Series Review Mandala Murders (2025) ฆาตกรรมมันดาลา อินเดียทำถึงจึงตื่นเต้นระทึกขวัญกับความลี้ลับน่าสงสัยที่มาพร้อมแนวสืบสวนชั้นดีที่อาจเดาได้ว่าใครเป็นใครแต่ยังเร้าใจในรายละเอียด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่านอกจากซีรีส์เกาหลีและญี่ปุ่นแถมด้วยไต้หวันที่เป็นงานสามัญประจำบ้านผู้เขียนแล้วยังมีอินเดียเพิ่มเข้ามาโดยเฉพาะงานที่ตีตราว่าเป็น NETFLIX Original คือเมื่อก่อนงานจากอินเดียผู้เขียนก็ชอบดูนะแต่ก็จะไปทางงานหนังมากกว่าถ้าเป็นงานระดับละครหรือซีรีส์นี่คือไม่ดูเลยอาจเพราะว่ายังไม่เปิดใจ แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผู้เขียนหลวมตัวเขาไปดูซีรีส์อินเดียที่สร้างโดย NETFLIX นี่ล่ะแล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรจากนั้นกลายเป็นว่าซีรีส์อินเดียกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแม้จะไม่ใช่ตัวเลือกแรก นั่นเพราะชั้นเชิงในการเขียนบทของหนังและซีรีส์อินเดียยุคใหม่เริ่มมาเหนือเมฆทำให้ในความสนุกที่พึงมีมันมีอะไรที่เกินคาดเดาอยู่เรื่อยๆ อย่างเรื่องนี้ที่เป็นซีรีส์ใหม่ที่เมื่อผู้เขียนดูกับคุณแม่บ้านนางบอกออกมาเลยว่าไม่นึกว่าอินเดียจะทำแนวนี้เพราะปกตินางจะไม่ดูหนังหรือซีรีส์อินเดียแต่เรื่องนี้ผู้เขียนดูตอนที่นั่งอยู่ด้วยกัน จนกลายเป็นว่าคนไม่ดูหนังหรือซีรีส์อินเดียกลายเป็นติดหนึบดูอย่างสนุกเพราะไม่คิดว่าอินเดียจะทำได้ดีขนาดนี้ในเรื่องแนวนี้ส่วนจะเป็นอย่างไรไปว่ากัน Vikram Singh (Vaibhav Raj Gupta) ตำรวจที่ถูกพักงานได้กลับมาบ้านที่จรัญทาสปุระและในระหว่างทางเขาได้พบกับชายอัธยาศัยดีที่กำลังจะเดินทางไปสู่จุดหมายเดียวกับเขา แต่เมื่อถึงบ้านเกิดจริงๆ Vikram กลับต้องเผชิญกับแผลใจในอดีตที่แม่ของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยแถมยังต้องมาพบกับการฆาตกรรมสะเทือนขวัญโดยที่เหยื่อคือชายอัธยาศัยดีคนนั้นที่บนรถไฟ อีกด้านหนึ่ง Rea Thomas (Vaani Kapoor) เจ้าหน้าที่ CIB ที่ศึกษาคดีฆาตกรรมโหดที่จรัญทาสปุระก็ขอลงพื้นที่เพื่อสืบสวนคดี แต่เมื่อมาถึง Rea ต้องมาอยู่ท่ามกลางสงครามทางการเมืองของนักการเมืองท้องถิ่น Ananya Bhardwaj (Surveen Chawla) ที่มีอดีตบางอย่างกับ Vikram แต่เมื่อเกิดการฆาตกรรมข้นเรื่อยๆ Rea จึงต้องร่วมมือกับ Vikram เพื่อสืบคดีเพื่อพบว่าทุกการฆาตกรรมจะเกี่ยวข้องกับลัทธิประหลาดที่สามารถทำให้เกิดปาฏิหาริย์ต่อคนที่ร้องขอแต่ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน แล้วเจ้าหน้าที่ทั้งสองจะไขคดียังไงเมื่อยิ่งสืบก็ยิ่งพบกับอะไรที่ไม่คาดคิดและยากอธิบายมากขึ้น เก่งกาจในการผูกเรื่องที่ก้ำกึ่งจึงท้าทายสมองเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์หรือเรื่องลี้ลับทับซ้อนบนการสืบสวนเข้มๆได้อย่างดี เอาจริงนี่คือความก้ำกึ่งไม่ชัดเจนหรืออาจจะว่าเป็นความคลุมเครือก็น่าจะใช่เมื่อเป็นปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติแต่ยังพยายามอธิบายเป็นเรื่องเชิงวิทยาศาสตร์ ทว่าการอธิบายไม่ได้มีหลักการและเหตุผลที่มากพอมารองรับทำให้จะเป็นวิทยาศาสตร์ก็ไม่ใช่จะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ยังไม่เต็มปากนัก แต่สิ่งนั้นไม่ใช่สาระสำคัญที่จะต้องไปเข้าใจให้ทะลุเพราะมันใช้เป็นมูลเหตุแห่งฆาตกรรมที่เป็นพื้นฐานของงานสืบสวนที่เข้มๆเมื่อเต็มไปด้วยปมปริศนา แล้วเมื่อสิ่งที่เป็นพื้นฐานมันไม่ชัดดูคลุมเครือภาพการสืบสวนจึงดูมืดมนหาทางไปลำบากคือไม่รู้จะหาทางออกยังไง แถมยังมีเรื่องของโชคชะตาที่นำพาให้มาเจอกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่เคยมีอดีตจึงเหมือนจะวุ่นวายมากมายเรื่องราวแต่มันเจ๋งตรงที่ทุกอย่างนั้นเชื่อมโยงต่อกันเป็นร่างแหที่ทั้งหนาทั้งแน่นได้อย่างดี ทำให้ในความเข้มของการสืบคดีฆาตกรรมมีอะไรที่ลี้ลับรองรับได้สมใจนึก มีความลี้ลับชวนสงสัยเล่าได้อย่างระทึกเร้าใจทวีความเข้มขึ้นเรื่อยๆจนถึงจุดสุดท้ายที่อาจไม่ยากกับการคาดเดาแต่ยังเอาอยู่ ถ้าว่ากันถึงเรื่องอารมณ์หนังสามารถเร้าอารมณ์ได้ชะงัดด้วยการใช้ความลี้ลับที่ชวนสะพรึงมาสะกดคนดูในทุกทาง ทั้งบรรยากาศหลอนๆภาพการฆาตกรรมที่แม้ไม่สุดจัดแต่ก็โหดเอาเรื่องที่มาพร้อมความมืดทำให้เหมือนกับมืดมนไร้ทางออกตามไปด้วย แต่นั่นคือสิ่งที่ตาเห็นแต่สิ่งที่อารมณ์ถูกปลุกเร้าคือเรื่องปริศนาที่ต้องคลี่คลายให้ได้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงต้องสังหารคนเหล่านี้ แล้วเมื่ออธิบายออกมาก็ยังเหนือคาดแม้ว่าจะเปิดหัวได้อย่างโล่งโจ้งกับการย้อนไปในอดีตที่เป็นที่มาของทุกเรื่องแต่สิ่งที่ทำได้ดีคือสร้างความฉงนสงสัยว่าเรื่องจะสัมผัสกับสิ่งที่เปิดหน้ามาได้อย่างไร และยังเล่าด้วยการทวีความเร้าใจไปเรื่อยๆตามขนบของงานแนวสืบสวนที่เมื่อหลายๆอย่างเริ่มต่อกันติดความเข้มข้นจะยิ่งทวี แม้ว่าเมื่อถึงเวลาสิ่งที่คนดูคิดเอาไว้ว่าใช่ต้องใช่แน่ๆมันก็เป็นไปตามนั้นไม่ได้ยากกับการคาดเดาแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะยังมีอะไรให้อยากรู้อีกเยอะ อาจเพราะนี่คืองานระดับซีรีส์ที่ยังเห็นริ้วรอยทางการแสดงที่มีขาดมีเกินมีติดขัดบ้างก็ช่างมัน เอาจริงผู้เขียนเองไม่ได้ติดามผลงานของนักแสดงอินเดียมากนักคือเมื่อดูก็รู้ว่าคนนั้นคนนี้แสดงแต่เท่าที่เห็นคือการแสดงจะชัดถึงความต่างระหว่างานในระดับซีรีส์และภาพยนตร์ ก็ใช่ที่งานระดับซีรีส์มันคือระดับที่รองลงมาจึงมีบ้างที่ไม่เนี้ยบเต็มร้อยสำหรับการแสดงของนักแสดงและเรื่องนี้ก็ใช่ที่มีความน่าชื่นชมในการปิดซ่อนปมปริศนาไว้ได้อย่างมิดชิด และก็ใช่ที่ยังมีที่เดาได้นั่นไม่ใช่เพราะนักแสดงทั้งหมดแต่บทไปโฟกัสตรงนั้นเต็มที่เลยมีพิรุธชวนสงสัยทำให้เดาทางนั้น ซึ่งถ้าว่ากันที่การสวมบทบาทตามหน้าที่นับว่าทำได้ดีพอตัวสำหรับ Vaani Kapoor ที่งามหยดย้อยในชุดสาหรี่แต่เมื่อใส่ชุดลุยๆอาจไม่ดูดีเท่าในบทที่น่าจะเข้าจักรวาล MARVEL ได้ ส่วน Vaibhav Raj Gupta กับ Surveen Chawla ก็ยังไม่มีอะไรให้ต้องติแม้ว่าบางครั้งก็เห็นว่าการแสดงของพวกเขาและเหล่านักแสดงสมทบยังมีขาดมีเกินบ้างและมันทำให้เมื่อถึงเวลาความจับใจที่ต้องการมันมาไม่เต็มที่เท่านั้น เป็นความบันเทิงที่อยู่ในมาตรฐานงานจากอินเดียยุคใหม่ที่จะมาพร้อมความลุ่มลึกท้าทายสมองและหัวใจให้คาดเดา แรกที่เห็นโปสเตอร์ผู้เขียนคิดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นงานแนวตามล่าหาสมบัติผจญภัยกันสนุกๆไม่นึกว่าจะมาเวย์นี้เหมือนกันแต่เมื่อมันมาทางนี้ก็นับว่าดีไปอีกแบบ แน่นอนว่าเมื่อดูหนังหรือซีรีส์อินเดียยุคใหม่บ่อยขึ้นจะเห็นชั้นเชิงการเขียนบทและการเล่าเรื่องมีความลุ่มลึกขึ้นจนบางครั้งต้องระแวงว่าจะมาเพื่อสับขาหลอกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเพราะชั้นเชิงที่เล่าคือจัดจ้านสลับเล่าไปมาอดีตตัดกับปัจจุบันที่เป็นการเฉลยปมเหมือนการบอกใบ้ให้ปะติดปะต่อเรื่องกันอย่างสนุก สิ่งที่ตามมาคือการท้าทายสมองและหัวใจว่าจะเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือไม่แม้จะไม่แยกชัดระหว่างวิทยาศาสตร์กับเรื่องลี้ลับแต่ก็สงสัยจัดๆว่าอะไรเป็นอะไร จนสุดท้ายไม่มีทางไม่เดาว่าอะไรเป็นอะไรที่เดาถูกบ้างผิดบ้างตามนั้นแต่นั่นแหละคือความบันเทิงตามมาตรฐานงานแนวนี้โดยเฉพาะงานจากอินเดียสมัยนี้ และก็แน่นอนมันไม่ได้สมบูรณ์แบบเลยยังมีอะไรให้เอ๊ะมากมายแต่มันสนุกใครจะสน ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram netflix_in จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !