"หากพวกเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน" คำพูดติดปากคุ้นหูจากผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนพูดคนเดียวบนเวที สามารถสะกดคนดูกว่าพันคนให้สามารถฟังเรื่องราวของเขาตลอด 3-4 ชั่วโมง แป้งเชื่อเหลือเกินว่าน้อยคนนักที่จะทำได้เหมือนกับผู้ชายคนนี้ คนที่เพื่อน ๆ และใครหลายคนต่างรู้จักเขากันดีจากการเดี่ยวไมโครโฟนของเขา “โน้ส-อุดม แต้พานิช”รูปภาพโดยผู้เขียนแป้งกับพี่ชายเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนเดี่ยวไมโครโฟนของพี่โน้สมาตั้งแต่ดูเดี่ยว 2 และ 3 ตอนเด็ก ๆ จะได้แต่นั่งดูผ่านวีซีดีที่ซื้อมาบ้าง ยืมคนอื่นมาบ้าง จนตั้งเป้าหมายไว้ว่าสักวันหนึ่งเราต้องไปดูเดี่ยวของพี่โน้สแบบสด ๆ สักครั้งในชีวิต แต่มันก็ใช้เวลาล่วงเลยมาเป็นสิบปีกว่าโอกาสนั้นจะมาถึง เมื่ออายุและสถานะทางการเงินของเราบรรจบกันได้ทำให้เราได้ตัดสินใจบอกกับพี่ชายและแม่ว่า “ไป! เดี่ยวรอบนี้เราจะไปดูสดกัน”แค่การจองบัตรก็ปาดเหงื่อกันแล้วเพราะแป้งไปจองที่เคาน์เตอร์ของไททิกเก็ตเมเจอร์ ปรากฎว่าเมื่อไปถึงที่ห้างเห็นหางแถวแล้ว ถ้าเป้าหมายไม่ชัดเจนพอมีหวังถอดใจกันเป็นแถบ จากหัวแถวมาหางแถวยาวมากค่า(ยาวจนไม่กล้าพิมพ์ ก.ไก่เยอะมาก กลัวยาวไป) แต่เมื่อสวรรค์ประทานโอกาสการให้ดูมาแล้วก็นับวันรอกันเลยจ้าแล้ววันที่ 8 สิงหาคม 2554 ที่ไปดูเดี่ยวไมโครโฟนก็มาถึง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 สำหรับการเดี่ยว ซึ่งครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ เพราะมันเป็นเดี่ยวที่ครบรอบ 16 ปีของการจับไมโครโฟนของผู้ชายคนนี้ แน่นอนว่าเรายังไม่รู้ว่าจะมีการพูดถึงการครบรอบนี้อย่างไรจนกระทั่งเมื่อเราเข้าไปในฮอลล์ก็พบกับหนังสือ “16 ปีแห่งความโดดเดี่ยว” วางอยู่บนเก้าอี้ทุกตัว!รูปภาพโดยผู้เขียนรูปภาพโดยผู้เขียนว้าวมากค่ะเพราะข้างในนั้นบอกเล่าประวัติตั้งแต่เด็กของพี่โน้ส จุดเริ่มต้นในการเข้าวงการบันเทิงไปจนถึงเริ่มมาทำเดี่ยวไมโครโฟนจนถึงเดี่ยว 8 เราจึงได้รู้ว่าพี่โน้สต้องกล้าแค่ไหนกับยุคสมัยที่ตอนนั้นการจะขึ้นไปยืนพูดคนเดียวบนเวทีให้คนอื่นฟังเป็นชั่วโมงนั้นมันยากแค่ไหน แต่เพราะความคิดและความกล้านี้เองที่ทำให้เกิดเดี่ยวไม่โครโฟนมาจนถึงทุกวันนี้ ที่เราชอบมากที่สุดคือการเล่าเรื่องตั้งแต่การเริ่มคิดมุกว่าจะเล่าเรื่องอะไรบ้างของการเดี่ยวแต่ละครั้ง เมื่อพูดถึงเดี่ยวไหนแล้วที่หน้านั้นจะมีใบปิดโปสเตอร์โปรโมทเดี่ยวไมโครโฟนตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 8 เลย ใครที่เป็นนักสะสมและเป็นแฟนคลับพี่โน้สต้องอยากได้หนังสือเล่มนี้แน่นอนค่ะมาเล่าถึงบรรยากาศภายในงานบ้าง มุกตลกสมกับการรอคอยมาเป็นสิบปีจริง ๆ ค่ะ พี่โน้สส่งพลังมากมายมาจนถึงคนที่นั่งด้านหลัง(เกือบ)สุดแบบเรา ได้ร่วมสนุก หัวเราะไปกับเรื่องเล่ารอบตัว ประทับใจจนต้องซื้อตุ๊กตาน้าเดชกลับมาเป็นของที่ระลึก ทุกวันนี้ยังกอด ยังดีอยู่น๊าพอกลับจากดูเดี่ยว 9 ครั้งนั้นและอ่าน “16 ปีแห่งความโดดเดี่ยว” หนังสือครบรอบเดี่ยวไมโครโฟนของพี่เขาแล้ว ทำให้แป้งมองเห็นอะไรหลายอย่างจากตัวผู้ชายคนนี้ค่ะ มองเห็นถึงความพยายาม ความคิดนอกกรอบแบบที่คนอื่นไม่มี มันจะมีสักกี่คนที่สามารถนำเรื่องปกติรอบตัวมาเล่าให้เป็นเรื่องขำขันได้ ทำให้แป้งคิดได้ว่าหากเรามองสิ่งรอบตัว เรื่องเครียด ๆ ให้มันง่ายและสนุกไปกับการใช้ชีวิตได้แบบที่พี่เขามอง โลกเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างน่ารักขึ้นสักแค่ไหนนะรูปภาพโดยผู้เขียน