สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับวันนี้เราจะมาวิจารณ์ภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Scary Stories to tell In The Dark ต้องขอเล่าย้อนไปนิดนึงนะครับว่าตอนนี้ได้ยินครั้งแรกเนี่ยถึงกับอุทานเลยครับว่าทำไมชื่อมันยาวจังวะ หนังสืออะไรเนี่ย ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่ค่อยได้เห็นข่าวคราวเท่าไหร่เลย ตอนดูตัวอย่างก็ยังงง ๆ ครับ ว่าหนังอะไรเนี่ยมีทั้งสัตว์ประหลาด Monster เต็มไปหมด มันจะน่ากลัวหรือเปล่า คิดได้ดังนั้นก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มครับ ต้องบอกก่อนว่าผมเนี่ยเป็นแฟนหนังสยองขวัญตัวยงเลย ชอบมาก ๆ ครับผมแนวนี้ ไม่ค่อยกล้าดูเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าชอบเรื่องราวของตัวหนัง ภาพยนตร์สยองขวัญเนี่ยมักจะมาพร้อมกับเรื่องราวลึกลับและก็น่าสนใจครับ ที่จะชวนให้เราเนี่ยอยากรู้ว่ามันมีที่มาเป็นยังไงบ้าง ไอ้ตัวนี้มันมาจากไหน อะไรทำให้มันมา ถ้าเป็นหนังผีที่มาแนวนี้บอกเลยว่าผมชอบครับ ซึ่ง Scary Stories to tell In The Dark ก็เป็นแบบนั้นเลย ตัวหนังมีโครงเรื่องน่าสนใจมากครับ ภาพยนตร์นั้นถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมสยองขวัญสำหรับเด็ก เป็นหนังสือที่รวมเรื่องราวน่ากลัวสั้น ๆ ออกมาตั้งแต่ปี 1984 เลยครับ ตอนที่ออกมาก็ขายดีครับ เรียกได้ว่าฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นเรื่องหลอน ๆ ในวัยเด็กของวัยรุ่นสมัยนั้นไปเลย ทางผู้เขียนบทเขาก็ไม่รอช้าครับ หยิบมันมาทำใหม่ ตีความใหม่ให้จริงจังกว่าเดิม ซึ่งต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยครับ ตัวเรื่องเซ็ทอยู่ในปี 1968 ก่อนหนังสือจะออกเสียครับ ณ เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ในคืนฮาโลวีนกลุ่มเด็กวัยรุ่นมัธยมปลายได้ไปล่าท้าผีที่คฤหาสน์ร้างของเมือง ซึ่งที่นั่นมีตํานานน่ากลัวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเหล่าเด็กก็ซนตามประสาหนังผีทั่วไปครับ ที่ไม่รู้จะสอดรู้อะไรกันนักหนา เป็นผมนี่ไม่กล้าเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะเจอกับหนังสือเล่มหนึ่งครับ ที่เหมือนเป็นบันทึกของเด็กผู้หญิงคนนั้นเขียนตอนเธอยังมีชีวิตอยู่ ภายในนั้นมีเรื่องราวสยองขวัญเขียนอยู่เต็มไปหมด เรื่องราวตามจินตนาการ เรื่องน่ากลัวพื้นบ้านต่าง ๆ เด็กผู้หญิงที่ชื่อ Stella เรียกง่าย ๆ ว่านางเอกของเรื่องนี่แหละครับ ไม่รอช้าหยิบกลับบ้านมาด้วย ใครห้ามก็ไม่ฟัง นั่นแหละคือที่มาของเรื่องราวหลอน ๆ ที่จะเกิดขึ้น ไม่อยากจะสปอยล์นะครับ เดี๋ยวจะไม่สนุกเสียก่อนเพราะต้องบอกเลยว่าจุดเด่นที่สุดของ Scary Stories to tell In The Dark นั้นอยู่ที่ Story ครับ เหมือนกับชื่อของมันเลย นี่นับว่าเป็นหนังผีที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก มีที่มา ประวัติความเป็นมาน่ากลัว ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะมาหลอกก็หลอกเอาเฉย ๆ แบบบางเรื่องครับ แต่จะมีเนื้อเรื่องประมาณว่าพาไปทำอะไรเอ็งตอนไหน ทำไมต้องมาหลอกกันด้วย เรื่องนี้ไม่มีครับผม ตัวโครงเรื่องนี่ถูกเขียนมาเป็นอย่างดีและทำให้ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวให้กับตัวหนังมากขึ้นไปอีก ตัวหนังจะค่อย ๆ คลายปมไปทีละเล็กละน้อยครับ ผ่านการดำเนินเรื่องราวของกลุ่มตัวละครเอกในเรื่อง จริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้แอบมีความเป็นภาพยนตร์สืบสวนหน่อย ๆ ครับ ตามสไตล์หนังผียุคใหม่นั่นแหละครับ เรื่องนี้มีครบเลย มาต่อกันที่ฉากสยองขวัญกันบ้าง ต้องบอกว่าเรื่องนี้มาเรื่อย ๆ ครับ แต่ไม่ได้มาเยอะจนเหนื่อยครับ เหมือนกับหนังผีช่วงหลัง ๆ ที่ตูมตามตั้งแต่ต้นเรื่องยันปลายเรื่อง ชนิดที่ว่าเล่นเอาเหนื่อยครับ Scary Stories to tell In The Dark จะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ เสียมากกว่า อย่างว่าแหละครับ ตัวหนังถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมสั้น ตัวผีในเรื่องก็มีเยอะตามครับ ฉากหลอกก็เลยแบ่งไปตามลักษณะของปีศาจที่จะออกมา ซึ่งแต่ละตัวต้องบอกว่ามีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและมีวิธีหลอกเป็นของตัวเอง ใช้สถานที่ วิธีการที่แตกต่างกันไป บางฉากก็ตกใจ บางฉากน่าขนลุก บางฉากกดดัน บางฉากก็น่าขยะแขยงก็มีครับ เรียกได้ว่าคุณจะได้พบความกลัวหลาย ๆ แบบ ในหนังเพียงเรื่องเดียวเลย คุ้น ๆ ไหมครับกับหนังผีที่รวมผีหลาย ๆ ตัวไว้ในเรื่องเดียวกัน Annabelle Comes Home นั่นเอง แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ผมว่าเรื่องนี้หลอกได้อย่างมีชั้นเชิงมากกว่าครับ Annabelle ผีเยอะก็จริงแต่จางมากครับ การหลอกก็เฉย ๆ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ที่ใช้วิธีการหลอกที่หลากหลายก็มีข้อเสียอยู่นะครับ คือถ้าเกิดว่าคุณไม่ชอบผีตัวไหนเนี่ย คุณก็จะรู้สึกเฉย ๆ ไปเลย แบบอยากดูตัวนั้นมากกว่า อยากดูฉากแบบนี้เยอะ ๆ ผีตัวนี้มาอีกได้ไหม มาแค่นี้มันไม่จุใจ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นแบบนี้อาจจะเซ็งเอาหน่อยครับ ยิ่งผีบางตัวเนี่ยทำออกมาได้ดีมาก วิธีหลอกเจ๋งมากแต่ดันโผล่มาแค่แป๊บเดียวครับ มาถึงจุดด้อยอีกข้อกันบ้าง ตัวละครนำในเรื่อง ผมคิดว่าไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าแคสมาไม่ดีหรือว่ายังไงนะครับ แต่ทำให้เราเนี่ยรู้สึกไม่ค่อยอินไปกับส่วนของคนครับ ปมดราม่าต่าง ๆ ก็ใส่เข้ามาแบบไม่แน่ใจว่ามันจำเป็นไหม รู้สึกว่าทำให้เรื่องดูเยอะ ๆ ไป ผีว่าเยอะแล้วดราม่าก็ยังเยอะอีแถมยังไม่มีผลต่อเส้นเรื่องซะด้วยนะครับ นี่ยังไม่พอการตัดสินใจบางอย่างของตัวละครที่โคตรจะไม่มีที่มาที่ไป อยากจะทำอะไรก็ทำครับ อยากจะวิ่งก็วิ่ง แต่ก็นะครับ หนังผีจะให้ตัดสินใจฉลาด ก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้นตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ส่วนตัวละครที่ผมว่าผ่านเนี่ยก็น่าจะมีแค่ตัวนางเอกที่ชื่อว่า Stella นี่แหละครับ เรียกได้ว่าเธอแสดงได้น่าสนใจที่สุดแล้ว ตัวคาแรคเตอร์ของเธอเนี่ยมีการออกแบบที่ดีครับ แล้วก็เข้ากับโครงเรื่อง ช่วยเสริมให้มันเด่นขึ้นไปอีก แต่การแสดงนี่ผมก็ยังเฉย ๆ นะ ไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่ถ้าเทียบกับพวก Annabelle Series เราจะจำตัวละครได้อย่าง Judy Warren หรือน้องหนูใจกล้าอย่าง Linda ได้ไหมครับ Stella ในเรื่องนี้เนี่ยยังถือว่าห่างชั้นจากพวกนั้นเยอะเลย สรุปนะครับ เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ผมคิดว่ายังไม่พลาดหนังผีสักเรื่องเลยนะครับ ทั้งไทยและต่างประเทศด้วย ต้องบอกว่าถ้านับแค่ต้นปีที่แล้วเนี่ยน่าเศร้าพอสมควรเลยครับกับแฟนหนังผี เนื่องจากว่าหนังผีที่ออกมานั้น ผมคิดว่ามันยังไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นลาโยโลน่าหรือจะเป็น Annabelle Comes Home นะครับก็ถือว่ายังงั้น ๆ ครับ ถ้าเทียบกันแล้ว Scary Stories to tell In The Dark นั้นถือว่าดีที่สุดแล้วครับสำหรับผม ข้อดีก็คือเนื้อเรื่องหลักที่น่ากลัว ตัวผีออกแบบมาดีครับแล้วก็หลากหลาย ฉากหลอกผีนี่ก็จะแปลกใหม่ มีชั้นเชิง ข้อเสียคือส่วนของคนคนน่าเบื่อครับแล้วก็ไม่ค่อยน่าสนใจ ดราม่าเยอะไปหน่อย ฉากหลอกอาจจะไม่ถูกใจทุกคน จั้มสแกมีน้อยครับ แฟนหนังไทยหลาย ๆ คนอาจจะชอบแบบจั้มสแกก็อาจจะไม่ค่อยถูกใจ แต่ว่าส่วนตัวผมนี่ถือว่าโอเคมาก ๆ เลย ต้องขอบอกว่า Scary Stories to tell In The Dark นะครับอาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกับคนที่ชอบดูฉากตกใจเยอะ ๆ เสียงดัง ๆ ความวูบวาบนั่นอาจจะไม่ถูกจริตสำหรับเรื่องนี้ครับ จริง ๆ แล้วผมชอบผีเงาออกมาขย้ำนะ ดูแล้วกลัวติดตา ดูไปเหนื่อยไป แต่สำหรับเรื่องนี้ฉากจั้มสแกอาจจะมีน้อยไปสักหน่อย แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นคนที่ชอบหนังสยองขวัญเนื้อเรื่องเข้มข้น ฉากหลอกที่หลากหลายตัวผีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เรื่องนี้จะกลายเป็นหนังในดวงใจของคุณได้ไม่ยากเลยครับ เรียกได้ว่า Scary Stories to tell In The Dark คืออีกหนึ่งภาพยนตร์สยองขวัญม้ามืดแห่งปีครับ เอาคะแนนไปเลย 8 เต็ม 10 คะแนน ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยครับขอขอบคุณภาพทั้งหมดจาก Official Trailer Youtube