รีเซต

สามีเขาดีมาก! ชาย-วิกกี้ หอบลูกชายเผยโมเมนต์หวาน เตรียมมีทายาทคนที่สอง (มีคลิป)

สามีเขาดีมาก! ชาย-วิกกี้ หอบลูกชายเผยโมเมนต์หวาน เตรียมมีทายาทคนที่สอง (มีคลิป)
Entertainment Report_2
28 กรกฎาคม 2563 ( 09:00 )
1.1K
1

ข่าวบันเทิงวันนี้

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลายคนจะต้องอิจฉาในความหวานอย่าง "ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ" กับ "วิกกี้ สุนิสา เจทท์" พร้อมด้วยลูกชายสุดน่ารัก "น้องตฤณ" โดยทั้งคู่ได้ย้อนเล่าเรื่องราวสุดช็อกหลังวิกกี้ลั่นชีวิตนี้ไม่อยากมีลูกผ่านในรายการคุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี "พีเค ปิยะวัฒน์" และ "ใบเฟิร์น พัสกร" เป็นพิธีกร พร้อมเล่าโมเมนต์หวาน ๆ ของสามีดีเด่นที่ดูแลคุณภรรยาแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เรียกได้ว่าหวานตั้งแต่วันแรกไม่เคยเปลี่ยนแปลง เผยเร่งปั๊มทายาทคนที่สองแล้ว ขอแค่ฟากภรรยาอย่ากดดัน

 

 

อย่างพี่ชายที่บ้านมีลูกเล็กเหมือนกันช่วงโควิดเค้าจะกลัวมาก สองคนนี้กลัวมั้ย ?

วิกกี้ : กลัวค่ะ

ชาย : กลัวคนละแบบ ชายจะกังวลเพราะช่วงแรกๆชายจะยังออกไปทำงานข้างนอกอยู่ กองถ่ายเค้าก็ยังรอมาตรการที่ชัดเจนจะหยุดหรือไม่หยุด บางกองก็ใกล้เสร็จแล้วขออีกนิดเดียว

พอถ่ายละครเสร็จไม่เข้าบ้านแต่เดินอ้อมแล้วเดินแก้ผ้าไปอาบน้ำ

ชาย : ไม่ขนาดนั้น ป่านนี้โดนไล่ออกจากหมู่บ้านไปแล้ว (หัวเราะ)

วิกกี้ : เกือบจะแก้ผ้า

ชาย : คือกี้เค้าก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น เค้าบอกชายว่าเดี๋ยวเค้าเอาตะกร้ามาวางไว้หน้าบ้านแล้วก็ถอดเอาชุดใส่ไว้ตรงนั้น

วิกกี้ : อย่าลืมแมสก์ อย่าลืมแอลกอฮอล์ล อย่างที่บอกเค้าแทบจะแก้ผ้าอยู่หน้าบ้านแล้ว เค้าก็จะถอดรองเท้าแล้วก็ฉีดใต้รองเท้าก่อนขึ้นรถกลับมาเค้าก็จะฉีดอีกรอบแล้วจอดรองเท้าไว้ด้านนอก ก็เหลือแค่บ็อกเซอร์แล้วนะ ถุงเท้าก็ถอดแล้ว ก็คือเกือบจะแก้ผ้าแล้วไง

เหมือนเป็นคู่รักที่ค่อนข้างจะมีความต่างกัน ถ้าทะเลาะกันที่บอกว่าหนักส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นเรื่องลูก ?

ชาย : เอาแค่เรื่องไปโรงเรียนก็ไม่จบ 3 ปีแล้ว

ทำไมชายถึงไม่อยากให้ลูกเรียนตอนนี้ ?

ชาย : ช่วงชีวิตของลูกจริงๆที่จะอยู่กับพ่อกับแม่แบบตัวติดกันก็มีช่วงนี้แหละ ตั้งแต่เค้าเกิดจนก่อนที่เค้าจะไปโรงเรียน เค้าไปโรงเรียนเมื่อไหร่เค้าก็จะมีสังคมของเค้าแล้ว มันก็จะเริ่มห่างจะต้องมีระยะเวลาที่พ่อจะต้องทำใจ

วิกกี้ : พี่ชายเค้าจะเป็นคนเซ้นซิทีฟติดครอบครัว พอมีลูกก็ติดลูก

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บโชว์ 

อยากให้ลูกเข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ ?

ชาย : ตามเกณฑ์กระทรวงศึกษาเค้าเมื่อไหร่ล่ะ 7 ขวบอะไรยังงี้ป่ะ

วิกกี้ : กี้ว่าเต็มที่ 4 ค่ะ แต่จริง ๆ ถ้าไมมีโควิดก็ 3 ขวบครึ่งจะให้เค้าไปเริ่มเล่นแล้ว เพราะว่าเค้าเป็นลูกคนแรกแล้วเรายังไม่มีลูกคนที่สอง กี้อยากให้เค้าได้เล่นสนุก เวลาเค้าอยู่กับพี่ปริม อยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกัน เค้าจะมีความสุขในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เวลาเค้าอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกันเด็กเค้ามีจินตนาการ เค้าได้มีพัฒนาการที่ส่งเสริม

ผู้ชายคนนี้ดูแลภรรยาดีมากตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันนี้คุณชายเสมอต้นเสมอปลายตลอด ?

วิกกี้ : ที่สุด อันนี้พูดจริง ๆ

วันแรกที่เจอกันกับวันนี้เหมือนกันยังไง ?

วิกกี้ : เป็นสุภาพบุรุษเหมือนเดิม เปิดประตูรถให้ยังเหมือนเดิม เป็นสุภาพบุรุษและเป้นคนเซ้นซิทีฟมากที่สุดเท่าที่เคยเจอและเป็นคนที่ละเอียดอ่อน จริงๆแล้วนิสัยละเอียดอ่อนมันน่าจะเป็นผู้หญิง แต่พี่ชายเค้าเป็นคนใส่ใจมนทุกๆเรื่องในชีวิตตั้งแต่กี้ตื่นมาเลย เพราะกี้เป็นคนตื่นสาย ถ้ากี้บอกอยากกินเสต็กเค้าก็จะตื่นไปซื้อแต่เช้าเพราะเค้ารู้ว่าเมียตื่นสาย ถ้าตื่นมาเมื่อไหร่เค้าจะหิวทันที เค้าก็จะตื่นมาทำเพื่อที่จะให้พร้อมทาน

ชาย วิกกี้ และลูกชาย 

เคยคิดมั้ยว่าเรามีสามีที่ดีและน่ารักตลอด ?

วิกกี้ : คิด คิดตลอด(ยิ้ม)

เคยบอกพี่ชายมั้ย่วาดีใจนะที่ได้สามีแบบพี่ชาย ?

วิกกี้ : บอก แต่อาจจะไม่บ่อย

นอกจากอาหารแล้วยังสระผมให้เมีย ?

ชาย : เพราะว่าเมียจะสระผมทีต้องรอ 10 วัน

วิกกี้ : เป็นคนที่ขี้เกียจสระผมที่สุดเพราะผมเยอะและหนามาก ก่อนที่จะทำบ้านจะออกไปสระไดร์ เพราะขี้เกียจสระเองมาก ๆ บางทีสระเองก็ขี้เกียจไดร์ก็ให้พี่ชายเค้าเป่าแห้งให้ แต่ตอนนี้ที่บ้านทำโฮม ซาลอนแล้ว มีเตียงสระที่บ้านก็เลยรู้สึกว่าทุกอย่างมันง่ายขึ้นก็เลยนอนให้เค้าสระให้หน่อย

เค้าก็ได้ภรรยาที่ดี งานวันเกิดครั้งที่แล้วจัดเซอร์ไพรส์ให้เกือบพังเพราะอะไร ?

วิกกี้ : คือไม่ได้ทำเซอร์ไพร์สให้เค้ามานานแล้ว ช่วงนั้นเค้าซ้อมละครเวทีแล้วเราก็รู้สึกได้ว่าไม่ได้เจอครอบครัวเลยก็เลยคุยกับน้องสาวพี่ชายว่าทำเซอร์ไพรส์วันเกิดที่บ้านดีกว่า ปกติกี้จะชอบพาเค้าไปโรแมนติกดินเนอร์ ครั้งนี้ไม่เอาแล้วขอเอาทั้งบ้านเค้ามาเลย ยกครอบครัวมาแอบที่บ้านนี้ ความที่มีกล้องอยู่เต็มบ้านบ้านพี่ชายเป็นครอบครัวที่ใหญ่ประมาณ 30 คนกี้ต้องดึงปลั๊กออกหมดเลย กี้ต้องบอกทุกคนว่าถ้าพี่ชายโทร.มาขอเงียบนิดนึงนะคะเพราะเค้าต้องถามว่ากล้องเป็นอะไรเพราะเค้าจะชอบส่องตลอด พอเค้าโทร.มาก็ต้องรีบวิ่งขึ้นไปคุยในห้องน้ำแล้วเหมือนน้องปรางจู่ ๆ ก็ร้องเสียงดังเพราะเหมือนเค้าจะทะเลาะกับน้องปริมกี้ก็ต้องรีบกดวางเป็นอย่างนี้อยู่หลายรอบ เราพยายามจะที่เซอร์ไพร์สขนาดนี้มันจะรู้นิดนึงไม่ได้ สุดท้ายก็ให้ทุกคนมารวมในนี้เอารถไปแอบอีกซอยนึง พอเค้ามาก็ให้พ่อแม่ พี่น้องไปยืนอยู่หน้าประตู

ชายรู้สึกยังไงตอนนั้น ?

ชาย : ก็ตกใจแล้วก็ดีใจที่สุด ในชีวิตนี้ชายไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ไม่ต้องการสิ่งของอะไร ต้องการแค่นี้แหละให้เราได้มีความสุขกับการได้อยู่กับครอบครัว เค้าก็จะถามทุกปีว่าอยากได้อะไร ชายก็นึกไม่ออกแต่อย่างที่ได้ปีที่แล้วคือที่สุดแล้ว

เรื่องลูกแพลนมั้ยว่าจะมีอีกคนนึง ?

ชาย : แพลนมาปีนึงแล้ว เพราะว่าอยากมีน้องให้เค้า ถ้ามีพี่น้องโตขึ้นไปอย่างน้อยจะได้มีเพื่อน พ่อแม่แก่ตัวไปภาระจะได้ไม่ตกอยู่ที่เค้าคนเดียว มันคือที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดแล้ว

มีแพลนไว้มั้ยว่าจะเป็นผู้หญิง เค้าจะได้เป็นพี่ชาย หรือว่าได้หมด ?

ชาย : ได้หมด ถ้ามีผู้ชายก็จะดีมาก เป็นผู้ชายสองคนเหมือนชายกับมิคเวลาเล่นกันมันมันมากเลย คืออาจจะทะเลาะกันบ้างแต่พอโตขึ้นมาเป็นเพศเดียวกันเค้าจะเข้าใจอะไรกันมากกว่า ถ้าเป็นน้องสาวพ่อแม่แฮปปี้เลยมีครบทั้งลูกชาย ลูกสาว มันได้หมด

คิดว่าจะมีลูกกันซักกี่คนดี ?

ชาย : ชายมีพี่น้อง 4 คน คุณพ่อคุณแม่ก็มีพี่น้องสี่คน ในใจคือน่าจะต้องมีซัก 4 เพราะว่ามันแฮปปี้กันมาก แต่พอมีคนแรกขึ้นมาปั๊บรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มันเหนื่อยแต่มันเหนื่อยแบบมีความสุขที่สุดแล้ว เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

 


ถ้างั้นอยากได้กี่คน ?

ชาย : ตอนนี้ซักสองกำลังพอดี

วิกกี้ : สองตั้งแต่แรกค่ะ พอ ชัดเจน

ชาย : อย่าบอกว่าแต่แรกเลย แต่แรกไม่อยากมี

มีช่วงนึงที่พี่วิกกี้ยังไม่ยอมจะมีลูก ?

วิกกี้ : ใช่ แต่งงานกัน 5 ปีกว่าจะยอมมีลูก

ชาย : แต่งกันช่วง 2-3 ปีแรกก็คิดว่าใช้ชีวิตไปเที่ยวแบบสามีภรรยากันก่อน ก็ยังนึกว่าเดี๋ยวเค้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จะบอกว่าพร้อมมีลูกกันแล้ว แต่สองสามปีผ่านไปอยู่ดีๆก็มาบอกว่า พี่ชายกี้รู้สึกว่าชีวิตนี้กี้ไม่อยากมีลูกเลย

พี่ชายทำยังไงทั้ง ๆ ที่เราอยากมี 4 คน

ชาย : ความรู้สึกเราหนักอึ้งไปเลย เพราะความรู้สึกของชายตั้งแต่เด็ก ๆ เลยคืออยากจะมีครอบครัว อยากจะแต่งงาน มีลูก นั่นคือภาพในฝัน 20 กว่าก็แต่งงานได้แล้ว ไม่เกิน 25 ต้องมีลูกแล้ว มันเลยทะลุมา 30 กว่า กว่าจะได้แต่งงาน เราก็โอเคแต่งงานกัน สร้างครอบครัวกัน จนวันที่เค้ามาบอกว่า ชีวิตนี้คงไม่อยากมีลูก มันก็เหมือนจะล้มเลย หนักจริง ๆ แต่คืออยู่กับเค้ามันก็มีความสุขที่สุด เราก็คุยกันว่าถ้างั้นเราอยู่กันสองคนก็ได้แก่กันไปสองคน

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจกลับมามีน้องตฤณ ?

วิกกี้ : วันนึงเหมือนรู้สึกได้เองว่าเราก็อายุเยอะแล้ว ไม่มีตอนนี้ ไข่ก็ยังไม่ได้เก็บ จะมียากมั้ย วันนั้นอยู่บ้านคนเดียวพี่ชายไปทำงานหรือว่ามันจะเหงามั้ย

ไม่มีอะไรเลยอยู่ดี ๆ นึกขึ้นมาเอง ?

วิกกี้ : ไม่มีอะไรเลย เรื่องแบบนี้คนโน้มน้าวเราไม่ได้ ต้องตัดสินใจร่วมกัน เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ว่าเราไปฟังคนอื่นกดดันแล้วก็มีก็ได้ มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาเองว่าหรือวันนึงเราจะเหงามั้ยหรือว่ามีกันและกันมันพอ ความอบอุ่นจะพอมั้ย มันฟุ้งซ่านเอง แล้วก็ยังไม่บอกเค้านะ กี้ก็โทรไปคุยกับเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง มันคงไม่มีวันที่มีความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าฉันพร้อมจะเป็นแม่ กี้กลัวว่าวันนั้นมันจะมาไม่ถึงก็เลยกลัวว่าวันนึงจะเหงาและรู้สึกเสียใจที่ไม่มีมั้ย แต่นั้นเลย ก็เลยปรึกษาเพื่อนแต่เพื่อนกี้เค้ามีลูกมาแล้วคนนึงเค้าก็กรี๊ดเลยเพราะเค้าอยากให้มีลูกมาเล่นกัน เราก็บอกว่าอย่าเพิ่งบอกพี่ชายนะเดี๋ยวเราบอกเอง แต่เพื่อนเป็นคนเก็บอะไรไม่ค่อยอยู่ มีวันไปดินเนอร์กันวันนึงอยู่ดีๆเค้าก็หลุดมาว่าพี่ชายยินดีด้วยนะมันบอกว่ามันพร้อมแล้ว พี่ชายหันมามองกี้แบบน้ำตาหยดเลย หน้าแดงแบบสั่นๆแล้วก็น้ำตาไหลเหมือนในละครเลย เค้าเหมือนพูดไม่ออก

 

คนนี้ก็ธรรมชาติ แล้วคนต่อไปจะธรรมชาติมั้ย ?

ชาย : พยายามธรรมชาติอยู่ พยายามมาปีนึงแล้ว

แล้วถ้าเกิดไม่เวิร์คไปเหมือนน้องคุณเลยมั้ยสายวิทยาศาสตร์ ?

ชาย : ไม่ได้เก็บไข่ไว้

วิกกี้ : คือตอนนี้ถ้าถามกี้กับพี่ชายก็ยังมั่นใจว่ายังได้อยู่

ชาย : ปัญหาคือไปหาคุณหมอมาแล้ว ตอนแรกก็พยายามธรรมชาติ เพราะคนแรกธรรมชาติ เค้าก็บอกงั้นคนที่สองก็ง่ายแล้วไม่มีปัญหาหรอก พยายามอยู่ 2 เดือน 3 เดือน 4 เดือนก็แล้ว ทำไมไม่ติด ก็เลยไปหาคุณหมอเค้าก็ขอตรวจ กี้โอเคเรียบร้อยทุกอย่างพร้อมมาก พอตรวจของชาย อ้าว ! เจอแล้ว คือน้ำเชื้อปริมาณดี ความเข้มข้นดี แต่ขี้เกียจกันเหลือเกิน นั่งนิ่ง ๆ ไม่แหวกว่าย เค้าก็บอกว่าให้วิตามินบำรุงได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่

ต้องลงคิวงานมั้ย ?

วิกกี้ : ลงคิวค่ะ ต้องวันที่ไข่ตก คือเชื้อเค้าสำคัญมากอย่าเอาออกพร่ำเพรื่อคือมันมีค่ามาก วันไหนที่ตกไข่กี้จะมีเครื่องวัด

อย่างเบนซ์ก็มีช่วงที่เลือดไหลเรียกได้ว่าเกือบแท้ง เรากลัวมั้ย ?

วิกกี้ : กลัว เพราะกี้กับเบนซ์ห่างกันปีเดียวเอง อย่างที่บอกว่ากี้อายุเยอะกลัวว่าเค้าจะสมบูรณ์มั้ย มีโอกาสที่จะแท้งกว่าคนอายุน้อยมั้ยซึ่งมันเป็นตามอายุอยู่แล้ว ถ้าทางวิทยาศาสตร์มันเป็นอยู่แล้ว ก็กลัวกังวล

เรามีเสริมสร้างให้สุขภาพแข็งแรงให้พร้อมที่จะมีเค้ามั้ย อายุเราอาจจะมีความเสี่ยง แต่สุขภาพเราไม่เสี่ยง ?

วิกกี้ : ก็พยายามแต่ไม่ได้พยายามมากขนาดนั้นในเรื่องการทานเพราะค่อนข้างเป็นคนทานตามใจปาก ทุกอย่างที่เราทำพยายามจะไม่เครียด เค้าก็พยายามที่จะไม่เครียด แล้วเค้าก็เคยบอกกี้ด้วยว่าไม่อยากให้กี้ดดันเค้า กลายเป็นว่าพอเราอายุเยอะขึ้นเรากดดันเค้า รู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง

ชาย : คือทุกเดือนที่ไปตรวจดูว่าติดหรือไม่ติดมันจะเป็นช่วงเวลาของความผิดหวัง คือเราเห็นหน้าเค้าเราก็รู้สึกแล้ว เค้าพร้อมแต่มันผิดที่ตัวเรา ของเรายังไม่พร้อม แต่พยายามแล้ว พอครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สามแล้วมันย้ำซ้ำๆไปเรื่อยๆ เราเห็นหน้าเค้าผิดหวังอยู่เรื่อย ๆมันก็กดดันก็รู้สึกผิด รู้สึกแย่

วันนี้อยากจะบอกอะไรเมีย ?

ชาย : ชีวิตนี้ชายไม่ได้อยากได้อะไรแล้ว ที่นั่งอยู่ตรงนี้ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันครบหมดทุกอย่างแล้ว คือชายวาดฝันว่าจะมีครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ สุดท้ายวันนี้มีอย่างที่ฝันแล้วจริงๆ

วิกกี้อยากจะบอกอะไรสามี ?

วิกกี้ : คือเค้ารู้ว่ากี้เป็นผู้หญิงชอบอิสระ เป็นผู้หญิงเก่ง แล้วเค้าจะชอบคิดว่าวันนึงถ้ากี้ไม่มีเค้ากี้ก็คงไม่เป็นไร กี้รู้ว่ากี้อาจจะเป็นคนทำงานเก่ง ทำอะไรเป็น แต่ว่ากี้ขาดเค้าไม่ได้ เค้าเป็นเหมือนกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.45-14.45 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama