ภาพยนต์ที่สร้างจากเรื่องจริง หรือมีเค้าโครงเรื่องจริงนั้นมีหลายเรื่องเลยทีี่ดี สร้างเเรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาพยนต์ที่มีเค้าโครงเรื่องจริงหรือสร้างจากเรื่องจริง ผมจะชอบหนังเเบบนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเรื่องทั้งหมดได้ผ่านประสบการณ์เกิดขึ้นจริง ๆ ผ่านการปรุงเเต่งนิดหน่อย ซึ่งทำให้ภาพยนต์นั้นมีสีสั้นเเละน่าสนใจมากยิ่งขึ้น วันนี้ผมได้หยิบภาพยนต์เรื่องนึง ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Chris Gardner ซึ่งเป็น CEO ของ Gardner Rich & Co ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าคาหุ้นของเราเอง โดยภาพยนต์เรื่องนี้มีชื่อเรื่องว่า The Pursuit of Happyness ถ้าพร้อมเเล้วเรามาเริ่มกันเลยครับรูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=DMOBlEcRuw8The Pursuit of Happyness ภาพยนต์เรื่องนี้กำกับโดย Gabriele Muccino เเละมีนักเเสดงนำคือ Will smith รับบทเป็น Chris Gardner เเละ Jaden Smith รับบทเป็น Christopher Gardner ซึ่งเป็นพ่อลูกกันทั้งในเรื่องเเละนอกเรื่อง โดยภาพยนต์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขา เพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยภาพยนต์เรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริงของ Chris Gardner ในช่วงที่อยู่ในซานฟราสซิสโก้ เขาเเละภรรยา Linda ได้ลงทุนเอาเงินเก็บไปซื้อเเฟรนด์ไซส์อุปกรณ์เครื่องมือเเพทย์โดยขายเครื่องสเเกนกระดูกเเบบพกพาได้ ซึ่งมีความสามารถมากกว่าเครื่องเอกซ์เรย์ไม่มาก เเต่ตัวเครื่องมีราคาเเพงเกินไป ทำให้ขายเครื่องไม่ได้ จนภรรยาของเขา Linda ต้องทำงานหนักโดยไปทำงานซักรีดในโรงเเรมเล็ก ๆ เเห่งนึง ทั้งคู่มีปัญหาบ่อยเนื่องจากเรื่องการเงินที่ไม่ค่อยดี บวกกับเครื่องสเเกนกระดูก็ไม่สามารถขายได้ จนมีบิลค้างชำระอยู่เต็มไปหมด ปกติเเล้ว Chris จะขับรถไปขายสินค้าตามโรงพยาบาล เเต่เเล้ววันนึง เขาได้จอดผิดที่จนทำให้รถของเราโดนยึดไป Linda ตัดสินใจลาออกจากงานเเละมุ่งหน้าเข้าสู่นิวยอร์ท เพื่อหางานทำเเล้วปล่อยให้ Chris เเละลูกอยู่ตามลำพัง รูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=DMOBlEcRuw8วันนึง Chris ไปเดินผ่านบริษัทนายหน้าค้าหุ้นเเห่งนึง โดยมีหุ่นคนนึงขับรถสปอต์สีเเดง ด้วยความสงสัยเขาได้เข้าไปถามว่าคนที่ขับรถทำงานอะไร เขาบอกมาว่าทำงานเป็นนายหน้าค้าหุ้น ซึ่งทำให้ Chris ตัดสินใจสมัครเข้าฝึกอบรมในบริษัทค้าหุ้น ดีน วิทเทอร์ เรย์โนลด์ส ทั้งที่ช่วงฝึกไม่ได้เงินเดือนเเม้เเต่บาทเดียว เเละจะมีผู้ฝึกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ทำงานในบริษัทนี้ ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด โดยเขาได้อาศัยสถานีรถไฟใต้ดิน เเละบ้านพักชั่วคราวที่โบสถ์ไกลด์ เมโมเรียล ซึ่งเเต่ละวันต้องไปให้ทันคิวถึงจะได้นอน เเละตื่นเช้าเพื่อไปอบรมเเละต้องรีบกลับเพื่อไปรับลูกให้ทันเวลา หลักจากจบหลักสูตรเขาได้สอบผ่าน ได้ทำงานในบริษัทนี้สำเร็จ ซึ่งช่วยให้พ่อลูกคู่นี้ผ่านวิกฤตมาได้เเล้วมีความสุขที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมารูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=DMOBlEcRuw8ภาพยนต์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม การดำเนินเรื่องไปโดยอย่างช้า เล่าลำดับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นจริงของ Chris ได้เป็นอย่างดี การเล่าเรื่องทำให้รู้สึกอินไปเลยว่าเราเป็นตัวละครในเรื่องว่าต้องทำยังไง หาทางออกยังไง มีทั้งความสุข ลุ้น เศร้า เเละอิ่มเอิ่มของภาพยนต์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก ผมดูเรื่องนี้ทีไรน้ำตาไหลมากทุกที ความกดดันที่มากพออาจทำให้เรามีความสุขในวันข้างหน้าได้รูปภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=DMOBlEcRuw8ขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก https://www.youtube.com/watch?v=DMOBlEcRuw8