ภาพยนตร์ เกือบทุกเรื่องมักจะมีโครงสร้างการเล่าเรื่องโดยแบ่งเป็น 3 องก์เสมอ ซึ่งมักจะสอดรับกับจังหวะการรับรู้ทางอารมณ์ของผู้ชม ยกเว้นอาจจะมีภาพยนตร์บางส่วนที่จะแหกกรอบการเล่าแบบ 3 องก์ อย่างจำพวกภาพยนตร์อินดี้ หรือ ภาพยนตร์เชิงศิลปะ ภาพยนตร์พวกนี้จะมีวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไป แต่การเล่าเรื่องแบบ 3 องก์ยังคงเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด (โดยเฉพาะในฮอลลีวู้ด)สำหรับนักเขียนบทภาพยนตร์ บางครั้งก็มีความยุ่งยากในการจัดการกับความคิดสร้างสรรค์ภายในหัว แต่ถ้าคุณแบ่งมันออกมาเป็นชิ้นๆ เขียนมันลงบนกระดาษ แบ่งออกมาเป็น 3 องก์ มันจะทำให้มองเห็นภาพได้ง่ายกว่าเอาแต่นึกอยู่ในหัว ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่สร้างออกมาจึงมักจะมีพื้นฐานจากการแบ่งบทออกมาเป็น 3 องค์อะไรคือ โครงสร้าง 3 องก์? คือ รูปแบบการเล่าเรื่องที่แบ่งพล็อตออกเป็นสามส่วน อารมณ์ของตัวละครจะจุดขึ้นและขุดลงที่แตกต่างกัน แบ่งเป็น การปูเรื่อง, การเผชิญปัญหา, การแก้ไขปัญหา นักสร้างภาพยนตร์บางคนได้นิยามเอาไว้ว่า องก์ที่หนึ่งคือ "แรงบรรดาลใจ" องก์สองคือ "งานคราฟต์" และ องก์สามคือ "ปรัชญา" ภาพจากเรื่อง IronmanAct One องก์หนึ่ง องก์แรกเปรียบเสมือนประตูบานแรกที่นำผู้ชมเข้าสู่เรื่องราว หากเรื่องราวขาดการเริ่มต้นที่ดี อาจทำให้ผู้ชมหมดความสนใจต่อภาพยนตร์ และมันจะส่งผลทำให้เรื่องราวนั้นเสียไปทั้งเรื่อง ก่อนที่จะออกมาเป็นภาพยนตร์ จะต้องมีการเขียนเรื่องราวออกมาเป็นบทภาพยนตร์ก่อน นักทำหนังจำเป็นต้องเขียนออกมาให้ดีตั้งแต่บทภาพยนตร์ เพราะบทหนังเป็นสิ่งที่เอาไว้ไปเสนอนายทุน เพื่อให้พวกเขาให้ทุนในการสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์ องก์แรกจึงสำคัญมากที่จะทำให้ผู้ที่อ่านบทรู้ว่าพวกเขาควรจะสนับสนุนทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาไหม... สิ่งสำคัญที่ควรจะมีในองก์แรก คือ การแนะนำตัวละคร การอธิบายฉากที่แข็งแรง การทำให้ผู้ชมรู้ว่าตัวละครกำลังอยู่ในโลกแบบไหน แนวคิดของตัวละครเป็นอย่างไร เรื่องราวพื้นฐานทั้งหมดที่จะทำให้ผู้ชมได้เข้าใจอย่างคร่าวๆ เพื่อที่จะให้เรื่องราวของภาพยนตร์ดำเนินต่อไปโดยที่ผู้ชมไม่รู้สึกตะหงิดใจขณะกำลังชมภาพยนตร์สิ่งที่ควรจะมีในองก์หนึ่งอยู่ที่ไหน?เวลาอะไร? (อดีต, ปัจจุบัน, อนาคต)ตัวละครคือใคร? (ชื่อ, อาชีพการงาน, อุปนิสัย, ทัศนคติ ฯลฯ)เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร? (ธีมของเรื่อง)ผู้ชมสามารถคาดหวังจะได้เจออะไรบ้างในเรื่องนี้? ภาพจากเรื่อง IronmanAct Two องก์สอง องก์สอง เป็นช่วงการพัฒนาตัวละคร ตัวละครจะมีเป้าหมายที่ชัดเจน และจะมีการเพิ่มปมปัญหาต่างๆเข้ามาในเรื่อง รวมถึงประเด็นรองที่จะเสริมเรื่องราวของประเด็นหลัก จะมีความเข้นข้นของเรื่องราวและอารมณ์มากขึ้น เรื่องราวในองก์นี้ ควรจะแสดงให้เห็นถึงการปะทะกันระหว่างความต้องการตัวละครกับความขัดแย้งของเรื่อง เพื่อให้เกิดการก้าวผ่านอุปสรรคของตัวละคร และผู้ชมเกิดความอยากเอาใจช่วย และทุกครั้งที่เรื่องราวหลักกำลังดำเนินไปข้างหน้า ก็จะเกิดการประเด็นรองในองก์สอง ตัดสลับไปมาระหว่างสองประเด็น ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ไปสู่ในองก์ที่สามสิ่งที่ควรจะมีในองก์สองเป้าหมายของตัวละครมีเวลาจำกัด/ข้อจำกัดไหม?ประเด็นรองของเรื่องราวเราได้รู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครหลัก (ลงลึกไปทางด้านอารมณ์)อุปสรรคอะไรที่ต้องเผชิญเพื่อบรรลุเป้าหมาย? ภาพจากเรื่อง IronmanAct Three องก์สาม เริ่มขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินมาใกล้เข้าสู่ช่วง climax (จุดสูงสุดทางอารมณ์) ในการเริ่มต้นองก์นี้ ตัวละครจะเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หรือ อย่างน้อยก็เจอกับปัญหาใหญ่ที่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ สิ่งนี้จะเชื่อมโยงกับประเด็นรองในองก์ที่สอง ปมปัญหาทั้งหมดของเรื่องจะไต่ระดับขึ้นไปถึงจุดอิ่มตัวแล้วพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ หากเป็นภาพยนตร์ที่มีการหักมุม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หนังจะเฉลยความจริงให้กับผู้ชม จำเป็นต้องหาทางคลี่คลายปมปัญหาให้เหมาะสมกับเรื่องราวที่ดำเนินมาทั้งหมดสิ่งที่ควรจะมีในองก์สามตัวละครตกลงไปในจุดต่ำที่สุดตัวละครรับมือกับความสูญเสียอย่างไร?ตัวละครพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุด (เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางใด?)จุดพีคทางอารมณ์ของเรื่อง (climax)ฉากจบ/บทสรุป หากไม่สามารถสร้าง climax ที่ดีให้กับเรื่องราวได้ อาจจะทำให้เกิดบาดแผลให้กับบทสรุปของเรื่อง เพราะเรื่องราวอาจจะขาดความสมเหตุสมผล แม้ว่าเรื่องราวตอนต้นที่คุณสร้างมาจะดี แต่หากจบลงได้แย่...ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็จะถูกมองว่าแย่ทั้งเรื่องทันที กลับกันกับภาพยนตร์ที่ปูเรื่องมาหลวมๆ แต่จบเรื่องราวได้ดี ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็อาจจะถูกมองว่ายอดเยี่ยมเลยก็ได้นี่คือตัวอย่างโครงสร้าง 3 องก์จากภาพยนตร์เรื่อง Ironmanองก์ 1: เริ่มเรื่องจนไปจบลงที่โรดี้มาช่วยโทนี่ด้วยเฮลิคอปเตอร์องก์ 2/1: โทนี่แถลงข่าวปิดตัวโรงงานผลิตอาวุธของเขา จนไปถึงตอนที่สร้างชุดเกราะ Mark 3Midpointองก์ 2/2: Ironman ไปถล่มที่ตั้งของผู้ก่อร้าย จนไปถึงตอนที่สเตนดึงพลังงานออกจากอกของโทนี่ หลังจากนั้นโรดี้ก็มาเอาพลังงานสำรองใส่ให้เขาองก์ 3: Ironman เข้าสู้กับ Iron monger ด้วยพลังงานเพียงครึ่งเดียวของชุด จบลงที่โทนี่ประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนว่า 'I am Ironman'Midpoint ก็คือช่วงแบ่งครึ่งเรื่องนั่นเอง โดยจะแบ่งตรงช่วงองก์ 2/1 และ 2/2 นี่คือสัดส่วนที่เหมาะที่สุดสำหรับภาพยนตร์ความยาว 90 นาทีครับ (เส้นที่เห็นในภาพคือเส้นอารมณ์ของเรื่อง) ทั้งหมดนี้เป็นเพียงทฤษฎีพื้นฐานที่จะช่วยเป็นไกด์ไลน์สำหรับนักทำหนังเท่านั้น มันอาจจะมีภาพยนตร์บางเรื่องที่เลือกที่จะเล่าเรื่องโดยการนำองก์สามสลับกับองก์หนึ่งเพื่อเหตุผลในการเล่าเรื่องบางอย่าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากคุณอยากเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี คุณจำเป็นต้องศึกษาพื้นฐานก่อนที่แหวกกรอบออกไปสู่สไตล์ของตัวเองครับ :)ภาพจาก IMDb