เปิดชีวิตรักต่างวัย จี๊ด สุนทร กับภรรยาอายุห่างกว่า 21 ปี เหตุรอดตายมานับครั้งไม่ถ้วน (มีคลิป)
นักร้องนำยุค90 จี๊ด สุนทร ที่วันนี้จะเปิดเปิดชีวิตรักกับแฟนสาวที่อายุห่างกัน 21 ปี ไม่รู้ว่ากินเด็กแล้วจะเป็นอมตะจริงหรือเปล่า พร้อมเล่าเส้นทางในวงการเพลงที่ยาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่าเคยเกือบตายเพราะขับรถหลับใน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
พี่คบกับภรรยาที่อายุห่างกัน 21 ปี?
จี๊ด : จริงครับ คือวันนั้นเป็นวันธรรมดาที่เดินสวนกัน ปี29 ผมไปทำงานโทรทัศน์และวิทยุ เป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว แล้ว จั๊กจั่น เขาก็เป็นผู้ประกาศรายการ พอคุยกันก็ถูกคอ แล้วครอบครัวของน้องเขาชอบทำบุญมาก เคยอุทิศที่ดินสร้างวัดตั้ง 2 วัด แม่ผมก็เป็นคนทำบุญเก่ง ผมก็เลยมองว่าหรือว่าเราสนับสนุนกันได้ วันนั้นผมเปลี่ยนมาทำเรื่องธุรกิจเต็มตัว แล้วเจอเขาในวันที่ผมไม่มีแฟนเขาก็ไม่มีแฟน
แล้วตอนนั้นปิ้งกันยังไง ใครจีบใคร?
จี๊ด : คือผมจีบเขา ผมบอกเขาว่าน้องเก่ง น่ารักมากเลย ผมเป็นบริษัทที่ปั้นนักร้อง แล้วน้องเขาเป็นพีอาร์มืออาชีพเลย เขาก็เลยเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ผม แล้วที่ช่องก็ทำงานด้วยกัน บริษัทก็ทำงานด้วยกัน ทีนี้ผมทำงานหลายๆ เรื่อง แล้วล้มเหลว ปัญหา อุปสรรคเยอะ แล้วผมก็เดินทางไปต่างประเทศ แล้วก็ค้นพบตัวเองว่าชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะอยู่ในมือใคร แล้วผมก็รู้ว่าคนที่เรียกว่าศีลเสมอกัน เจอกันแล้วผมรู้สึกว่ามันใช่ เคมีมันถูกกันก็เลยโอเค ตอนทำงานที่บริษัทเราไม่เคยมองเขา แต่พอไปไกลๆ แล้วเรารู้สึกว่าคนนี้ดี แล้วผมพยายามทำให้เขาชอบผม ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบหรอก
ทำยังไง?
จี๊ด : บอกว่าไปนั่งเครื่องบินกับพี่ไหม คือผมเป็นนักบินด้วย ผมไปขับเครื่องบินส่วนตัว เวลาผมบินก็มีครู ผมนั่งซ้าย ครูนั่งขวา ข้างหลังมี 2 ที่ว่างอยู่ ผมก็เลยชวนเขาว่าไปเที่ยวไหม เขาบอกว่านั่งได้เหรอ แต่เขาก็ไป เสร็จแล้วผมก็บอกว่าครูๆ น้องจั๊กจั่นเขาอยากเป็นนักบิน ครูก็บอกว่ามาเรียนสิ มาบ่อยๆ สรุปคือผมพาเขาไปบินเรื่อยๆ
เขาไม่รู้ว่าพี่เป็นนักร้องเหรอ?
จี๊ด : เขารู้แต่ว่าเขาไม่เคยฟังผม เขาดูแต่โดเรม่อน คือเราเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องทำงานมาก ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องโรแมนติกกับเขาเลย นอกจากสนับสนุนเขา ก็ถามเขาว่าเขาต้องการอะไรในชีวิต อะไรที่เขาต้องการผมก็ตอบแทนให้เขาอย่างดี เขาบอกเขาชอบเที่ยว ผมก็พาเขาไปเที่ยวต่างประเทศก็สนุกดี
ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา?
จี๊ด : ผมขอบคุณเขามากๆ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ผมจะไม่มีวิถีชีวิตและร่างกาย จิตวิญญาณที่ดีขนาดนี้ถ้าผมไม่ได้สุภาพสตรีท่านนี้ดูแลผมทุกอย่าง ทำให้ผมกลายเป็นคนนี้ที่ยังมีปัจจุบันที่ยังสนุกสนาน เข้มแข็ง ยังอ่อนเยาว์ได้ แม้ว่าอายุจริงจะไปไกลแล้ว
อยู่ด้วยกันมา 30 ปี มีปัญหาไหมในเรื่องแตกต่างของอายุ 21 ปี?
จี๊ด : มันโชคดีของผมที่ผมมีประสบการณ์ พอเรามีครอบครัวใหม่เราไม่อยากสูญเสีย เราไม่อยากเฮิร์ตและไม่อยากให้เขาเฮิร์ต ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ผมก็เลยเย็นแล้วสรุปว่ายอมแล้วปัญหาไม่มี
พี่รักทุกอย่างในความเป็นจั๊กจั่น แต่พี่ไม่รักที่เพื่อนเขาเรียกพี่ว่าลุง?
จี๊ด : ไม่ได้เลย คือตอนคบกันแรกๆ ผมทรุดโทรมมาก ผมทำงานทั้งการเมือง ขับเครื่องบินเล่น แล้วกลางวันประกาศข่าว มันเหลือเวลาน้อยมากเลย ตอนเช้าผมต้องส่งลูกด้วย ผมก็โทรมและมึน พูดช้าเลย แล้วพอไปไหนกับเขา เพื่อนๆ เขาบอกว่าพ่อเหรอ
ตอนนั้นพี่จี๊ดทำยังไง?
จี๊ด : อันนี้ยังไม่อันตรายเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่ายังเป็นธรรมชาติอยู่ แต่เพื่อนผม ที่รุ่นเดียวกัน พอเขานั่งทานข้าวหรือกินเหล้าอยู่ที่ไหน ผมไปเจอเขาก็ถามว่าลูกสาวเหรอ เรารู้สึกว่าไม่ดีเลย ผมเลยกลับมามองตัวเองว่าผมควรปรับ เปลี่ยนอย่างไร ผมก็พัฒนาตัวเอง ผมก็เลยลดน้ำหนัก ด้วยการลดไขมัน มันต้องเพิ่มอะไรแล้วต้องลดอะไร แล้วมันต้องทำยังไง ผมก็เลยได้วิชานั้นมา อ่อ...ร่างกายของเรา 60 เปอร์เซ็นต์มันเป็นเรื่องของอวัยะภายใน 20 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องของการย่อยอาหาร หรืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องกิจกรรม สุดท้ายแล้วผมไปเน้นเรื่องอาหาร คุณจั่นเป็นโค้ชให้ผม
เรื่องของความรักการที่ผู้หญิงคนนึงจะเริ่มต้นกับคนที่มีครอบครัวแล้ว พี่จั่นเขาได้พูดถึง แล้วทางภรรยาเก่าเขาว่าไงบ้าง?
จี๊ด : ไอเดียผมคือวันที่ผมต้องการจะมีชีวิตที่ดีเนี่ย ผมคิดถึงใจเขา เขามีครอบครัว มีการศึกษาที่ดี เขาจบปริญญาโทนิด้า แล้วเขามาดูแลผม อะไรที่ผมถ่ายเท ถ่ายทอดผมให้ทั้งชีวิตเลย แล้วอะไรที่เป็นความสุขของเขาผมก็จะทำให้เต็มที่ แล้ววิธีการที่จะทำยังไงให้คนสองคนผนึกกำลังกันได้ คือการที่เราทำด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกัน เป้าหมายเขาต้องการอะไรในชีวิต เราก็จะทำด้วยกัน แล้วมีเป้าหมายเดียวกัน ผูกชีวิตเรากับเป้าหมายเราเข้าด้วยกัน เป้าหมายงาน เป้าหมายชีวิตทำด้วยกัน มันก็เลยกลายเป็นความสุข
อันนี้พี่หมายถึงตัวพี่กับคุณจั่น?
จี๊ด : ใช่
แต่ที่อยากรู้คือภรรยาเก่าโอเคกับคุณจั๊กจั่นไหม?
จี๊ด : ผมใช้เวลาอยู่พอสมควรที่จะให้ลูกสาว ลูกชาย ยอมรับในตัวคุณจั๊กจั่น แล้วลูกสาวกับลูกชายผมก็เข้าได้ แล้ววันนึงเป็นวันพ่อ 5 ธันวาคม ผมก็เรียกลูกมากินข้าว แล้วก็ถามว่าพี่จั่นเขาดีกับหนูไหม แล้วมีอะไรที่หนูคิดว่าไม่เหมาะสมไหม เขาดีกับพ่อ พ่อต้องมีคนดูแลนะลูก แม่หนูก็ดีที่สุดแล้วละ แต่ตอนนี้พ่อต้องมีคนดูแล หนูคิดว่าพี่้จั่นเขาเป็นยังไง โอเคนิ เขาก็ดีกับพ่อ ดีกับหนู งั้นพ่อขออนุญาตที่จะบอกหนูว่าพ่อต้องให้เกียรติเขา พ่อจะแต่งงานกับเขา หนูจะว่าไง ลูกก็อึ้งไป...โอเคนิ ผมคุยกับลูกวันที่ 5 ธันวาคม วันที่ 12 มกราคม ผมแต่งงาน
แล้วเมียพี่เขารู้จักกันไหม?
จี๊ด : เขารู้ เขาก็โอเค
จริงเหรอพี่ที่พี่เป็นคนชอบหลับใน?
จี๊ด : ผมนอนไม่พอ ผมเลิกไนท์คลับตี 2 บางทีกว่าจะเลิกไปกินข้าวต้ม ไปนู่น นี่นั่น แล้วกว่าจะถึงบ้านต3 ตี5.30 น.ผมตื่นไปส่งลูก ผมก็เลยรู้สึกว่าผมไม่ได้นอน ทันใดนั้นเองผมก็หลับง่าย ขับรถไปก็ตบหน้า ดึงผม ก็ตื่นขึ้่นมาหน่อย บางทีข้างหลังก็มีบีบแตร
หนักสุดที่หลับในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคืออะไร?
จี๊ด : เพื่อนผมก็ขำตลอด แล้วบอกว่าวันนึงต้องเจอ แล้ววันนึงผมก็ไปประตูน้ำตลาดโต้รุ่ง ซื้อของอะไรต่างๆ มาเรียบร้อย เพื่อนบอกให้มานั่ง ผมก็ไม่นั่งบอกจะกลับบ้าน พรุ่งนี้มีซ้อม ปรากฏว่าเข้าโค้งตรงหน้ารามคำแหง เข้าโค้งแล้วไม่คืน เสยเสาไฟฟ้าที่อยู่เกาะกลางถนน รถไปเกาะเสาไฟ แล้วเสาไฟก็ตกลงมาที่หน้ารถยนต์ ผมรีบลงจากรถ เสร็จแล้วไปยืนอยู่แล้วรู้สึกว่าจะทำยังไงดี แต่ว่ามันก็ผ่านมาได้ปลอดภัย
แล้วที่จะเสยกับสิบล้อ?
จี๊ด : ผมขับรถมาตอนดึกๆ สักตี3 พอถึงสี่แยกวังหิน พอจะเลี้ยวบ้านอยู่ในเสนา พอจะเลี้ยวเข้ามันก็ไม่ถึงขนาดที่รู้ตัวนะก็ขับๆ มาสะลึมสะลือ คางเกือบไปโดนพวงมาลัย ผมรู้สึกว่าคางเจ็บ แต่ใครเหยียบเบรกอะ ถ้าผมเลยแยกนั้นไปโดยไม่เหยียบเบรก ผมไม่เป็นสุนทรวันนี้ ไปแล้ว นี่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมั่นคงในความดี ผมทำบุญ ผมตั้งใจ ทำความสำเร็จใดๆ ผมรู้สึกว่าผมต้องทำให้มากขึ้นเพื่อความสำเร็จที่ไปหล่อเลี้ยง ไปอุ้มชู ไปช่วยคนให้มากขึ้น
พี่รอดชีวิตจากหลับในมาตลอด แล้วก็รอดชีวิตโดนยิงกลางคอนเสิร์ต?
จี๊ด : ยุคนั้นเดินทางไปเล่นที่จังหวัดนึง เสร็จแล้วผมก็ร้องเพลง ก็มีคนขอเพลง สุรพล หน่อย โค้ง.45 กระบอกปืนมันด้ามยาว ผมร้องเพลงอยู่ก็หยุดไม่ได้ ก็หันไปมองเพื่อนข้างหลัง แล้วก็เหมือนนัดกันก็ร้องเพลง 16 ปี แห่งความหลัง พอร้องเสร็จปุ๊บเขาก็เก็บปืนไป ผมก็เลยรอดชีวิต
เคยร่วมงานกับอ๊อด คีรีบูน ในนามวง THE PALACE?
จี๊ด : ผมรู้ข่าวเมื่อวันวานนี้ แล้วผมไปร่วมงานกับเขาเมื่อคืน แล้วผมรู้สึกเสียดายเขามากเลย ตอนนั้นที่อยู่วง THE PALACE เขามีโรงเรียนสอนดนตรี เขาก็เลยไม่มีเวลามาเข้างานกับ THE PALACE เพราะว่าเราไปเล่นทั่วประเทศ เขาไม่มีคิว กลายเป็นว่าเขาติดงงานของเขา ก็เสียดายมากครับก็ขอให้เราได้แสดงความรู้สึกในวันนี้ว่าคนไทยทุกคน แล้วก็ศิลปินทุกท่านเลย รวมทั้งพี่่จี๊ดและTHE PALACE เรารู้สึกว่าน้องได้ทำสิ่งที่ดีงามมาตลอดชีวิต สร้างกุศลแล้วก็บุญบารมีมามากๆ เขาเป็นคนที่ดีมากๆ ในทุกสถานะเลย ดังนั้นวันนี้อ๊อด จะอยู่ในหัวใจของพวกเรา และพี่ๆ THE PALACE ตลอดไปครับ
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี