกมากเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือ คุณสามารถรู้สึกถึงการขึ้นลงของสีสันและสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป หนังเรื่องนี้ถูกเล่าในหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป มันเกือบจะเหมือนกับดนตรีเลย”