ขวัญ อิสระ เป็นนายตัวเอง-ที่ผ่านมาได้เรียนรู้คำว่า ช่างมันเถอะ!
ขวัญ อิสระ เป็นนายตัวเอง-ที่ผ่านมาได้เรียนรู้คำว่า ช่างมันเถอะ!
ขวัญ อิสระ - หมดสัญญากับช่องพีพีทีวี เรียบร้อยแล้ว สำหรับนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ หลังเคยออกมาเปิดใจว่า ต่อไปนี้จะไม่เอาชีวิตไปแขวนสัญญากับใครอีก และพร้อมรับโอกาสจากช่องต่างๆ
วันนี้นางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ได้ออกมาเปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ หลังหมดสัญญากับอดีตต้นสังกัด ช่องพีพีทีวี
ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างกับการเป็นนักแสดงอิสระครั้งแรกในชีวิต
“นักแสดงอิสระ หรือไม่อิสระ เราก็อยู่บ้านหลังเดิม แค่รู้สึกเปลี่ยนไปที่หน้าจอ มีหน้าโลโก้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าถามคนในวงการบันเทิง เราก็มีบ้านหลังเดียวกันหมด ไม่ว่าจะพี่ผู้กำกับ ทีมงานนักแสดง ทีมโปรดักชั่นทุกท่าน เราก็รู้จักกันหมด วงการบันเทิงก็เหมือนบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง แต่จะมีแยกห้องเยอะ ทำให้คนรู้สึกแตกต่างกันไป”
คิดไหมว่าวันนึงเราจะต้องมาเป็นนักแสดงอิสระ
“มันเป็นช่วงที่ทุกคนต้องการออกไปข้างหน้า ชีวิตเราไม่มีใครอยู่เฉยๆ ได้ ทุกคนต้องการจะก้าวไป จะเป็นก้าวช้าๆ ก้าวกระโดด หรือเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา เพียงแต่ตอนนี้ชีวิตขวัญ เป็นก้าวกระโดดอย่างมั่นคง ในส่วนตัวของขวัญ แค่ก้าวเดียวมันไม่ใช่แค่งานบันเทิง มันยังประกอบด้วยธุรกิจ ที่เราทำอยู่เรื่องของธุรกิจเครื่องสำอางยูซี่และธุรกิจแม่บ้าน เรื่องของการไปลงเรียนหลายที่ หลายหน่วยงาน ได้พบเจอผู้ใหญ่ ได้สร้างมายด์เซ็ต เหมือนปฏิวัติตัวเราให้เป็นมากกว่าคนวงการบันเทิงอย่างเดียว”
คำว่านักแสดงอิสระในยุคนี้ในความรู้สึกขวัญ มันจะมีความมั่นคงมากกว่าที่จะเป็นนักแสดงที่มีสังกัดอยู่ไหม
“มันแล้วแต่คน มันมีมุมมองที่หลากหลาย เหมือนกับการลงทุน บางคนเลือกที่จะลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเขามั่นใจว่าเขาเก่งในด้านนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีความเสี่ยง โดยส่วนตัวขวัญมองว่าเราสามารถทำงานหาเงินได้หลายที่ สมมุติว่ามันมีห้าทางไม่ประสบความสำเร็จไปสองทาง แต่มันก็เหลืออีกสามทางที่ให้ขวัญได้เดิน ประจวบกับอายุของการทำงานมันก็เหลือน้อยลงแล้ว ต้องมีเป้าหมายว่าเราจะทำงานอีกกี่ปี เราไม่ได้อยากทำงานไปตลอดทั้งชีวิตหรอก อย่างขวัญเลือกงานที่มีความมั่นคงลดความเสี่ยงให้มันน้อยที่สุด”
หลังจากนี้ วางแผนไว้อย่างไรบ้าง
“ทำโดยอาชีพ ทำในสิ่งที่เรามีให้ดีที่สุดโดยไม่ทิ้งอย่างใดอย่างหนึ่งตอนเด็กๆ เรามีสองขา ขาหนึ่งคือเรื่องไปเรียน อีกขาหนึ่งคืองานในวงการ เลิกเรียนเสร็จไปถ่ายละคร มาตอนนี้เราโตขึ้นจากการเรียนก็เปลี่ยนเป็นเรื่องของธุรกิจเรื่องของการลงทุนอะไรหลากหลายอย่าง ในชีวิตจะทำอย่างไรให้เรามีความมั่นคงขึ้น ไม่เหมือนก่อนที่โควิดจะเข้ามา ตอนนั้นขวัญมีรายรับทางเดียวคือเรื่องการแสดงเรื่องงานในวงการ”
ย้อนถามถึงสัญญากับช่องพีพีทีวี เราได้อะไรกลับมาบ้าง
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตขวัญมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ขอบคุณพี่ๆ ผู้ใหญ่ทุกคนที่ช่อง 7 ด้วย ขอบคุณผู้ใหญ่ที่เอื้อมมือเข้ามา ทำให้ขวัญได้มาพีพีทีวี เพราะว่าสร้างเสริมประสบการณ์ให้ขวัญได้หลายอย่าง ทำให้ขวัญได้อยู่ในชีวิตจริงมากขึ้น รู้จักพัฒนาตัวเอง ทำให้เราจากที่เป็นน้องขวัญมาเป็นขวัญเต็มตัวในวัย 30 แล้ว เราเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริงว่ามันเป็นอย่างไร”
ไม่ได้คิดว่าเราตัดสินใจผิด
“ไม่นะคะ กับทางช่อง 7 หรือกับทางช่อง 3 เป็นบ้านของขวัญหมด เพราะผู้ใหญ่ทุกท่านจะโอบอุ้มขวัญ ให้การสนับสนุนขวัญมาตลอด ไม่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไรก็ขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างๆ ขวัญ ทุกวันนี้ผู้ใหญ่หลายท่านก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวเรา สอนให้เราคิด สอนให้เราทำ สอนให้เรารู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด”
เราได้อะไรจากเหตุการณ์ครั้งนี้บ้าง
“ความแข็งแรงค่ะ สติและความยึดมั่น ถ้าเราใช้ชีวิตโดยยึดคำว่าฉันชอบอันนี้ฉันไม่ชอบอันนี้ ชีวิตคนเราก็จะล้มขึ้นมาทันที มันจะไม่มีคำว่ากฎระเบียบ แต่ตรงนี้ที่มันเกิดขึ้น เราได้เรียนรู้คำว่าช่างมันเถอะ ล้มบ้างก็ไม่เป็นไร เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นแวดล้อมเรา ได้เรียนรู้เรื่องคน ได้เรียนรู้เรื่องการตัดสินใจการปกครองตัวเอง เราเป็นเด็ก เราเดินตามนาย เรามีสังกัด สังกัดสั่งให้เราทำอะไรเราก็ต้องทำ ไม่สามารถตัดสินใจตามความพอใจส่วนตัวได้ แต่ ณ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอะไรที่พอจะเซฟตัวเราได้มากที่สุด ก็คือเราเป็นนายของตัวเราดีกว่า มีอะไรเราค่อยไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่เราเคารพ”
จะไปเปิดตัวในฐานะนักแสดงอิสระกับช่องไหนก่อน
“(หัวเราะ) ต้องขอบคุณพี่ๆ ผู้ใหญ่ที่รักและเคารพในวงการทุกคน ที่ขวัญหายไปเราก็ได้รับรู้ความรู้สึกว่าเขายังคิดถึงขวัญอยู่เสมอ ยังให้การต้อนรับ ยังมีที่ให้คำปรึกษาอยู่ แต่คำว่าหน้าที่เราก็ยังต้องทำ ณ ตอนนั้นเรามีสังกัด มีข้อตกลงที่เราได้ดีลกันเอาไว้ แต่ 100 กว่าวันที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ก็ยังเอื้อมมือมาหาขวัญ จนวันนึงเราหลุดออกมาได้แล้วเราก็ต้องก้าวไปหาผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราอยู่เสมอ พยายามไปให้ครบทุกที่”
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาครั้งหนึ่ง กรณีที่เราเดินออกจากกองละครของพี่ฉอด สายทิพย์ จนคนมองว่าขวัญเล่นกับผู้ใหญ่ระดับนี้เลยหรอ ตอนนั้นเรากลัวกระทบกับงานในวงการของเราในอนาคตไหม
“เรื่องความกังวลบอกโดยเนื้อแท้เลยว่าไม่มี เพราะเรามั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่ถูก ถ้าเรามองในเรื่องของความเป็นจริง ขวัญโตในวงการมาตั้งแต่สามขวบ มันไม่มีเหตุผลชักจูงอะไรให้ขวัญต้องไปทุบหม้อข้าวตัวเอง นอกจากคำสั่งหรือข้อปฏิบัติที่ขวัญจะต้องทำ ขวัญต้องขอบคุณผู้ใหญ่หลายท่านที่เข้าใจเหตุผลในการทำงาน หรือสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่คนภายนอกเขาจะเข้าใจอะไรยังไงก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราไม่สามารถอธิบายกันได้ทุกเรื่องแต่ก็ขอบคุณที่รักและคิดถึงขวัญมาเสมอค่ะ”
กับพี่ฉอดเคลียร์กันหรือยัง
“โดยส่วนตัวขวัญเคารพและก็อยากร่วมงานกับพี่ฉอดเสมอมา เราเป็นเด็ก เราก็ทำได้เต็มที่ที่สุดแล้ว และพี่ฉอดก็เข้าใจค่ะ”
ขอบคุณ ไอจี @kwanusa9