“น้ำตาล พิจักขณา” เขินโดนถามแพลนวิวาห์ “ไผ่ พาทิศ” รับรัก 11 ปีลงตัว

“น้ำตาล พิจักขณา” เขินโดนถามแพลนวิวาห์ “ไผ่ พาทิศ” รับรัก 11 ปีลงตัว

       เป็นนางเอกคนสวยเจ้าประจำของช่อง 3 สำหรับ “น้ำตาล พิจักขณา” ล่าสุดมาอัปเดตเรื่องแพลนวิวาห์เพราะมีภาพหวานๆระหว่างทริปที่เธอและแฟนหนุ่ม “ไผ่ พาทิศ” ทำรายการกันแบบเหมือนจะมีข่าวดี

       เธอบอกถึงทริปล่าสุดว่า “เที่ยวครั้งนี้ 80%เค้าเป็นคนแพลนของเค้าทั้งหมด วันสุดท้ายที่เค้าพาไปพูลวิลล่าก็คือร้องไห้เลย มีครั้งนึงเค้าพาเราไปล่องเรือดำน้ำ แล้วเรามองไปเห็นพูลวิลล่าหลังนี้ที่อยู่ริมหน้าผามันสวยมาก แล้วเค้าถามเราว่าอยากพักที่นี้หรอ เราก็บอกอืมเราก็ไม่อยากให้เค้าเสียใจ แต่สุดท้ายมันก็เป็นที่นั่นจริงๆ เราก็มีบ่นบ้างแต่เราไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดี เพราะว่าที่ผ่านมาเค้าก็ตามใจเราค่อนข้างเยอะ

      “เราก็ปฏิเสธทริปแบบนี้ไปบ่อย ๆ เพราะหลัง ๆ ถ้าพี่อยากไปกับเพื่อนไปเลย อยากทำอะไรไปเลยแบบเต็มที่ เพราะเราก็รู้ว่าต่างคนก็มีความชอบที่คนละแนว มันไม่ได้เหมือนกัน เมื่อก่อนก็ตามผู้ชายบ่อยเดี๋ยวนี้เราไม่ไหวเลย ความรักไม่ได้ทำให้เราสามารถทำได้ทุกสิ่ง บางทีเราก็ต้องการความสบายบ้างแต่ละทริปมีสตอรี่ตลอด โดนน้ำดูดบ้าง ก็ดีค่ะเรียกว่าผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาเยอะ เราก็พยายามเป็นในแบบที่เค้าชอบให้ได้ก็ครึ่งๆกลางๆ เราก็เป็นคนบอกเค้าเองว่าให้เป็นคนแพลนเราก็ทำไรไม่ได้ มีลำบากบ้างไม่สบายบ้างเป็นสีสันของชีวิต”

         เธออัปเดตเรื่องแต่งงานกับ “ไผ่ พาทิศ” ว่า “คงไม่ได้รอนานขนาดนั้นเพราะว่าก็คบกันมา 11 ปีแล้ว ถ้าถามว่ามีการพูดคุยกันบ้างไหมมันก็มีเพราะว่ามันครบรอบ11ปี ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเยอะผ่านอะไรมาเยอะ แล้วปีนี้พี่เค้าก็มีเรื่องราวในชีวิตเยอะแยะมาหมาย ทริปนี้ก็ถือว่าตามใจเค้า เค้าอยากทำอะไรก็ทำพี่ไผ่เอง เค้าเพิ่งสูญเสียคุณพ่อไป เราก็อยากให้เขาทำอะไรในสิ่งที่เขาต้องการ ถึงแม้ว่าเราจะหอบนิดนึงแต่เราก็ยังความสู้”

        เมื่อถูกถามว่าจะมีเซอร์ไพรส์ระหว่างทริปไหมเธอบอกว่า “ไม่ได้คาดหวังว่าทริปนี้จะถูกขอเซอร์ไพรส์ เพราะว่าที่พักไดร์เป่าผมอะไรก็ไม่มี จะสวยได้ยังไงเพราะหนูบอกเองว่าถ้าเกิดจะขอหนูต้องสวย ต้องขอตอนไม่สวยต้องขอใหม่”

       “มันก็มีเรื่องราวที่ทำให้เราได้ปรับตัวเรื่อย ๆ ให้เราได้เซอร์ไพรส์เรื่อย ๆ แล้วมันเหมือนเติบโตไปด้วยกันเรื่อย ๆ ในแต่ละช่วงจังหวะของชีวิต อย่างปีนี้ก็มีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องอยู่เคียงข้างเขา พยามให้กำลังใจเต็มที่ในช่วงที่คุณพ่อเค้าป่วย ตอนนั้นพี่ไผ่ก็บวช ทุกคนแบบว่าบวชแล้วต้องแต่งแน่เลย แต่ที่จริงอ่ะเค้าบวชเพื่อครอบครัวเค้าคุณพ่อเค้า ซึ่งเราก็ออกมาพูดตรงนี้ไม่ได้เพราะคุณพ่อเค้าป่วยอยู่ มันเหมือนแพลนชีวิตของเราเปลี่ยนไป แล้วเราก็มาคุยกันเรื่องจริงจังของชีวิตมากขึ้นว่าบันปลายชีวิตของตาลเป็นแบบไหน มันก็เหมือนมีการวางแผนมากขึ้น”