เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ได้ชมมหาเวทย์ผนึกมาร 2 ภาคอุบัติการณ์ชิบุย่า (Jujutsu Kaisen 2 : Shibuya Incident arc) จะต้องโดนเมกะมารุตกไม่มากก็น้อย เพราะนอกจากความเท่ ความยูนีคของอาคมที่ถือว่าค่อนข้างมีความล้ำสมัยมากที่สุดในเรื่องตอนนี้แล้ว เรื่องราวชีวิตของเมกะมารุเองก็มีความน่าสนใจมาก ๆ จนอยากรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเมกะมารุมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อที่จะได้รู้จักและเข้าใจความรู้สึกของตัวละครตัวนี้ให้มากยิ่งขึ้นข้อมูลทั่วไปชื่อจริง: มุตะ โคคิจิ (Muta Kokichi)ชื่อในวงการไสยเวทย์ (ตัวหุ่นเชิด): เมกะมารุ (Mechamaru)อายุ: 17 ปีสังกัด: โรงเรียนเฉพาะทางไสยศาสตร์กรุงเกียวโตชั้นปี: 2ระดับผู้ใช้คุณไสย: ว่าที่ระดับ 1อาคม: ไสยเวทย์ควบคุมหุ่นเชิด เกิดมาพร้อมกับคำสาปพันธนาฟ้าบันดาล (เท็นโยจูบาคุ)สิ่งที่ชอบทำ: ชอบมองภาพทิวทัศน์ธรรมชาติข้อเท็จจริงที่ยังไม่มีใครรู้: เมกะมารุไม่เคยหัวเราะ ไม่เคยหลั่งน้ำตา หรือทำหน้าไม่พอใจ เพราะเขาไม่มีกลไกแสดงสีหน้า...อื่น ๆ: มุตะ โคคิจิและอัลติเมท เมกะมารุปรากฎบนปกมังงะมหาเวทย์ผนึกมาร เล่ม 10 (คืนเทศกาล)ที่มาของชื่อเมกะมารุเมกะมารุ (Mechamaru) วีรบุรุษโลหะผู้ไม่เคยยอมแพ้ เป็นชื่อตัวละครหุ่นยนต์ในอนิเมะเรื่องที่มุตะ โคคิจิชอบดูมาก ๆ เมื่อสมัยเด็ก เขาชื่นชอบตัวละครนี้มาก จึงนำมาตั้งชื่อหุ่นเชิดของตัวเองและเป็นชื่อที่ทุกคนเรียกเขาในวงการไสยเวท โดยหุ่นเชิดที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีคือ อัลติเมท เมกะมารุ ซึ่งเป็นหุ่นที่มีรูปร่างและขนาดความสูงใกล้เคียงกับมนุษย์ (อัลติเมท เมกะมารุ สูง 180 cm.) มุตะชอบหุ่นนี้มากกว่าหุ่นเชิดขนาดเล็กอื่น ๆ เพราะทำให้เขาได้เห็นทัศนียภาพและมุมมองที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด หากเขาได้มาสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นด้วยตัวเอง แม้ภาพที่เห็นผ่านดวงตาของเมกะมารุจะชวนให้รู้สึกห่างไกลเหมือนมองภาพทิวทัศน์ผ่านกระจกหน้าต่าง แต่เพราะมุตะไม่สามารถออกไปด้านนอกด้วยตนเองได้ การได้มองภาพต่าง ๆ ผ่านอัลติเมท เมกะมารุก็ทำให้เขามีความสุขเล็ก ๆ ได้บ้างความสามารถของเมกะมารุมุตะ โคคิจิ เกิดมาพร้อมกับคำสาปพันธนาฟ้าบันดาล (เท็นโยจูบาคุ) ซึ่งเป็นอาคมกำเนิดที่ไม่ได้เกิดจากการฝึกฝน แต่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เมกะมารุเป็นผู้ใช้คุณไสยว่าที่ระดับ 1 เขามีพลังไสยเวทที่ยิ่งใหญ่และอาคมควบคุมหุ่นเชิดที่มีขอบเขตกว้างไกลครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น สามารถควบคุมหุ่นเชิดทุกแบบ ตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ เท่ามดแมลง ไปจนถึงหุ่นขนาดใหญ่อย่างอัลติเมท เมกะมารุ โหมดแอบโซลูท ที่ใช้สู้กับมาฮิโตะ อาคมของมุตะนั้นเป็นประโยชน์มาก ๆ ในวงการไสยเวท เพราะสามารถใช้เพื่อการสู้ เพื่อสำรวจ ตลอดจนการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะภารกิจที่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้คุณไสยด้านกายภาพ เช่น ภารกิจที่ภูเขาฮิเอซึ่งมีการรั่วไหลของแก๊สพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต มีเพียงเมกะมารุเท่านั้นที่เข้าไปได้แบบปลอดภัย คล้าย ๆ กับหุ่นยนต์กู้ภัยอะ แต่เมกะมารุล้ำกว่านั้นมาก และเพราะความพิเศษของอาคมนี้เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมมุตะจึงเป็น ‘คนขายข่าว’ ให้ฝั่งวิญญาณคำสาปช่วงงานเชื่อมสัมพันธ์พี่น้องโรงเรียนเกียวโตได้โดยที่ไม่มีใครสงสัย เพราะการส่งหุ่นเชิดขนาดเล็กเท่ามดแมลงตัวเล็ก ๆ ไปเก็บข้อมูลหรือส่งข่าวต่าง ๆ ให้ฝ่ายศัตรูนั้นมุตะสามารถทำได้ง่ายมากจริง ๆชอบฉากต่อสู้ระหว่างเมกะมารุกับมาฮิโตะมาก ได้เห็นมุตะใช้อัลติเมท เมกะมารุ โหมดแอบโซลูท "หุ่นเชิดหุ้มเกราะ อัลติเมทเมกามารุ รุ่นทดลองหมายเลข 0" ใช้ อัลตร้าแคนนอน (ปืนใหญ่ชำระ ชาร์จ 1 ปี), มิราเคิลแคนนอน (ปืนใหญ่ปัดเป่าซ้อนสาม ชาร์จ 2 ปี), วิชั่น วิโอล่า (กระสุนนำวิถี บรรเลง 5 สาย ชาร์จ 5 ปี) รวมทั้งอาคมชินคาเงะริว คันอิริวอิคิ (อาณาเขตแบบย่อ) ที่มุตะเรียนรู้จากมิวะ คาสุมิอีกด้วย ส่วนตัวคิดว่ามุตะทำได้ดีมาก ๆ สำหรับผู้ใช้คุณไสยว่าที่ระดับ 1 ทั้งยังเป็นเพียงนักเรียนชั้นปี 2 ในการสู้กับวิญญาณคำสาประดับพิเศษอย่างมาฮิโตะ ทั้งยังมีเกะโท สุงุรุกางม่านคอยสังเกตการณ์อยู่แบบนั้น เพราะถึงจะสามารถเอาชนะมาฮิโตะได้ สุดท้ายก็ยังมีเกะโท สุงุรุที่คงไม่ปล่อยให้เมกะมารุนำแผนการที่ชิบุย่าไปบอกโกะโจ ซาโตรุ หรือมิวะ คาสุมิอย่างแน่นอน ดังนั้นมุตะและเมกะมารุทำเต็มที่แล้วจริง ๆมุตะใช้อาคมชินคาเงะริว คันอิริวอิคิสู้กับมาฮิโตะhttps://x.com/animejujutsu/status/1701158641074831363?s=20ความปรารถนาของเมกะมารุเพราะสวรรค์ไม่เคยประทานพรให้ใครเกิน 1 ข้อ พลังเวทมากมายมหาศาลจากคำสาปพันธนาฟ้าบันดาลของมุตะจึงเป็นการแลกมาด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ครบสามสิบสอง ร่างกายของมุตะไร้แขนข้างขวาและร่างกายช่วงล่าง ผิวหนังของเขานั้นบอบบางชนิดที่โดนแสงจันทร์ก็ยังไหม้ ทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีเข็มทิ่มรูขุมขนทั่วร่างกายตลอดเวลา แต่เพราะอาคมของเขาเป็นอาคมกำเนิดที่ติดตัวมาแต่เกิดและเลือกไม่ได้ ดังนั้นการมีร่างกายที่สมบูรณ์จึงเป็นสิ่งที่มุตะปรารถนามาตลอด มุตะเคยพูดว่า ถ้าให้เลือกระหว่างพลังไสยเวทกับร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เขาขอเลือกร่างกายที่สมบูรณ์ครบสามสิบสองมากกว่า เพราะพลังพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ได้เป็นทั้งพรหรือความสุขสำหรับเขา กลับกันคือเหมือนเป็นคำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเสียมากกว่ามุตะอยากมีร่างกายที่สามารถไปเจอกับทุกคนได้ ทำให้เขาเลือกที่จะทำข้อผูกมัดกับมาฮิโตะ เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างข้อมูลของโรงเรียนกับมุอิเท็นเปนของมาฮิโตะที่ทำให้เขามีร่างกายครบสามสิบสอง แต่เพราะมาฮิโตะแอบตุกติก ทำให้บุคลากรของโรงเรียนเกียวโตได้รับบาดเจ็บ การเจรจาต่าง ๆ จึงล้มเหลว ทั้งฝั่งวิญญาณคำสาปยังได้มีการวางแผนต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี มุตะที่รู้ข้อมูลของฝั่งคำสาปเรื่องแผนการที่ชิบูย่าจึงถูกมาฮิโตะกำจัดก่อนจะได้นำไปบอกกับโกะโจหรือมิวะ อย่างไรก็ตามมุตะได้เตรียมวางแผนรับมือบางอย่างไว้แล้ว ส่วนจะเป็นอะไรนั้นต้องรอติดตามกันในอนิเมะนะคะ แต่ก็น่าเสียดายมาก ๆ ที่เขายังไม่เคยได้เจอเพื่อน ๆ ในฐานะ มุตะ โคคิจิ เลยสักครั้งความสัมพันธ์ของเมกะมารุกับเพื่อน ๆ รู้จักเมกะมารุกันในเรื่องที่จริงจังกันไปแล้ว เปลี่ยนมาเป็นเรื่องราวน่ารัก ๆ เกี่ยวกับเมกะมารุกันบ้างดีกว่า มาดูซิว่าหนุ่มคนนี้เขามีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ แต่ละคนเป็นยังไง โดยข้อมูลต่อไปนี้เรารวบรวมมาจากเนื้อหาในมังงะและมหาเวทย์ผนึกมาร ฉบับนิยาย เล่ม 2 ขวากหนามยามอรุณรุ่ง ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับเมกะมารุจะอยู่ในบทที่ 2 ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดมิวะ คาสุมิ สำหรับผู้ใช้คุณไสยนั้นไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าเพื่อนที่ทำภารกิจด้วยกันจะจากไปวันไหน ดังนั้นการไม่ผูกพันธ์หรือสนิทกันมากจนไปไปจึงเสมือนเป็นวิถีปฏิบัติเพื่อรักษาสภาพจิตใจของผู้ใช้คุณไสยหากมีเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียเพื่อนพ้องคนรู้จักคนใดคนหนึ่งไป แต่มิวะไม่ใช่แบบนั้น เพราะเธออยากจะสนิทกับเพื่อน ๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับเมกะมารุ ที่ร่างจริงไม่สามารถออกมาเจอกับเพื่อน ๆ ได้ด้วยตัวเอง ทำให้เขาไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ แต่ก็มีมิวะที่มักจะชอบเข้ามาพูดคุยกับเมกะมารุบ่อย ๆ มิวะอยากสนิทกับเมกะมารุให้มากขึ้น ทั้งยังเคยขอไปเยี่ยมเมกะมารุ (มุตะ โคคิจิ) สักครั้ง... มิวะเคยให้ถ่าน AA เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์กับเมกะมารุ เพราะไมจังกับนิชิมิยะบอกว่าเมกะมารุชอบถ่านไฟฉายอีโวลต้า ซึ่งใช่ที่ไหนกันเล่า นอกจากนี้เธอยังเคยให้ยางรัดผมที่มีพวงกุญแจรูปเมกะมารุ ที่ได้มาจากตู้ไขไข่พวงกุญแจตอนไปซื้อของกับไมจังและนิชิมิยะที่ศูนย์การค้าแอแวนติ ก่อนที่เมกะมารุจะไปทำภารกิจเดี่ยวที่ภูเขาฮิเออีกด้วยในตอนที่เมกะมารุเสร็จภารกิจที่ภูเขาฮิเอ เมกะมารุไม่ได้กลับไปห้องเรียนเลยทำให้มิวะเป็นห่วง เมกะมารุดูแปลกใจจนถามออกไปว่า "เธอเป็นห่วงฉันเหรอ" ซึ่งมิวะก็ตอบกลับไปว่า "ก็ต้องห่วงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วสิคะ" พร้อมทำหน้าคล้ายจะสื่อว่าทำไมเขาถามแบบนั้น ในตอนนั้นเมกะมารุได้รับรู้ว่าโลกใบนี้มี "เรื่องธรรมดา" ที่สร้างความรู้สึกชวนเขินปนจั๊กจี้ในใจของมุตะ ความรู้สึกของการพูดว่า "ฉันกลับมาแล้ว" ซึ่งมีเสียงตอบกลับว่า "...ค่ะ ดีใจนะคะที่ปลอดภัยกลับมา" จากบทสนทนาเพียงไม่กี่คำแต่กลับสร้างความอิ่มเอมเอ่อล้นในใจของมุตะ ซึ่งมิวะไม่มีทางล่วงรู้ความรู้สึกว้าวุ่นที่อยู่ในใจของเขาได้เลย... นี่อาจจะเป็นข้อดีของเมกะมารุที่ไม่มีกลไกแสดงสีหน้าล่ะนะ มิวะ คาสุมิ ขอไปเยี่ยมเมกะมารุhttps://x.com/animejujutsu/status/1701521037232378350?s=20ไมจัง (ไม เซนอิง)ไมเป็นพวกชอบพูดยั่วยุคนอื่นไปทั่ว ซึ่งเมกะมารุเองก็เคยถูกถามว่า "เมกะมารุ รู้สึกช่วงนี้นายดูมีออร่าเปล่งประกายขึ้นนะ? เปลี่ยนแป้งรองพื้นเหรอ?" ในตอนที่เขาเปลี่ยนอะไหล่ใหม่หมดเพราะโดนแพนด้าพังยับตอนที่สู้กันในงานเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียนพี่น้องเกียวโตนิชิมิยะ โมโมะ เพราะนิชิมิยะเป็นรุ่นพี่ เวลาที่บอกให้ทำอะไร เมกะมารุจึงไม่กล้าขัด ถึงจะอยู่ชั้นปี 3 แต่ก็เข้ากับไมจังและมิวะได้อย่างดี แล้วก็มักจะร่วมมือกับไมจังเป่าหูมิวะให้ทำอะไรแผลง ๆ บ่อย ๆ แต่ก็ใจดีคอยช่วยอธิบายสถานที่ที่เมกะมารุไม่รู้จัก เพราะเขาไปไหนมาไหนเองตามใจชอบไม่ได้โทโด อาโออิโทโด อาโออิในความคิดของเมกะมารุคือชายที่เหมาะกับคำว่า "แปลกโดดเด่น" เป็นคนที่รับมือได้ยากเพราะบางครั้งก็ไม่รู้ว่าเจตนาที่พูดนั้นต้องการสื่ออะไร เมกะมารุเคยโดนดุ (ตามสไตล์โทโด) เพราะตัวเขาปล่อยลำแสงได้ไม่รู้จัก "ทาคะตันบีม" ท่าโพสต์ประจำตัวทาคาดะจัง ไอดอลสาวขวัญใจของโทโด ซึ่งบางครั้งเมกะมารุนึกขอบคุณที่เมกะมารุไม่มีกลไกแสดงสีหน้า ไม่เช่นนั้นโทโดคงเห็นเขาทำแก้มป่องบ่นอุบว่าทำไมต้องดุไปแล้ว เพราะน้ำเสียงและคำพูดที่ดูขึงขังจริงจังแต่เนื้อหาที่พูดไม่เป็นแบบนั้น ทำให้เมกะมารุรับมือกับโทโดไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ และเขาเองก็เคยเจอคำถามประจำตัวโทโดอย่าง “...เมกะมารุเอ๋ย สรุปว่าสเป็กผู้หญิงของนายเป็นแบบไหน?" มาแล้วเช่นกัน แต่ในตอนนั้นเมกะมารุไม่ได้ตอบโทโดไป เพราะเขาไม่รู้ว่าโทโดหมายความว่ายังไง /แต่ทุกคนก็น่าจะรู้กันใช่มั้ยว่าเมกะมารู้ชอบผู้หญิงแบบไหน ><คาโมะ โนริโทชิสำหรับมุตะ โคคิจิ คาโมะ โนริโทชิ เป็นคนที่พึ่งพาได้และข้อสันนิษฐานของคาโมะก็เชื่อถือได้เสมอ คาโมะช่วยเตือนสติเขาในเรื่องของความประมาทและการเห็นคุณค่าของเมกะมารุ เนื่องจากในช่วงหลัง ๆ มุตะเริ่มมองว่าเมกะมารุเป็นเหมือนรถบังคับที่ถ้าพังเสียหายก็แค่ทิ้ง เพราะนั่นไม่ใช่ร่างจริงของเขา จนลืมนึกไปว่าคนที่เข้าเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ คือเมกะมารุ ดังนั้นการที่ร่างของเมกะมารุเสียหาย เพื่อน ๆ ก็เสียใจ จึงอยากให้มุตะระมัดระวังและเห็นคุณค่าของเมกะมารุแพนด้าหลังจากที่สู้กันในงานเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียนพี่น้องเกียวโตจนเมกะมารุพังและต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ แพนด้าบอกว่าจะมาเยี่ยมเมกะมารุ ซึ่งมุตะเองก็แอบจินตนาการว่าแพนด้าจะมาหาเขายังไง จะมาแบบเป็นแพนด้าสวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ด ใส่กางเกงยีนส์ นั่งรถไฟชินคันเซน หรือจะแสดงตัวแบบโต้ง ๆ (ไม่ใส่เสื้อ) ไปเลย ยิ่งคิดริมฝีปากของมุตะก็ยกยิ้มโดยไม่ตั้งใจ ข้อความจากอาจารย์เกเกะ อาคุตามิ ถึง เมกะมารุอาจารย์เกเกะ อาคุตามิ คนวาดมังงะมหาเวทย์ผนึกมารบอกว่า ตอนที่เขาออกแบบร่างจริงของเมกะมารุ กำหนดแค่ว่า "พันผ้าพันแผลทั้งตัว" แล้วก็พยายามดัดแปลงดีไซน์อยู่หลายรอบ แต่วาดยังไงก็ออกมาเป็น ชิชิโอ มาโคโตะ จากเรื่องซามูไรพเนจรตลอดจนยอมแพ้กลางคัน ซึ่งมุตะ โคคิจิ ร่างจริงก่อนใช้มุอิเท็นเปนเปลี่ยนก็ดูคล้ายชิชิโอ มาโคโตะ จริง ๆ นั่นแหละ 5555ชิชิโอ มาโคโตะ ในเรื่อง ซามูไรพเนจรความรู้สึกที่มีต่อตัวละคร "เมกะมารุ"ส่วนตัวรู้สึกว่าพลังไสยเวทของเมกะมารุ หรือ มุตะ โคคิจิ นั้นไม่ธรรมดาเลย แต่ก็น่าเห็นใจอย่างที่มุตะบอกว่าเขาไม่ได้เลือกมัน ถ้าเลือกได้เขาอยากจะมีร่างกายที่แข็งแรงครบสามสิบสองมากกว่า เพราะพลังที่ได้มาราวกับโชคชะตาที่กำหนดว่าต้องช่วยเหลือผู้อื่น แต่กลับไม่สามารถเติมเต็มส่วนที่ตัวเขาเองต้องการได้เลย ในบรรดาบุคคลที่เกิดมาพร้อมข้อผูกมัดเราว่ามุตะน่าสงสารที่สุด เพราะทั้งที่มีอาคมควบคุมหุ่นเชิดออกไปได้ไกลครอบคลุมทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น แต่ตัวเขาเองกลับออกจากห้องยังทำไม่ได้อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันว่าวงการไสยเวทนั้นโหดร้าย แต่อาชีพนี้ก็ได้ค่าตอบแทนที่สูงมาก ดังนั้นหลังจบภารกิจ บางคนก็จะไปเที่ยว ไปทานของอร่อย หวีดไอดอลที่ชอบ หรือช้อปปิ้งให้รางวัลตัวเอง แต่สำหรับมุตะที่ต้องอยู่แค่ในห้อง ออกไปไหนไม่ได้ จะไปไหนก็ต้องไปผ่านเมกะมารุ ซึ่งร่างอัลติเมท เมกะมารุที่ให้มุมมองเหมือนกับมนุษย์มากที่สุดก็ยังออกไปไหนมาไหนตามใจชอบไม่ได้ ไม่โกรธแต่เข้าใจมุตะมาก ๆ ที่ติดต่อกับมาฮิโตะเพราะอยากมีร่างกายปกติเพื่อไปเจอกับเพื่อน ๆ คือวัยเขาไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้จริง ๆ มันแย่ขนาดที่ว่าเขาไม่กล้าสารภาพความในใจออกไปเพียงเพราะสมเพชในร่างกายของตัวเอง อยากกอดมุตะ ทำได้ดีมากแล้วจริง ๆ ถ้าจะโกรธก็คงโกรธอาจารย์เกเกะ อาคุตามิที่ใจร้ายกับมุตะมากขนาดนี้ ให้เขาได้ไปเจอเพื่อนในฐานะมุตะ โคคิจิสักครั้งก็ไม่ได้!สุดท้ายนี้ หวังว่าทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้จะรักเข้าใจในตัวละคร มุตะ โคคิจิและเมกะมารุมากขึ้นนะคะ แอบสปอยล์นิดนึงว่าบทบาทของเมกะมารุยังไม่เสร็จสิ้นเพียงเท่านี้ ฝากทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้เมกะมารุใน มหาเวทย์ผนึกมาร 2 ภาคอุบัติการชิบุย่ากันเยอะ ๆ ด้วยนะคะ ^^รับชม มหาเวทย์ผนึกมาร ซีซัน 2 ได้ฟรี ทางทรูไอดี คลิกเลย!!บทความแนะนำ10 เรื่องน่ารู้จากมหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen) ฉบับนิยายเล่ม 2 ขวากหนามยามอรุณรุ่งทำความรู้จัก ตัวละคร มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen) ซีซั่น 2เปิดกรุ เครื่องมือไสยเวท ตระกูลเซนอิง ที่ โกะโจ ซาโตรุ ยังต้องขยาด I มหาเวทย์ผนึกมารรีวิว นิยาย มหาเวทย์ผนึกมาร เล่ม 1 [คิมหันต์ผันผ่าน สารทหวนคืน] เผยเรื่องราวสุดพิเศษที่ไม่มีในมังงะhttps://intrend.trueid.net/post/364251เครดิตภาพและคลิปภาพปก : มุตะ โคคิจิ (Facebook Crunchyroll) / เมกะมารุ (เว็บไซต์ https://jujutsukaisen.jp)เว็บไซต์ https://jujutsukaisen.jp : ภาพ 1, 8-9 / ภาพ 3 (มุตะ โคคิจิ-เมกะมารุ) / ภาพ 12 / ภาพ 14 / ภาพ 15Facebook Siam Inter Comics : ภาพ 2Facebook Crunchyroll : ภาพ 4 X @animejujutsu (Twitter) : ภาพ 5 (คลิป) / ภาพ 10 (คลิป) / ภาพ 19X @Jujutsu_Kaisen_ (Twitter) : ภาพ 6-7 / ภาพ 11 / ภาพ 13 / ภาพ 17X @ruroken_ten (Twitter) : ภาพ 16X @MAPPA_Info (Twitter) : ภาพ 18เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !