แม่วิล สมิธ เปิดใจเป็นครั้งแรก ที่เห็น ลูกชายโกรธจนขาดสติ !!!
แม่วิล สมิธ เปิดใจเป็นครั้งแรก ที่เห็น ลูกชายโกรธจนขาดสติ !!!
เช่นเดียวกับทุกคนที่ทั้ง ‘ช็อก’ และตกใจกับภาพเหตุการณ์สะท้านเวทีประกาศรางวัลออสการ์ เมื่อ วิล สมิธ พระเอกฮอลลีวูดดังเดินขึ้นไป ‘ตบหน้า’ คริส ร็อก นักแสดงคอมมิดีวัย 57 อย่างแรง หลังโกรธที่ร็อกพูดแซวทรงผมสกิน เฮด ของ เจดา พิงเก็ตต์ ภรรยาของสมิธ ที่ป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม จนต้องตัดสินใจโกนศีรษะ
แคโรลีน สมิธ คุณแแม่วัย 85 ของพระเอกคนดัง เจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีนี้จากภาพยนตร์เรื่อง คิง ริชาร์ด ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสถานีโทรทัศน์ WPVI-TV ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ที่ปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ว่า เธอเองก็ตกใจและว่า ” นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเคยเห็นเขาโกรธจนขาดสติ”
“เขาไม่ใช่คนอารมณ์ฉุนเฉียว แปรปรวน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้ และเคยเห็นเขาทำแบบนี้ ซึ่งฉันเชื่อว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเช่นกัน”
ท่ามกลางเสียงวิพากย์วิจารณ์มากมายที่เกิดขึ้น แคโรลีน บอกว่า “ฉันภูมิใจในตัวเขา” ก่อนจะบอกต่อว่า ” เพราะฉันรู้ว่า เขาทำงานหนักขนาดไหน และฉันเองก็เฝ้ารอคอยมานานมากที่จะเห็นเขาได้รางวัลออสการ์ หลังจากได้เข้าชิงมา 3 ครั้ง ตอนฉันได้ยินเสียงประกาศชื่อของเขา ฉันได้แต่ร้องเยส เยส (Yes)”
แม่ของพระเอกดัง เล่าว่า เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม ก่อนงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 จะเริ่มขึ้นในค่ำคืนนั้น เธอได้ส่งข้อความเตือนทุกคนในครอบครัว อย่าลืมให้กำลังใจและอวยพรให้ วิล สมิธ ได้รางวัลออสการ์ติดมือกลับบ้าน
หลังจากลูกชายประสบความสำเร็จได้ออสการ์ตัวแรกในชีวิตสมใจ แต่กลับเป็นความสำเร็จที่มาพร้อมกับ การตกเป็นข่าวคึกโครมในทางไม่ดี แคโรลีนเล่าว่า เธอได้โทรศัพท์คุยกับวิล ทั้งปลอบใจ ให้คำแนะนำ และบอกให้ลูกชายหาเวลาพักผ่อน หรือไปเที่ยวที่ไหนสักพัก
แคโรลีน เล่าว่าวันนั้น เธอนั่งลุ้นรางวัลออสการ์อยู่ที่หน้าจอทีวีที่บ้านพร้อมลูกสาว 2 คน แพม วัย 58 และ เอลเลน วัย 51 ซึ่งเป็นพี่สาวและน้องสาวของ วิล สมิธ ซึ่ง เอลเลนได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวทีออสการ์ว่า เธอเข้าใจถึงความกดดันที่พี่ชายของเธอต้องเจอในฐานะคนดัง และว่าเธอเห็นพี่ชายต้องผ่านความยากลำบากอะไรมามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้
” ทุกคนต่างเคยถูกรังแก ถูกกระทำในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง และคุณไม่รู้หรอกว่าอะไรที่มันพาไปถึงจุดนั้น ฉันเคยคุยกับวิล และมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจจริงๆที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆที่เขาเคยเจอมากว่าจะก้าวมาถึงจุดที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ “