รีเซต

กรีน ไม่ท้อใช้หนี้แทนพ่อ 8 หลัก ชม ธันวา แฟนหนุ่มถึงลำบากไม่เคยทิ้ง

กรีน ไม่ท้อใช้หนี้แทนพ่อ 8 หลัก ชม ธันวา แฟนหนุ่มถึงลำบากไม่เคยทิ้ง
ข่าวสด
5 มีนาคม 2564 ( 19:49 )
325

กรีน ไม่ท้อใช้หนี้แทนพ่อ 8 หลัก ชม ธันวา แฟนหนุ่มถึงลำบากไม่เคยทิ้ง

วันที่ 5 มี.ค.64 ที่ Dome sale Gallery ชั้น 1 อาคารเพิร์ล แบงค็อก นักแสดงสาวชื่อดัง กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 7 Yachts ถึงเรื่องที่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน 8 หลักที่คุณพ่อกู้ยืมไว้


ฟีดแบ็กละคร “แก้วลืมคอน” เป็นยังไงบ้าง? “ก็ดีค่ะ หนูได้ยินว่าเรตติ้ง 2.7 ก็ดีเลยแหละ”
ภูมิใจมากแค่ไหน? “ภูมิใจค่ะเพราะเป็นละครเรื่องแรกกับทางช่องวัน และช่องวันก็ให้โอกาส ผู้ใหญ่ให้บทที่ไม่เคยเล่นมาก่อนคือบทฝาแฝด"
เรื่องนี้เหมือนเป็นใบเบิกทางสำหรับเรื่องต่อๆ ไป? “จริงๆ เรื่องนี้ เหมือนเราก็คุยกันก่อนหน้านั้นแล้ว เราพึ่งมาเป็นฟรีแลนซ์ ผู้ใหญ่ก็เหมือนดูผลงานเราก่อน จริงๆ ก็ขอบคุณที่ผู้ใหญ่เอ็นดูและให้บทที่ดี เราก็ตั้งใจทำเต็มที่”
มีเรื่องต่อไปหรือยัง? “มีแล้วค่ะเรื่องกระเช้าสีดาเล่นกับพี่ปีเตอร์คอร์ป เป็นละครของพี่ฉอด(สายทิพย์)ค่ะ"
ละครปังขนาดนี้ผู้ใหญ่มีทาบทามให้เซ็นสัญญาไหม? “ยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้นะคะ ใจกรีนอยากเป็นฟรีแลนซ์มากกว่า”
เรียกว่าเป็นปีที่ดีของกรีน? “ดีนะคะ คือเรารักอาชีพนี้ อยากจะทำงานอาชีพนี้ให้ดีที่สุด ยิ่งผู้ใหญ่ให้โอกาสไม่ว่าจะเป็นค่ายไหนก็ตาม เราก็อยากทำออกมาให้เต็มที่ ทำให้ดีขึ้นและพัฒนาด้านการแสดงด้วยค่ะ”


ถามถึงเรื่องหนี้ 50 ล้าน ที่เราไปพูดในรายการ? “กรีนก็มีชีวิตเหมือนทุกคน เบื้องหลังเราก็มีหนี้สินมีภาระที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เพียงแค่คนจะรู้หรือเปล่า ซึ่งก่อนที่กรีนจะไปออกรายการแฉ มีออกรายการของเกลือวันเดอร์ก่อนของทางช่องวัน เพื่อโปรโมตละครด้วย รายการมีหัวข้อขึ้นมาว่าชีวิตจริงกับชีวิตในละคร คือชีวิตของแก้วและกรีนก็ไม่ได้ต่างกัน ลำบากเหมือนกัน เลยมีโอกาสได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้พูดถึงเท่าไหร่”
เรื่องหนี้จำนวนนี้คือเพิ่งทราบหรือว่ารู้มาตั้งนานแล้ว? “มีมาตั้งนานแล้วค่ะ เราก็ช่วยกันในครอบครัว แต่พอคุณพ่อเสียเหมือนมีมากกว่าเดิม ค่อนข้างหนัก พอคุณพ่อเสียไปก็ไม่ได้มีคนช่วย ก็เคว้ง ลูกหลานต้องช่วยกันเอง”
หลายคนแปลกใจว่าเราเป็นนักแสดงมาหลายปี ทำไมมีหนี้สินเยอะขนาดนี้? “กรีนว่าแล้วแต่คน หนูไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่แรก ถ้าใครหนูรู้ ชีวิตหนูก็เป็นเด็กเอเอฟ แค่เข้ามาประกวด แต่บ้านเราก็ไม่ได้ยากจนหรือร่ำรวยขนาดนั้น แค่พอมีพอกิน จริงๆ กรีนเป็นคนประหยัดตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ไม่ได้ติดหรู เพราะเราเป็นแบบนี้บวกกับมีหนี้สินที่มีมาอยู่แล้ว เพียงแค่คนไม่รู้เบื้องลึกของเราเฉยๆ
หนี้ตรงนี้เป็นของคุณพ่อหรือมาจากไหน? “จริงๆ ก็ตามข้อมูลที่ให้ในรายการค่ะ”
เป็นหนี้นอกระบบทั้งหมดเลยหรือเปล่า? “ไม่ค่ะ คือมีหลายๆ ส่วนรวมกัน แล้วเป็นคุณพ่อของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ”
ตัวเลขยอดนี้ค่อนข้างสูงมีการคุยกับพี่น้องเรื่องการชดใช้หมดในกี่ปี? “ตัวเลขไม่ได้ถึงขนาด 50 ล้าน อย่างที่พาดหัวข่าว แต่ตัวเลขคือ 8 หลัก สำหรับบางคนอาจจะมองว่าไม่เยอะหรอก แต่สำหรับกรีนคือเยอะมากๆ แล้วหลายคนบอกว่ากรีนเล่นละครมาตั้งหลายปี ทำไมไม่มีเงินมาจุนเจือในส่วนนี้ กรีนจะบอกว่าเวลาเราเล่นละครก็มีเรตของเขา

ซึ่งทุกครั้งที่กรีนได้เงินจากการเล่นละครมา ไม่ได้หมายความว่ากรีนต้องเอาเงินทั้งหมดมาลงกับเรื่องหนี้ เพราะว่าหนี้ที่มันมีเยอะกว่ารายได้ที่กรีนมี แล้วละครเรื่องหนึ่งดาราก็เยอะ เราไม่ได้รับได้ทีปีละ 10 เรื่อง ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วเราก็ต้องทำงานให้บาลานซ์กับการพัฒนาเกี่ยวกับการแสดงของเราด้วย ถ้ารับเยอะขนาดนั้นการแสดงของเราก็จะไม่ดี

และส่งผลต่อการทำงานในอนาคต ฉะนั้นกรีนไม่ได้มีแค่เอาเงินทั้งหมดมาลงกับเรื่องหนี้สิน เรามีภาระครอบครัวต้องดูแลคุณแม่ และมีภาระส่วนตัวของเรา ต้องดูแลตัวเองด้วย ฉะนั้นก็ต้องแบ่งไปเรื่อยๆ เพราะรายจ่ายด้านอื่นเราก็มีอยู่แล้ว ซึ่งเราแบ่งไว้แล้วแหละ พอมีหนี้สินเข้ามา ความจริงมีมาตั้งนานแล้ว เราก็ผ่อนมาโดยตลอด แต่ว่ามันไม่ได้หมดง่ายๆ เพราะด้วยความที่สูงถึง 8 หลัก”
นอกจากความเป็นลูกแล้ว มองว่าหนี้สินขนาดนี้หนักเกินไปไหมสำหรับกรีน? “กรีนว่าไม่มีคำว่าหนักสำหรับลูกที่จะตอบแทนพ่อแม่ แค่เราจะหาวิธียังไงที่เราสามารถทำให้คุณแม่มีความสุขได้ ให้เขาไม่ต้องกังวล กรีนรู้สึกว่าปีนี้ถ้าเรามีโอกาสมาก ทุกๆ งานที่กรีนได้ทำก็จะทำให้เต็มที่และอยากให้ผลงานออกมาดี จะได้ส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ด้วย เพราะเราทำงานทุกวันนี้แน่นอนว่าทำเพื่อเงินในส่วนนึง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราหน้าเงินขนาดนั้น เราอยากทำผลงานออกมาให้ดีด้วย กรีนมองว่ารายได้ที่เราได้มาเป็นผลพลอยได้มากกว่า เป็นรายได้ที่เราเอามาจุนเจือครอบครัวค่ะ”
ตอนนี้ยังเหลือยอดหนี้อีกเท่าไหร่? “ด้วยความที่เป็นเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจทางใต้ด้วย กรีนไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนฟังเป็นตัวเลขเท่านั้นเท่านี้ได้ว่าเหลือเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่ากรีนก็ยังต้องจ่าย”
เรารับผิดชอบคนเดียว? “มีน้องด้วยค่ะ แล้วก็มีหลานที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของกรีนคือเฮียแก๊ป(ธนเวทย์)ที่เป็นนักแสดงเหมือนกัน แต่ตัวเขาก็มีครอบครัวแล้ว ทุกคนมีภาระของตัวเองก็จะแบ่งมาได้นิดๆ หน่อยๆ แต่หลักๆก็จะเป็นเรากับน้องสาว แต่น้องสาวบางทีก็ช็อตเหมือนกัน เราก็ต้องประหยัด เวลา 2 ปีที่ผ่านมาอะไรที่ไม่จำเป็นกรีนตัดทิ้งหมดเลย”
ช่วงหนักสุดๆ คือขนาดไหนสำหรับเรา? “เวลาได้ยินว่าเหมือนมีอันนี้มาเพิ่มอีกแล้วนะ(ยิ้ม) ก็จะเหนื่อยนิดนึง แต่ก็พยายามหาทางแก้”
ใช้กำลังใจให้ก้าวผ่านตรงนี้ยังไงบ้าง? “กรีนรู้สึกว่ามีคนที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินมากกว่ากรีน เท่าที่เคยเห็นอย่างพี่บอยกับพี่เจี๊ยบ ที่เหมือนบังเอิญธุรกิจเขาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ร้าน เขาเป็นมากกว่ากรีนอีก เขายังสามารถปลดหนี้ได้ ของกรีนยังไม่เท่าเขา กรีนว่าเราก็ต้องหาทางทำได้ และครอบครัวกรีนก็ช่วยเหลือกันด้วยค่ะ กำลังใจหลักๆ คือมาจากครอบครัวค่ะ”


แล้วมาจาก ธันวา ด้วยไหม? “จริงๆ เขาก็รับรู้ปัญหาของกรีนมาตั้งแต่ที่เริ่มคบกัน เพราะคุณพ่อก็เคยคุยกับเขาเรื่องนี้เหมือนกัน อะไรที่ช่วยได้เขาก็ช่วย ทั้งที่เป็นเงินก็เคยช่วยเหมือนกัน”
ถือว่าพิสูจน์ใจอะไรกันได้หลายอย่าง ว่าเขาไม่ทิ้งเราแน่นอน? “ใช่ค่ะ เขาไม่ทิ้งเรานะคะ ไม่ทิ้งครอบครัวด้วย ทำให้เห็นว่าพอเรามีปัญหา ครอบครัวเรามาปรึกษาหารือและหาทางแก้ ใครมีตรงไหนก็ช่วยเรื่องนั้น ใครไม่มีก็ไปช่วยเรื่องอื่นแทน ทำให้เห็นว่าครอบครัวเราแน่นแฟ้นกันมากขึ้นมากๆ ค่ะ”
เลยทำให้กรีนทำธุรกิจเยอะขึ้นด้วย? “ใช่ค่ะ เลยทำให้วิธีคิดกรีนเปลี่ยน จากแต่ก่อนกรีนจะคิดว่าพ่อส่งเงินมาให้ตลอด เราก็ใช้แบบไม่ถึงกับฟุ่มเฟือย แต่อยากได้อะไรก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พอเรารู้เรื่องหนี้สินต่างๆ ที่มากขึ้น บวกกับที่คุณพ่อเสียก็ยิ่งรู้เยอะขึ้นเลยปรับวิธีคิดตัวเองไปเลย อะไรที่ไม่จำเป็นคืออดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไม่เป็นไรเราไม่ตายหรอก เรายังอยู่ได้ ต่อให้ต้องอยู่บ้านแล้วไม่ได้ออกไปไหน โควิด-19 เป็นอะไรที่ดีมาก กรีนไม่ต้องออกไปใช้เงิน ทำให้เกิดวิธีคิดใหม่ๆ เราสามารถลดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่จำเป็น และต้องเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ถึงจะควักเงินออกมาใช้”
มองว่าหนี้ 8 หลักอีกสักกี่ปีถึงจะเบาลง? “มันมาจากหลายทางเลยค่ะ คาดการณ์ไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่จะพยายามให้หมดภายในไม่ให้เกิน 10 ปี ซึ่งต้องไม่กระทบกับคนอื่นและตัวเราด้วย กรีนพูดตรงๆ ว่าถึงแม้เราจะต้องใช้หนี้สิน แต่เราก็ยังมีความฝัน กรีนก็ต้องแบ่งเรื่องงานกับหนี้สินให้บาลานซ์กันด้วย”
ต้องมีสัญญาในการชำระหนี้ไหมหรือว่าทางเจ้าหนี้ก็เข้าใจเรา? “ก็มีค่ะ คุยกันได้ เราก็มีทนายของทางฝั่งครอบครัวเรา ที่เขาก็คุยเรื่องนี้ให้อยู่เหมือนกันค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : green_ausadaporn