ผู้กำกับอธิบายเบื้องหลังการแบ่ง "Mission Impossible - Dead Reckoning" ออกเป็น 2 ภาค

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายกับ Mission: Impossible - Fallout (2018) หรือ มิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล ฟอลล์เอาท์ ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ แมคควอรี ก็กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ในเฟรนไชส์ยอดจารชนถึงสองเรื่อง โดยเขาออกมาย้อนความหลังถึงการทำงานของตนเองว่า เขาอยากที่จะให้เหล่าตัวละครมีบทบาทมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็นำเอาอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาในเฟรนไชส์ให้มากขึ้น และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในภาพยนตร์เรื่องเดียว แม้ว่าจะทำให้มันมีความยาวเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนก็ตาม

การเพิ่มเติมตัวละครอย่างที่เหมือนกับ อีธาน ฮันท์ ในร่างผู้หญิงอย่าง อิลซา เฟาสต์ ของ รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน และตัวละครสาวลึกลับที่เต็มไปด้วยความลึกลับอย่าง อลันนา มิตโซโพลิส หรือ ไวท์ วิโดว์ ของ วาเนสซ่า เคอร์บี้ ก็ถือเป็นการเติมเต็มกองทัพนักแสดงที่แน่นอยู่แล้วขึ้นไปอีกขั้น และเพื่อที่จะใช้เวลาไปกับตัวละครเหล่านี้ให้ได้อย่างเต็มที่ ทีมงานสร้างจึงไม่มีทางเลือกนอกไปจากที่จะทำให้ภาพยนตร์แบ่งออกเป็นสองภาค

“เอาล่ะ เรารู้กันแล้วมาใน ฟอลล์เอาท์ ว่ามันเติบโตขึ้นได้เพราะเหล่าตัวละครและอารมณ์ความรู้สึกที่เราใส่เข้าไปในเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ค้นพบใน ปฏิบัติการรัฐอำพราง (Mission: Impossible - Rogue Nation, 2015) เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงมาก”

“ผมรู้ว่าผมอยากที่ขยายทีมนักแสดง และผมรู้ว่าผมอยากที่จะให้แต่ละตัวละครมีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นผมก็รู้เลยว่าหนังมันจะต้องใหญ่กว่าและยาวกว่า ฟอลล์เอาท์”

“และมันก็มาถึงจุดที่ผมพูดว่า ‘ทำไมเรายังต้องฝืนกันอยู่อีก? ทำไมเราต้องพยายามยัดมันลงไปในเวลาสองชั่วโมงด้วย? แค่แบ่งมันครึ่งมันแล้วทำหนังสองเรื่องไปเลย’  นั่นคือเหตุผลเบื้องหลังที่ทำให้มันกลายมาเป็นหนังสองภาค มันไม่ใช่เฉพาะว่าเรื่องราวมันใหญ่กว่าเดิมเท่านั้น แต่ว่าเราอยากจะได้อารมณ์ความรู้สึกในหนังมากขึ้นด้วย”

ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องมีการเจรจากับทางพาราเมาท์พิกเจอร์ ซึ่งก็โชคดีที่มันเป็นไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะต้องแลกมากับการถ่ายทำที่ยาวนาน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า จนบางครั้งทำให้นักแสดงนำของเรื่องอย่าง ทอม ครูซ ถึงกับต้องแสดงความเห็นกันบ้าง

“ในตอนนั้น ทางสตูดิโอตื่นเต้นมาก ๆ กับมัน และคุณก็รู้ว่า เราก็ตื่นเต้นกับมันเหมือนกัน และมันก็มีหลายครั้งที่เราอยู่ในกองถ่าย และ ทอม ก็มองมาที่ผม แล้วเขาก็พูดว่า ‘นี่มันเป็นความคิดของคุณนะ จำเอาไว้เลย’”

ในขณะที่สถานที่การถ่ายในทำในภาพยนตร์แต่ละเรื่องถูกใช้ร่วมกัน ก็หมายความว่าการถ่ายทำตามลำดับจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ ทำให้ แมคควอรี ต้องเผชิญกับปัญหาจากปัจจัยที่คาดไม่ถึงมากมาย ตั้งแต่สภาพอากาศ, ตารางงานไม่ตรงกัน หรือแม้แต่การบาดเจ็บของนักแสดง

ผู้กำกับชาวอเมริกันเองก็ยังสารภาพอีกด้วยว่า เขายังไม่ได้มีตอนจบของ Mission: Impossible - Dead Reckoning Part Two (2024) หรือ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่สอง ซึ่งก็ทำให้การเดินทางไปยังจุดนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

“ใช่เลย มันใหญ่โตมาก และมันก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปเมื่อบางส่วนในภาคที่สอง ต้องทำให้เราต้องหยุดถ่ายทำภาคแรกไปก่อนเพื่อถ่ายมัน บางทีอาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศหรือตารางงานของนักแสดง และนอกเหนือไปจากความท้าทายอื่น ๆ ที่เราได้เจอตอนสร้างหนังเรื่องนี้ มันก็ยังมีความท้าทายที่จะต้องหยุดถ่ายทำไปกลางคัน โดยไม่รู้ว่าหนังฉบับเต็มจะออกมาเป็นยังไง แล้วก็ยังต้องพยายามที่จะคาดเดาว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปในภาคที่สอง ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันที่ดีเกี่ยวกับความยอดเยี่ยมของทีมงานและความอดทนของทีมนักแสดง มันเป็นอะไรที่พิเศษจริง ๆ”

Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One หรือ มิชชั่น: อิมพอสสิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

ส่วน Mission: Impossible - Dead Reckoning Part Two หรือ มิชชั่น: อิมพอสสิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่สอง มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 27 มิถุนายน 2024 และคาดว่าจะมีการเลื่อนกำหนดการฉายออกไปอีก

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa