รีวิวหนัง "Dark Nuns ไล่มันกลับลงหลุม" ซงฮเยคโยกับโหมดเย็นชา..ที่สามารถปราบผีได้

ถ้าเอ่ยถึงชื่อนางเอกซุปตาร์ดาวค้างฟ้าของเกาหลีที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี อย่าง "ซงฮเยคโย" แน่นอนว่าเราน่าจะคุ้นเคยกับเธอในฐานะนางเอกซีรีส์มากกว่า แต่เธอก็ผันตัวมารับงานแสดงฝั่งหนังจอใหญ่อยู่บ้างแต่อาจจะไม่ได้ถี่ และนี่ก็คัมแบ็กกลับมาเล่นหนังในรอบสิบปีของเธอ และยังเป็นการคัมแบ็กมาเล่นหนังหมวดสยองด้วยใน "Dark Nuns ไล่มันกลับลงหลุม" ที่กระตุ้นความสนใจให้ผู้ชมเป็นอย่างดี เพราะเราไม่ค่อยจะได้เห็นเธอคนนี้ในบทบาทแบบนี้กันสักเท่าไหร่

ฮีจุน เด็กหนุ่มที่กำลังเผชิญหน้ากับการสิงสู่ของวิญญาณชั่วร้าย ทำให้ แม่ชียูเนีย พยายามยื่นมือเข้าไปช่วยให้เขาได้รอดพ้นจากความเจ็บปวดทรมานสาหัสครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เกินตัวและเกินกำลังของเธอเป็นอย่างมาก นั่นทำให้ แม่ชีมิเคลลา สนใจและตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลือในกรณีนี้อีกแรง ท่ามกลางความโกลาหลของสิ่งที่อธิบาย ที่กลายเป็นการเยียวยาเด็กหนุ่มด้วยการใช้พลังศรัทธาแห่งความเลื่อมใสกับหลักการกางการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือเด็กหนุ่มผู้นี้

ผลงานล่าสุดของผู้กำกับไฟแรง "ควอนฮยอกแจ" ที่ปรับโหมดมาลองทำหนังสยองขวัญดูบ้าง ก็ถือว่าเป็นการโชว์ฝีมือในการใส่ใจรายละเอียดของเขาได้ในระดับที่น่าพอใจทีเดียว เพราะหนังเรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นหนังเกาหลีที่ค่อนข้างเด่นในงานโปรดักชันดีไซน์ การจัดองค์ประกอบภาพและแสงสีต่าง ๆ ค่อนข้างเป็นลูกเล่นที่สัมผัสกับอารมณ์ของผู้ชมได้เป็นอย่างดี ผู้กำกับผู้นี้เลือกที่จะใช้เทคนิคความเป็นหนังในการกระตุ้นความกลัวมากกว่าการใช้จังหวะตุ้งแช่หลอกคนดู

Dark Nuns อาจจะไม่ใช่หนังสยองสไตล์หนังผีหลอกหลอนอะไรขนาดนั้น แต่ทว่ามันเป็นหนังที่จับเส้นเรื่องที่ค่อนข้างแข็งแรงดีในการไล่ปราบการสิงสู่ของปีศาจ ที่แทบจะไม่มีเส้นเรื่องอื่นใดนอกจากนี้เลย ทำให้หนังสามารถยืนแช่ในจุดโฟกัสของตัวเองได้ตลอดเกือบสองชั่วโมงของหนัง ปะปนไปกับธีมความเชื่อและความศรัทธาในคริสตจักร ที่ไม่ว่าคนที่นับถือศาสนาใดก็น่าจะสามารถเสพย์คอนเทนท์นี้ได้อย่างเข้าใจและเข้าถึงได้ในระดับหนึ่ง

ถึงแม้ว่าจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Dark Nuns ยังค่อนข้างเป็นเต็มไปด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าและอ่อนช้อยไปสักนิด ความไม่กระชับของหนังพลอยทำให้ตัวหนังดูอืดอาดและสร้างโทนที่น่าเบื่อได้บ้างในบ้างมุม โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกที่ทำการปูเรื่อง แม้ว่าหนังจะไม่รีรอในการเข้าสู่เส้นเรื่องเลย แต่ก็ยังจูงมือผู้ชมออกไปตระเวนเก็บข้อมูลที่จำเป็นบ้างและไม่จำเป็นบ้างไปเรื่อย ๆ คือถ้าตัดและกระชับได้กว่านี้ ก็น่าเพิ่มพูนอรรถรสได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้

ในแง่ของพล็อตและสตอรี่ของหนังก็แทบไม่มีอะไรที่แปลกใหม่เลย เราต่างเคยเห็นดูหนังฮอลลีวูดแนวไล่ผีกันมาก็เยอะ ฝั่งหนังไทยก็สร้างกันออกมาแทบทุกปี ยิ่งเหมื่อนช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน หนังเกาหลีก็สร้างมาตรฐานเอาไว้ได้แน่นมาก ๆ กับ Exhuma จึงเลี่ยงไม่ได้ทีหนังเรื่องนี้จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคอนเทนท์หลอนเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็จัดได้ว่าแต่ละชิ้นงานก็มีเอกลักษณ์ที่ดีเด่นกันคนละแบบ แต่ Dark Nuns อาจจะเสียเปรียบเล็กน้อยตรงที่ความขึงขังชวนติดตามอาจจะทำได้ไม่ถึงกับที่ Exhuma เคยทำเอาไว้

ทีมนักแสดงจึงกลายมาเป็นรับหน้าที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ทั้งหมด ซงฮเยคโย ที่มาพร้อมกับคาแรกเตอร์ในหนังสยองที่คนดูอาจจะไม่ได้เห็นในหนังแนวนี้กันบ่อย แต่ทว่าเธอก็ยังงัดเอาโหมดตัวละครที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ที่เสียดายนิด ๆ ที่การตีความของเธอในบทนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ต่างกับบทที่เธอเคยทำไว้ในซีรีส์ The Glory แค่ปรับมุมจากการล้างแค้นคนมาสู่กลเม็ดการไล่ปราบมารด้วยฉากหลักแห่งความเชื่อเท่านั้น แต่การแสดงของเธอก็ยังเป็นเหมือนเพชรเม็ดงามที่ดึงดูดคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด

"จอนยอบิน" ก็ถือว่ามาเป็นตัวเสริมตัวสมทบที่เติมเต็มได้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ว่าแอร์ไทม์ของหนังจะยังไม่มีพื้นที่ให้เธอได้ปล่อยของได้มากกว่านี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพลังการแสดงในความเป็นมืออาชีพของเธอก็ทรงพลังด้วยดี ร่วมด้วย "อีจินอุค" ที่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าค้นหา เพียงแต่พื้นที่ในหนังอาจจะยังมีไม่เพียงพอที่จะทำให้คนดูได้สำรวจในแง่มุมอื่น ๆ ของคาแรกเตอร์ได้สักเท่าไหร่นัก

แต่ที่อยากจะปรบมือให้ดัง ๆ และเป็นกำลังใจสุด ๆ ก็คือนักแสดงดาวรุ่งเด็กหนุ่ม "มุนอูจิน" ที่เราเห็นเขามาตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ ถือว่าเป็นคนที่น่าจะรับศึกหนักและบทหนักที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว กับการต้องมาเป็นเหยื่อในการสิงสู่ครั้งนี้ ที่การแสดงของเขาถือว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ แค่คนดูนั่งดูก็ยังรู้สึกเหนื่อยและหายใจเร็วตาม ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนทำการแสดงฉากต่าง ๆ เบื้องหน้าของเขาคนนี้จะหนักหน่วงแค่ไหน ถึงถ่ายทอดออกมาได้ดีเช่นนี้

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Dark Nuns ไล่มันกลับลงหลุม ก็ถือว่าเป็นคอนเทนท์หนังไล่ผีจากเกาหลีที่ค่อนข้างน่าพอใจในระดับหนึ่ง ถึงจะยังมีองค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยังต้องปรับแก้นิดหน่อย โดยเฉพาะความกระชับของตัวเอง แต่อย่างน้อย ๆ หนังก็มีท็อปปิกที่แข็งแรงดี การเล่าเรื่องอาจจะยังไม่ตรึงใจที่สุด แต่ก็ได้การแสดงของทีมนักแสดงมาช่วยอุดรอยรั่วได้อย่างมีพลัง ถึงมันจะยังไม่สามารถสร้างมาตรฐานหนังปราบผีเกาหลีได้อีกครั้ง แต่ก็ตอบโจทย์ผู้ชมได้ในระดับที่อิ่มเอมพอประมาณอยู่