Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ ซีรีส์บอกเล่าความรักระหว่างพี่น้องใน Project S The Series ของทางนาวดาวบางกอก ค่ายที่ผลิตสื่อดี ๆ ออกมาให้ติดตามกันอยู่สม่ำเสมอ Side by Side นำแสดงโดย ต่อ ธนภพ รับบทเป็นพี่ยิมที่เป็นออทิสติก และสกายรับบทเป็นน้องโด่ง น้องชายคนละแม่ของพี่ยิม เรื่องนี้เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ในขณะนั้น เป็นความท้าทายของวงการละคร และเป็นความท้าทายของนักแสดงที่จะทำให้เราเชื่อในตัวตนของพี่ยิมและน้องโด่ง การถ่ายทอดความรักที่แน่นแฟ้นของพี่น้องที่มีทั้งเรื่องโรค และเรื่องกีฬาเข้ามาเกี่ยวข้องSide by Side จาก Official Fanpage Nadao Contentเรื่องพี่น้องลูกขนไก่ ดำเนินเรื่องจากครอบครัวหนึ่งที่มี แม่สองคนและลูกชายสองคน โดยมีลูกชายคนโตคือ พี่ยิม ที่ป่วยเป็นออทิสติก พัฒนาการช้าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ แต่มีความสามารถทางด้านกีฬานั่นคือแบตมินตัน และน้องโด่งน้องชายที่ต้องช่วยแม่ดูแลพี่ยิมมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่เป็นนักกีฬาแบตมินตันคู่ เพราะพี่ยิมไม่สามารถเล่นคนเดียวลำพังได้เนื่องจากปัญหาทางด้านอารมณ์ นอกจากในเรื่องจะกล่าวถึงโรคออทิสติกที่พี่ยิมเป็น ยังมีเรื่องราวของโด่งที่ต้องโดนเปรียบเทียบกับพี่ยิมเรื่องแบตมินตันอยู่เสมอ และความน้อยใจที่ทุกคนสนใจตามใจแต่พี่ยิม เกิดเป็นปัญหาภายในจิตใจ การกระทบกระทั่งกันในด้านความรู้สึกของทุกคนในครอบครัวฉากที่ประทับใจในเรื่องนี้มีเยอะมาก และให้ความรู้สึกที่กัดลึกเข้าไปในใจ เพราะเป็นเรื่องที่กล่าวถึงความรักภายในครอบครัวทั้งสิ้น ทำให้เราสามารถเข้าถึงความรู้สึกได้ง่าย โดยเฉพาะฉากที่น้องโด่งตัดสินใจจะแข่งเดี่ยวและทิ้งพี่ยิมเอาไว้ข้างหลัง เป็นฉากที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ความเจ็บปวดของครอบครัวที่ไม่เข้าใจกัน ทำให้เนื้อเรื่องยิ่งบาดลึกเข้าไป หากเราได้ดูตัวอย่างจะมีฉากที่พี่ยิมด่าแม่ตัวเองว่า " เกลียดอีตั้ม " เป็นความรู้สึกที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเนื่องจากพี่ยิมได้พูดออกมาตามความรู้สึก เพราะโรคนี้โกหกไม่เป็น Side by Side จาก Official Fanpage Nadao Contentในซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเสนอด้านของโรคออทิสติกออกมาให้เห็นอย่างสวยงาม และเป็นไปตามความจริง เผยให้เห็นเบื้องหลังของนักแสดงอย่าง ต่อ ธนภพ ที่เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเด็กที่เป็นออทิสติกถึงสามเดือน เพื่อเรียนรู้พฤติกรรม การนึกคิด ท่าทางต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ให้การแสดงเรื่องนี้สมจริง และแบ่งปันความสวยงามของโรคนี้ให้คนอื่นได้รู้ว่า เด็กที่เป็นโรคนี้มีความสวยงาม ไม่ได้น่ารังเกียจ และสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ ประกอบกับการนำกีฬาเข้ามาเกี่ยวทำให้ทราบว่าเด็กออทิสติกมีความสามารถที่จะทำอะไรต่าง ๆ ได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอเพียงได้รับโอกาสเท่านั้น เบื้องหลังการถ่ายทำทุกอย่างเห็นถึงความทุ่มเทของนักแสดงและผู้กำกับ ทีมงานทุกคน ว่ากว่าจะได้แต่ละฉากละตอนต้องใช้ความรู้สึกมากมายขนาดไหนเราจึงได้เห็นละครดี ๆ แบบนี้ มีการสอดแทรกเทคนิคทางด้านกีฬา การฝึกซ้อมแบตมินตันเข้ามาในเรื่องตลอด ไม่ได้ละทิ้ง Concept ของ Project ทั้งกีฬาและเรื่องราวของครอบครัวเข้ากันได้อย่างลงตัวSide by Side จาก Official Fanpage Nadao Contentเหตุผลที่เรื่องนี้อยู่ในใจของทุกคนที่ได้ดูเพราะ การทุ่มเทของทีมงาน เนื้อเรื่องที่เข้าถึงง่ายแต่ความรู้สึกซับซ้อนหลาย ๆ อย่าง การถ่ายทอดอารมณ์และความคิดที่มีออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื้อเรื่องที่เรารู้อยู่แล้วว่าถ้าดูตอนต่อไปต้องร้องไห้แน่ ๆ แต่ก็ยังเลือกที่จะดูต่อ และพบเจอกับฉากต่าง ๆ ที่บีบหัวใจทั้งเรื่อง เรื่องนี้นักแสดงทุกคนทำออกมาได้ดีมาก เรารู้สึกรักพี่ยิมมาก และรักในความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้จนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาทั้งสองต้องมีปัญหากันอีก ฉากแสงสีต่าง ๆ ในเรื่องสวยงาม มุมมองความคิดที่ตรงไปตรงมา ทำให้เราหันกลับมามองครอบครัว หันมาให้ความสำคัญกับความรู้สึกของกันและกันมากขึ้นSide by Side จาก Official Fanpage Nadao Contentอยากส่งต่อให้เรื่องนี้เป็นเรื่องในใจของคนดูทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้จากเรื่องนี้คุ้มค่ามากกับน้ำตาที่เสียไปทั้งเรื่อง ใครที่ชื่นชอบในตัวนักแสดงเช่นต่อ ธนภพ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทดสอบความสามารถมาก และสกายในเรื่องนี้ แสดงเก่งขึ้นมากจากเรื่อง ฮอร์โมน ก่อนหน้านี้ Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ สำหรับเราไม่ได้เป็นเพียงซีรีส์วัยรุ่นธรรมดา แต่เป็นมากกว่าละครเรื่องหนึ่งที่แฝงการใช้ชีวิต แฝงด้านต่าง ๆ ในความคิดของคนมากมายใส่ลงไปในนั้น ถ่ายทอดความรู้สึกที่จริงใจของเด็กที่เป็นออทิสติกลงไป ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคำว่าครอบครัวและพี่น้อง เราหวังว่าถ้าหากใครได้ดูเรื่องนี้ จะรักเขาทั้งคู่เหมือนกับที่เรารักนะคะ