You Shine in the Moonlit Night (2019) แด่เธอผู้ทอประกายในแสงจันทร์ทาคุยะ โอคาดะ (Takumi Kitamura) เด็กนักเรียนมัธยมปลายผู้เงียบขรึม เหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้เขียนสมุดบันทึก จากเพื่อนนักเรียนเขียนส่งกำลังใจถึง มามิซึ วาตาราเสะ (Mei Nagano) เพื่อนร่วมห้องที่ป่วยหนักจนไม่สามารถมาโรงเรียนได้ อากิระ โคยามะ (Shouma Kai) เพื่อนซี้หนึ่งเดียวของเขา จึงเอาสมุดเล่มนั้นมาให้กับ ทาคุยะ และมัดมือชกให้เขานำเอาสมุดบันทึกเล่มนั้น ไปส่งให้ถึงมือ วาตาราเสะ ด้วยในทีแรกที่ ทาคุยะ ได้เห็น วาตาราสะ เขารู้สึกแปลกใจว่าเธอไม่มีท่าทีเหมือนคนป่วยเลยสักนิด เมื่อเธอออกจะดูเป็นคน ร่าเริง สดใส แต่นั่นก็เพราะโรคที่เธอป่วยนั้นยังไม่ได้แสดงอาการออกมา วาตาราเสะ ป่วยเป็นโรคลึกลับแปลกประหลาด ผิวหนังของเธอจะเรืองแสงเมื่ออาการของโรคกำเริบ การใช้ชีวิตของเธอตั้งแต่รู้ว่าป่วยจึงอยู่ได้เพียงแค่ห้องพยาบาลในศูนย์วิจัยเพื่อหาทางรักษาโรคประหลาดที่ว่าการที่ ทาคุยะ มาเยี่ยมเธอในครั้งนี้ แม้จะดูขี้อายและเงียบขรึม แต่ วาตาราเสะ ก็มองเห็นถึงความใจดีของเขา เธอจึงขอร้องให้ ทาคุยะ เป็นตัวแทนเธอ ออกไปทำสิ่งต่าง ๆ ที่เธออยากทำแต่ยังไม่เคยทำมาก่อน ในตอนแรก ทาคุยะ รับปากเธอไปด้วยความรู้สึกผิดบางอย่าง แต่แล้วเขาก็เริ่มสนุก มีความสุข กับสิ่งที่ได้ทำแทนเธอ เพียงแต่ว่าความสุขแบบนี้มันจะอยู่กับเขาไปอีกนานเท่าไหร่กันขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : You Shine in the Moonlit Night (2019) ที่มา : Linkพระเอก ทาคุมิ คิตามุระ “พ่อคนสนิท” จาก Let Me Eat Your Pancreas (2017) ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ ที่คราวนี้กลับมาในบทพระเอกผู้อาภัพ หลงรักสาวน้อยที่ป่วยด้วยโรคแปลกประหลาดอีกครั้ง เรียกว่าหากได้แสดงบททำนองนี้อีกสักเรื่องหนึ่ง คงแปะยี่ห้อพระเอกหนังรักนางเอกตายให้ได้เลยล่ะมั้ง (แหม่…เพิ่งจะสองเรื่องเอง)ซึ่งคาแรคเตอร์ ทาคุยะ ในเรื่องนี้ก็แทบไม่ต่างจาก ฮารุกิ ในตับอ่อนเท่าไหร่เลย เมื่อทั้งสองคาแรคเตอร์ต่างเป็นคนเงียบขรึมเพื่อนน้อย จะแตกต่างกันเพียงปมของตัวละคร ที่ ฮารุกิ จากตับอ่อนจะเป็นเหมือนเด็กหนุ่มไร้เพื่อน ขาดความมั่นใจในตัวเองที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่กับ ทาคุมิ นั้นมีปมเกี่ยวกับคนในครอบครัว ที่ลึกลงไปกว่าการเป็นบุคลิก อุปนิสัยส่วนตัว แต่ไม่เปิดเผยเนื้อหาแล้วกันว่าเรื่องอะไรส่วนน้อง เมย์ (นากาโนะ เมย์) กับเรื่องนี้ดูจะได้บท ที่หนักมากกว่าเรื่องก่อนหน้าที่ผมเคยดู อย่าง ซาเอะ ใน The Peach Girl (2017) เธอสุดแสบ ที่แอบรัก ก็เป็นสาวเซี้ยว เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน หรือ ซุซุเมะ ใน Daytime shooting star (2017) ก็เป็นสาวบ้านนอกเข้าเมืองกรุง ใสซื่อ น่ารัก มีเสน่ห์ ส่วนใน Ore Monogatari!! (2015) ไม่หล่อแต่เร้าใจ ก็มาแนวการ์ตูนตาหวาน น่ารักโฮก เซอร์วิสมาเต็ม ที่ดูจะขยับความหนักหน่วงขึ้นมาอีกนิด เห็นจะเป็นบท ซากุระ คายาโนะ ในซีรี่ส์ Mr. Hiiragi's Homeroom ที่ดราม่าล้วน ๆ ตลอดทั้งเรื่องขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : You Shine in the Moonlit Night (2019) ที่มา : Linkคาแรคเตอร์ในเรื่องนี้ของน้องเมย์คงแบ่งได้เป็นสองช่วงคือ ตอนก่อนเจอและช่วงแรกที่ได้พบกับ ทาคุยะ แม้ภายนอกเธอจะพยายามเข้มแข็ง ดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ลึก ๆ แล้วการไม่สามารถมีชีวิตได้อย่างคนอื่น ปัญหาครอบครัว มันกำลังบั่นทอนกำลังใจของเธอ แต่พอได้เจอกับ ทาคุยะ แม้ วาตาราเสะ จะไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ แต่เธอก็ได้เขาเป็นตัวแทนออกไปมองโลก ในมุมที่เธออยากเห็นมันแทนสิ่งที่หนังเรื่องนี้กับตับอ่อนสื่อสารออกมาคล้ายกันก็คือ การพยายามผลักดันของคนที่กำลังจะจากไป ให้คนรักที่ยังอยู่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ จะต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อยตรงที่ ในตับอ่อนจะพูดถึงเรื่องของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ในรูปแบบของเพื่อน การอยู่ร่วมกับผู้คน ส่วนหนังเรื่องนี้ให้น้ำหนักในมุมมองของ “คนรัก” มากกว่า เพราะคนเราต่างไม่มีใครรู้ว่าจะจากกันไปเมื่อไหร่ หากคนรักเราจากไปอย่างกะทันหัน เราจะรับมือกับความรู้สึกสูญเสียอย่างไร จะยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ไหม จุดนี้เองก็เชื่อมมาหาปมคนในครอบครัวของ ทาคุยะ อีกด้วยแต่เห็นว่าเป็นหนังเนื้อหาดูเหมือนน่าจะดราม่าน้ำตานอง แต่ส่วนตัว…อาจจะด้วยรูปแบบการเล่าเรื่องของหนังด้วย ที่เฉลยบทสรุปออกมาแต่แรกแล้ว ความสะเทือนใจเมื่อมันถึงเวลานั้นจริง ๆ เลยมาไม่เต็มเท่าไหร่ ส่วนดราม่า ชะตากรรม ชวนเศร้าของตัวละคร หรือประสบการณ์ร่วมของ ทาคุยะกับวาตาราเสะ ผมมองเห็นเป็นความโรแมนติก มากกว่าความเศร้าสะเทือนใจนะ คือถึงมันจะเป็นฉากที่ตัวละครต้องเสียน้ำตาแต่ขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทั้งสองฝ่ายกำลังมอบสิ่งที่ดีให้แก่กัน ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยกันไปได้อีกนานแค่ไหน ความรู้สึกตอนดูมันเลยไม่ใช่เศร้าสะเทือนใจ แต่เป็นความประทับใจที่คนรักพยายามทำสิ่งที่ดีให้กันในช่วงเวลาสุดท้ายมากกว่า แต่ก็ไม่แน่ว่าคนอื่นอาจจะมีความรู้สึกร่วม ในมุมมองที่แตกต่างไปจากผมก็ได้นะขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : You Shine in the Moonlit Night (2019) ที่มา : Linkสรุปแล้ว You Shine in the Moonlit Night (2019) แด่เธอผู้ทอประกายในแสงจันทร์ เป็นหนังโรแมนติก ดราม่า ที่มีประเด็นจับต้องได้ อาจจะเล่าไม่หวือหวาชวนติดตามมากนัก แต่ส่วนตัวผมยังคิดว่าความสัมพันธ์ของสองตัวละครเอก ยังสามารถดึงเอาคนดูไว้ได้อยู่ แม้เราจะรู้บทสรุปของหนังแต่ต้นก็ตามDirector: Shô Tsukikawaขอบคุณเครดิตรูปภาพหน้าปกจากภาพยนตร์ : You Shine in the Moonlit Night (2019) ที่มา : Linkเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง