รีเซต

‘สุดา ชื่นบาน’ ยก ‘ต้อย เศรษฐา’ เป็นศิลปินผู้ที่ไม่เคยลืมตัว เข้าใจวัฏจักรการจากลา

‘สุดา ชื่นบาน’ ยก ‘ต้อย เศรษฐา’ เป็นศิลปินผู้ที่ไม่เคยลืมตัว เข้าใจวัฏจักรการจากลา
ข่าวสด
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:12 )
164

‘สุดา ชื่นบาน’ ยก ‘ต้อย เศรษฐา’ เป็นศิลปินผู้ที่ไม่เคยลืมตัว เข้าใจวัฏจักรการจากลา

‘สุดา ชื่นบาน’ ยก ‘ต้อย เศรษฐา’ / เป็นนักร้องอาวุโสอีกท่านหนึ่ง สำหรับ ‘เม้าท์’ สุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติอีกท่านหนึ่ง ที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับครอบครัว ‘ต้อย’ เศรษฐา ศิระฉายา มาเป็นระยะเวลานาน

เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ 65 ที่ ศาลา 1 ศาลาเตชะอิทธิพร วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล สวดอภิธรรมคืนที่ 3 ‘ต้อย’ เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ด้วยวัย 77 ปี เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 65

สุดา ชื่นบาน ได้เดินทางมาร่วมฟังสวดอภิธรรมในฐานะอุปนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เป็นเจ้าภาพในการสวดอภิธรรมคืนดังกล่าว หลังเสร็จสินพิธีสวดอภิธรรม ได้เปิดใจถึงการจขากไป ของ ต้อย เศรษฐา ว่า “มาตั้งแต่วันรดน้ำศพแล้ว วันนี้มาในนามสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ค่ะ วันนี้กลุ่มที่เป็นเจ้าภาพก็จะได้เข้าไปอยู่ด้านในค่ะ”

ขอย้อนไปเมื่อวันที่เสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความเหมือนกัน? “เป็นคนแรกที่ลงก็ว่าได้ เพราะญาติของต้อย ซึ่งเป็นหลานสาวของเขาเป็นคนส่งข่าวมาแต่เช้า ก็เลยรีบลงก่อนเลย แต่ไม่ได้เขียนอะไร เพราะทุกคนเขียนเยอะแล้ว”

ถามถึงความผูกพันกับ ต้อย เศรษฐา? “ค่อนข้างเยอะ เพราะว่ารู้จักกับพี่ชายเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ตอนหลังเขาได้ร้องเพลงในโรงหนังตอนยังไม่ดัง ตอนหลังนี้พอเขาเป็นดิอิมพอสซิเบิ้ล ก็ได้มีโอกาสทำเพลงกับเขาหนึ่งชุด โดยมี แดง ฉันทนา ร่วมด้วย แล้ววงอิมฯ เป็นคนเล่นดนตรีให้”

“ต้อยเป็นคนดี เป็นคนสนุกสนาน อารมณ์ดี พอเรารู้ข่าวตรงนี้ แล้วบังเอิญเป็นโควิดใช่ไหม เนื่องจากเป็นมะเร็งปอดด้วย แล้วเขาติดโควิดด้วย ร่างกายก็ทรุด แล้วไปพบกันครั้งสุดท้ายก็คือไปให้เขาเซ็นชื่อให้ตอนที่จะส่งรายชื่อของเป็นศิลปินแห่งชาติ ต้อยเป็นคนเซ็นให้ เจอกันครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่เอาใบนั้นไปให้เซ็น”

ตอนนั้นได้พูดคุยยังไงบ้าง? “คุยปกติ พวกเราเป็นคนดนตรีกันอยู่แล้ว ตอนนั้นเขาก็แข็งแรงดีอยู่ ถามว่าได้ให้กำลังใจกัน ก็เป็นธรรมดา เรื่องเจ็บไข้เนอะ”

การร้องเพลง มีเพลงไหนที่ประทับใจ? “เขาร้องเพลงเพราะทุกเพลง เขาเป็นคนที่เก่งทุกด้าน เข้าได้ทุกด้าน ความสามารถนี้ก่อนที่เขาไปฮาวายอีกนะ ข้อสำคัญถ้าได้ไปดูเราจะมีแผ่นเสียงที่วงอิมฯ เป็นคนเล่นให้เรากับแดงร้อง ซึ่งไม่มีใครทำ ชอบทุกเพลง”

พูดถึงอาต้อย กับความประทับใจ? “ต้อยเป็นคนดี ต้อยเป็นคนจริงใจ ก็ไม่เฟก เมื่อก่อนเวลาเลิกงานกันก็จะเจอกันทุกเย็น เขาก็ยังเหมือนเดิม พูดถึงในลักษณะของวงอิมฯ นะ เต๋อ ก็อีกคนที่เหมือนเดิม แม่ว่าเขาจะขึ้นไปใหญ่แล้ว เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน คนเราไม่ลืมเลขศูนย์ พอขึ้นไปเลขห้า บางคนลืมเลขศูนย์ แต่ต้อย เต๋อ หรือทุกคนในวงอิมฯ เขาไม่ลืมเลขศูนย์ เขาคือนักดนตรีหรือศิลปินคนหนึ่งซึ่งดังหรือไม่ดังเขาเหมือนเดิม

ถือเป็นตัวอย่างที่กีให้กับคนรุ่นหลัง? “แน่นอน เพราะว่าบางคนพอดังแล้วเราเข้าไม่ถึง แล้วเราก็จะไม่ค่อยเข้าไปยุ่งเพราะเขาดัง”

มีความในใจอยากบอก อาต้อยไหม? “ไม่มีๆ เขาไปดีแล้วเท่านั้นเอง เป็นวัฏจักรเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขากับเราอายุไล่ๆ กัน นี่ยังเสียวๆ อยู่เลย (หัวเราะ) แต่ก็หนีไม่ได้หรอก เป็นเรื่องปกติ”

มีสิ่งไหนที่จะต้องสานต่อไหม? “คนละทางกันนะ ต้อยทำลักษณะมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส เราทำในนามสมาคมดนตรี ปีที่แล้วตอนเลือกตั้งเขาก็ยังไปอยู่ ตอนนี้เราทำสมาคมดนตรีเปิดหมวก อย่างที่ลงในเฟซบุ๊ก ที่ทำเพราะนักดนตรีไม่มีงาน เราได้รับความอนุเคราะห์จากรถไฟฟ้าบีมีเอส ให้ขึ้นไปเล่นบนสถานี และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ให้เราเปิดหมวก”

“ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ที่สถานีกาญจนาภิเษก ศรีนครินทร์ พัฒนาการ และ อีกสี่ภาคของประเทศไทย จะหมดในวันที่ 13 มี.ค. นี้ นี่คือสิ่งที่เราทำให้นักร้องนักดนตรี ถ้าต้อยอยู่ต้อยก็คงจะแฮปปี้ที่ได้รู้ว่าสมาคมดนตรีได้ทำแล้ว เพราะว่าสมาคมดนตรี อย่างวันนี้ที่มาก็มาในฐานะสวัสดิการของสมาคม สมาชิกเสียหรือเจ็บป่วยเราช่วยตามนั้น อันนี้เป็นเรื่องของสมาคมดนตรีที่เราทำกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ถ้าศิลปินเจ็บป่วย เสียชีวิต เรามีสวัสดิการให้ อย่างวันนี้คุณประยงค์ ชื่นเย็น ก็นำมามอบให้ค่ะ”