รีเซต

ฟินไปกับ "What Did You Eat Yesterday?" มื้ออาหารของคู่รักที่หวาน...มดแทบขึ้นจาน

ฟินไปกับ "What Did You Eat Yesterday?" มื้ออาหารของคู่รักที่หวาน...มดแทบขึ้นจาน
Major Cineplex
20 มิถุนายน 2565 ( 07:00 )
841

ในเร็ว ๆ นี้จะมีอีกหนึ่งภาพยนตร์รักของชาว LGBTQ+ ให้ได้ชมกันในวันที่ 21 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ นั่นคือ What Did You Eat Yesterday? หรือชื่อไทยก็คือ เมื่อวานเจ๊ทานอะไร ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะชื่อดังที่เขียนโดย ฟูมิ โยชินางะ

เรื่องราวเล่าถึง คาเคย์ ชิโร่ นอกจากเขาจะเป็นทนายความแล้ว เขายังเป็นเกย์ที่รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ตอนแม่เขารู้ว่าเขาเป็นเกย์นั้น เธอนอนซมไปถึงสามวันเลยทีเดียว ส่วนยาบูกิ เคนจิ ช่างตัดผมมาดเซอร์ที่มีฝีมือการตัดผมแบบงั้นๆ แต่เอาใจลูกค้าเก่ง ทางร้านจึงขาดเขาไม่ได้ เขาชอบประกาศตัวว่าเป็นเกย์เมื่อมีโอกาส ชีวิตในแต่ละวันของสองเกย์ที่อาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันนั้นเป็นไปอย่างมีสีสันและมีชีวิตชีวา อย่างเช่น เรื่องราวของคาเคย์ ชิโร่ ที่ตัดสินใจกลับบ้านไปหาพ่อแม่ในวันปีใหม่ ทั้งที่ปกตินานๆเขาจะกลับไปที หรือจะเป็นเรื่องราวของยาบูกิ เคนจิ โชว์ฝีมือทำซัปโปโรอิจิบังสูตรเฉพาะในวันเคาท์ดาวน์ และ เรื่องราวอีกมากมาย โดยแต่ละเรื่องราวนั้นตบท้ายด้วยการทำอาหารน่ารับประทาน อย่างเช่น ผักกาดขาวต้มยูสุ, ซัปโปโรอิจิบัง, คารามิโมจิ, เป็นต้น

ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เล่าเรื่องต่อจากทางมังงะและทางซีรี่ย์มาอีกที ว่าด้วยการที่เส้นทางชีวิตของทั้งคู่นั้นเดินทางมาถึงจุดที่เติบโตงอกงามมากขึ้นเรื่อยๆยิ่งกว่าเดิม และนั่นก็อาจจะหมายถึงการเปิดความสัมพันธ์ให้โลกภายนอกได้รับรู้จนอาจจะนำไปสู่เรื่องราวต่างๆที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน

เกร็ดไฮไลต์ของภาพยนตร์

1) จากมังงะเรื่องเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งยอดขายกว่า 5 ล้านเล่มและสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที Kodansha Manga Award สำหรับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่จัดขึ้นโดยมีสำนักพิมพ์ใหญ่สุดอันดับๆ ของในญี่ปุ่นอย่าง "โคดันฉะ" (Kodansha) เจ้าของผลงานดังก้องโลก Attack on Titan และ Tokyo Revengers การันตีถึงความปังที่ไม่มีใครไม่ยอมรับ

2) สู่ปรากฏการณ์ซีรีส์ที่สร้างสถิติยอดผู้ชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของรายการช่วงดึกในญี่ปุ่น พร้อมกระแสฮิตติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ทุกสัปดาห์ที่ซีรีส์ออกอากาศ พร้อมกวาดรางวัลใหญ่สุด "ซีรีส์ยอดเยี่ยม" จากเวที Television Drama Academy Awards ครั้งที่ 101 และ "ละครยอดเยี่ยมแห่งปี" จากที่สุดแห่งเวทีรางวัลของวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่นอย่าง Galaxy Awards ปี 2020 ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลสำคัญของญี่ปุ่นเทียบได้กับ Emmy Awards ของฝั่งอเมริกาเลยทีเดียว

3) ถูกต่อยอดกระแสความคลั่งไคล้มาเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยมากที่สุดแห่งปี 2021 กับบทสรุปส่งท้ายที่ทุกเสียงต่างยืนยันว่าประทับใจเต็ม 10 จนห้ามพลาด! วัดได้จากยอดรายได้สูงถึง 1,500 ล้านเยนแซงหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ Eternals ขาดลอยคาตารางบ็อกซ์ ออฟฟิศในญี่ปุ่น

4) พบ 2 ตัวพ่อทางการแสดงกับการประกบคู่ที่ทุกคนฮือฮา "ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ" นักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือเข้มที่คนทั้งโลกกำลังพูดถึงมากที่สุดจากภาพยนตร์แห่งปีเจ้าของรางวัลออสการ์ Drive My Car (2021) ควงคู่ "เซโย อุจิโนะ" นักแสดงเจ้าบทบาทคมบาดลึกที่เคยฝากความสุดยอดในอารมณ์จากผลงานภาพยนตร์ขึ้นหิ้งเรื่อง 13 Assassins (2010) และ The Last Message - Rinjo: Gekijoban (2012) ซึ่งนับว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่คอนเทนต์ LGBTQ ได้ถูกนำเสนอผ่านฝีมือการแสดงของนักแสดงนำชายชื่อดังถึงสองคน และยังถูกผลักดันให้การพูดถึงเรื่องสังคมคนรักเพศเดียวกันในญี่ปุ่นถูกหยิบยกขึ้นมาให้อยู่บนกระแสหลักได้อย่างไม่น่าเชื่อ

5) ร่วมสมทบด้วย "โคจิ ยามาโมโตะ" จาก Kizoku Korin: Prince of Legend (2020), "ฮายาโตะ อิโซมุระ" จาก Tokyo Revengers (2021) และ "โฮคุโตะ มัตสึมูระ" นักร้องวง SixTONES บอยแบนด์ไอดอลตัวท็อปแห่งญี่ปุ่น ที่เคยฝากผลงานการแสดงจนเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ มาแล้วใน Liar x Liar (2021)

6) ผ่านฝีมือสุดละมุนของผู้กำกับ "คาซูฮิโตะ นากาเอะ" จาก The Lies She Loved (2018) หนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับการจับตาในการนำเสนอความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเขาตั้งใจจะขับเน้นประเด็นที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนเพื่อปรับมุมมองทัศนคติเกี่ยวกับประเด็น LGBTQ+ ให้ดีขึ้นในสังคมญี่ปุ่น รวมถึงยังเป็นการสานต่อความสำเร็จเดิมจากฉบับมังงะและซีรีส์มาสู่เวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่รับประกันว่าแฟนๆ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

7) พร้อมเพลงประกอบสุดไพเราะจากวงร็อกสายซึ้งระดับตำนานของญี่ปุ่น "สปิตซ์" (Spitz) ที่เคยได้รับแรงบันดาลใจจากห้างใหญ่ในเมืองไทยจนไปแต่งเป็นเพลงมาแล้วอย่าง "Robinson" กับเพลงล่าสุดที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อประกอบภาพยนตร์ "What Did You Eat Yesterday? เมื่อวานเจ๊ทานอะไร" โดยเฉพาะคือ "Daikoubutsu"

8) และเตรียมท้องร้องให้มากขึ้น กับมื้อเย็นของตัวละคร LGBTQ+ ไม่ว่าจะเป็น "สตูว์ไก่, หมูผัดเห็ดเข็มทอง, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ฯลฯ" บนโต๊ะอาหาร ซึ่งเหมือนสถานที่บ่มเพาะความสัมพันธ์ของตัวละครและเป็นการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์ของ "ชิโระซังและเคนจิ" อย่างเข้าอกเข้าใจ โดยผู้ชมจะได้เห็นทั้งความหวานชื่นและขื่นขมผ่านสถานการณ์ บทสนทนา และความหลากหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของทั้งคู่

9) ในภาพยนตร์ "What Did You Eat Yesterday? เมื่อวานเจ๊ทานอะไร" สิ่งที่โดดเด่นและเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เป็นที่รักของแฟนๆ ก็คือการทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวของละครสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ ผ่านเรื่องราวของเกย์ผู้ใหญ่สองคนที่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำและเผชิญหน้ากับปัญาไม่ต่างจากที่ชาว LGBTQ+ คนอื่นๆ ต้องประสบพบเจอในชีวิต โดยมีอาหารเข้ามาช่วยสื่อสารถึงความรัก ความห่วงใย ที่ฝ่ายหนึ่งมีต่ออีกฝ่ายแลกกับคำชื่นชมแสนธรรมดา แต่ทว่าอิ่มเอมหัวใจ

10) ไม่ใช่แค่นั้น ด้วยเนื้อหาที่ห่างไกลความแฟนตาซีขายฝัน ฉากเซอร์วิสเรี่ยราด หรือพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลจนต้องขมวดคิ้วหลายตลบ "What Did You Eat Yesterday? เมื่อวานเจ๊ทานอะไร" ยังตั้งใจกะเทาะเปลือกความเข้าใจผิดๆ ของชีวิตคู่เกย์เอเชีย และตั้งใจเป็นมวลพลังเพื่อต่อสู้เรื่องกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ถึงแม้ว่าการแก้ไขเรื่องความเข้าใจและสิทธิของ LGBTQ+ จะไม่ใช่เรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ณ ตอนนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความจริงเรื่องนี้ควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ไม่ได้พิเศษอะไร ขอแค่​​อยากให้ปฏิบัติต่อกันในฐานะคนปกติก็เท่านั้นเอง เตรียมนับถอยหลังมาสัมผัสประสบการณ์ความรักที่คุณจะต้องจดจำได้ไปทั้งชีวิต สิ้นสุดการรอคอย 21 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่

Source: TheStandard.co

--------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa